เปิดใจแร็ปเปอร์ หนุ่มอายุน้อยเลือดนักสู้ จากเด็กขายของในวัดสู่ศิลปินดัง “สไปร์ท ศุกลวัฒน์”

ข่าวบันเทิงวันนี้เราจะพามาดูคำสัมภาษณ์เปิดใจแร็ปเปอร์ ผู้ที่เคยเป็นเด็กบ้านๆขายของตามงานวัด ในวันนี้ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างริบลับ หาเงินเลี้ยงครอบครัวและตัวเองได้อย่างสบาย แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้แต่ละขั้นตอนสู้สุดใจ ผ่านคำดูถูกสารพัด

เปิดใจแรปเปอร์ “สไปร์ท ศุกลวัฒน์” กว่าจะมีวันนี้เส้นไม่ง่าย กลายเป็นศิลปินชื่อดัง โดนสมประมาณมาไม่น้อย ตอนนี้มีทุกอย่างครบตั้งแต่อายุ 16 ปี

ล่าสุด รายงาน WOODY FM ได้เชิญศิลปินวัยรุ่นร่วมสัมภาษณ์ เปิดใจแร็ปเปอร์ ผู้เป็นหนุ่มน้อยรุ่นใหม่ไฟแรง “สไปร์ท ศุกลวัฒน์” อัปเดตเรื่องราวในชีวิตที่ตอนนี้เจ้าตัวมีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงหรือเงินทองทรัพย์มากมายกว่าแต่ก่อน มีฐานแฟนคลับเป็นของตัวเอง และได้อยู่พร้อมหน้ากับพ่อแม่อย่างอบอุ่น และเจ้าตัวยังสร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างเนื่องในเราติดตามอีกด้วย

ในปัจจุบันหนุ่มสไปร์ทอายุได้ 16 ปีแล้ว แม้ว่าอายุจะยังน้อยแต่มากด้วยความสามารถ ไม่ว่าจะร้องเพลงหรืองานเต้น เจ้าตัวสามารถทำออกมาได้อย่างดี ส่วนใหญ่เขาจะร้องเพลงแร็ปออกมาในแนวคล้ายลิเก แต่ก็สามารถร้องได้ทุกแนวเพลง ไม่นานมานี้เจ้าตัวมาเป็นแขกรับเชิญให้กับรายงานดังอย่างวู้ดี้เอฟเอ็ม

เมื่อพิธีกรดังถามว่าหนุ่มสไปร์ทเคยพบเจอกับคำสมประมาณบางไหม เจ้าตัวตอบทันทีว่าเจอมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยแล้ว ครั้งที่ได้ออกรายงาน SUPER 10 ตอนนั้นเลือกเพลงของปูจ๋านมาร้องในรายการ เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ได้ยินชาวบ้านพูดกันว่า “มันก็ได้แค่นั้นแหละ คงไม่ไปไกลกว่านี้แล้ว” ตอนนั้นด้วยความที่ยังเป็นเด็กจึงรู้สึกโกรธมากเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ และตั้งแต่วันนั้นมาก็ตั้งใจว่าจะทำให้ได้ ต้องยอมรับว่ามันเป็นแรงจูงใจได้อย่างดี ทำให้เราตั้งใจทำงานเพื่อพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราไม่ได้จะอยู่แค่เท่านั้นที่เขาบอก

แม้ตอนนี้อายุได้ 16 ปี ยังคงเจอดราม่าอยู่เลย ส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของแนวเพลงมากกว่า ในฐานะที่เราเปิดตัวมาในแนวฮิปฮอปแรปเปอร์ ผลงานเพลงที่ออกมามักจะมีการสอดใส่เสียงระนาด เพื่อแสดงความเป็นไทยในบทเพลง คนมักจะล้อเลียนว่าเขาเป็นลิเกมากกว่าทำนองนี้

ตั้งแต่มาเป็นศิลปินและประโยคหรือคำด่าที่ทำให้เราเจ็บที่สุด คือ การที่คนมาวิจารณ์แนวเพลงของเรา คำพูดมันออกไปในแนวเหยียดเพลงว่าคล้ายลิเก ส่วนตัวเขาคิดว่ามันผิดด้วยหรือ? ทำเพลