อ้อยใจ แดนอีสาน อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เร่ร่อนเดินเข็นรถขายยำ หาเลี้ยงชีพ

ข่าวบันเทิง ข่าวเด่นออนไลน์ อ้อยใจ แดนอีสาน นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง พลิกผันสู่จุดต่ำสุด ต้องออกเร่ร่อนเดินเข็นรถขายยำแหนม หาเลี้ยงชีพ ตามองไม่เห็น ไร้เงินเก็บ-ไม่มีจะกิน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักร้องลูกทุ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากผลงาน “ลูกทุ่งเบรกแตก” ที่เคยได้รับค่าตัวหลักแสนแต่ปัจจุบันชีวิตเปลี่ยนไปสิ้นเชิง

อ้อยใจ แดนอีสาน นักร้องเงินแสน ตามองไม่เห็น ไร้เงินเก็บ-ไม่มีจะกิน

ชีวิตล่าสุดของนักร้องลูกทุ่งชื่อดังในอดีตที่เคยมีค่าตัวค่าจ้างสูงงานละเป็นปสน “อ้อยใจ แดนอีสาน” ในปัจจุบันเธอนั้นลบภาพนักร้องเสียงดีที่หาเงินแสนได้ในทุกๆวัน ในตอนนี้ที่เธอนั้นต้องออกเร่ร่อนเดินเข็นรถขายยำหาเลี้ยงชีวิต ลูกทุ่งดังในวันนั้นตอนนี้มีดวงตาที่มองไม่เห็นอีก ชีวิตของเธอนั้นพลิกผันเปลี่ยนไปจากจุดสูงสุดมาอยู่ที่จุดต่ำที่สุดจากนักร้องลูกทุ่งชื่อเสียงโด่งดังที่ทุกคนนั้นรู้จักกันในชื่อ “อ้อยใจ แดนอีสาน” นอกจากชีวิตที่เปลี่ยนแปลงลงมาอยู่จุดต่ำที่สุดเธอยังต้องมาขายแหนมเร่ร่อนเดินเท้าไปตามถนนหนทาง เพื่อหาเลี้ยงตัว เร่ร่อนนอนบ้านแฟนคลับ

ล่าสุดอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังคุณอ้อยใจนั้นได้ออกมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนชีวิตของเธอเป็นครั้งแรกว่า ตอนนี้ดวงตาของเธอนั้นไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไปหนึ่งข้าง ชีวิตของเธอในตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก จากในอดีตเคยหาเงินแสนได้อย่างง่ายๆ และมีชื่อเสียงโด่งดังทำให้คนรู้จักเธอในชื่อ “ลูกทุ่งเบรกแตก” แต่ในตอนนี้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงลงมาจุดต่ำสุด ต้องเดินเร่ร่อนมาทำงานมาเป็นแม่ค้าขายยำแหนมอย่างเต็มตัวไปแล้ว

เมื่อไม่นานมานี้คุณอ้อยใจก็ได้มีโอกาสมาเล่าความในใจของเธอผ่านรายการของ “หนูแม่ม” ออกอากาศเป็นครั้งแรกว่าเธอนั้นจะต้องตื่นขึ้นมาเตรียมของเอาไปใส่ไว้ที่รถเข็ญที่เธอใช้เดินขายยำแหนม เพื่อที่เธอนั้นจะต้องออกไปหารายได้มาเลี้ยงชีพ ซึ่งเธอต้องทำแบบนี้ในทุกๆวันเป็นกิจวัตรประจำวัน จุดที่เธอนั้นต้องเข็นรถขายของเพื่อเลี้ยงชีพของเธอไปขายเป็นประจำทุกวันนั้นอยู่ที่บริเวณ หน้าโลตัสพุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งพิธีกรนั้นก็ได้ถามเธอว่าเวลาไปขายของลุกค้าทักเธอว่ายังไง?” เธอก็บอกว่าลูกค้าบางคนนั้นเขาก็เรียกเธอว่าคุณแม่ๆ ซึ่งเธอก็ไม่ทราบหรอกว่าความดังมันเป็นยังไง

เพราะเธอนั้นขายแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงที่เธอเข้าวงการ เพราะว่าคนในครอบครัวของเธอนั้นมีอาชีพขายยำแหนมทุกคน บางครั้งเมื่อก่อนพวกเรานั้นจะต้องเดินหาบมาขายประมาณ 6-7 หาบ และทุกคนในครอบครั้วนั้นก็สามารถขายได้หมด ตกตอนเย็นจะมาพวกเราก็จะมานั่งคุยกันแล้วถามกันว่า วันนี้แต่ละคนนั้นขายได้เท่าไหร่ ในตอนนั้นมันก็รู้สึกสนุกดีค่ะ ตอนนี้เธอบอกว่าเธอนั้นกำลังออกเดินขายอยู่ที่พุทธมณฑลสาย 4 อยู่บริเวณหน้าป้ายรถเมล์

ทุกวันนี้เธอบ่นว่าไม่ค่อยจะมีกำไรเลยแม้ค้าขายทุกวัน แต่เธอนั้นสามารถกินอาหาร อย่างเช่น น้ำพริกปลาป่นอย่างประหยัดมันก็สามารถอยู่ได้ ไม่ต้องไปกินของราคาแพงๆหรือของอะไรที่ดีมาก เพราะในตอนนี้เธอก็อยู่ตัวคนเดียวไปไหนมาไหนเธอก็ไปคนเดียวไปไหนไกลก็ไม่ค่อยจะได้ และตอนไปกินข้าวที่ตลาดซื้อกินเพียงหนึ่งจานก็อิ่มท้องได้แล้ว ตอนนี้ไม่หวังอะไรขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงก็พอแล้ว อยู่แล้วมีความสุขนั้นมันก็น่าจะเกินพอแล้ว

จากนักร้องเสียงดีที่เคยได้รับค่าตัวหลักแสนชีวิตเปลี่ยนแปลงต้องมาทำอาชีพเป็นแม่ค้ารถเข็น เดินนร่อนแร่วางร้านขายยำตามตลาดนัด ที่บางวันนั้นแทบจะไม่มีลูกค้า รายได้ก็แทบจะมีมีพออยู่พอกิน ซึ่งหลายคนนั้นอาจมองว่าชีวิตของเธอในตอนนี้คือจุดที่เธอตกต่ำที่สุด แต่เธอสำหรับเธอนั้นไม่ได้รู้สึกว่าเธอนั้นตกต่ำอย่างเช่นที่ทุกคนคิด  เพราะอาชีพที่เธอนั้นทำอยู่ครอบครัวและเธอนั้นได้ทำมาตั้งนานแล้ว ทำมาตั้งแต่ก่อนที่เธอนั้นจะมีชื่อเสียงโด่งดัง ก่อนเป็นนักร้องเงินแสน ถามว่ารู้สึกอะไรไหมก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะเป็ฯนักร้องและเป็นแม่ค้านั้นมันก็เป็นเรื่องธรรมดา

เพราะการใช้ชีวิตของเธอนั้นเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด ตอนที่เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังเธอก็ยังกินข้าวแกงที่ขายตามทางเดิน ไม่ว่าจะมีเงินหรือไม่มีเงินก็ทำแบบนี้ก็เป็นแบบนี้ อีกอย่างพี่น้องครอบครัวของเธอก็เสียไปหมดแล้ว เวลที่หาเงินมาได้จากการค้าขายเธอก็จะนำเงินไปแบ่งทำบุญกับเด็กกำพร้า แบ่งให้ครอบครัวที่มีฐานะยากจนกว่า แล้วค่อยเดินหน้าหาเงินใช้ใหม่ในวันพรุ่งนี้ เธอมีนิสัยแบบนี้มานานแล้ว ถึงเธอนั้นจะไม่มีเงินเก็บอะไรเหมือนคนอื่น แต่ก็เป็นคนที่ชอบทำบุญ ชอบเป็นผู้ให้แต่ไม่ชอบเป็นผู้รับ เพราะรับไม่เป็นแม้จะให้จนตัวเองนั้นไม่มีเหลือกิน เพราะเธอบอกว่าเธอเหลือตัวคนเดียว กินอะไรก็ได้ตอนนี้ใช้ชีวิตลำพัง บางวันไปนอนอนอยู่ที่บ้านแฟนคลับ บางวันต้องกินข้าวคลุกเกลือ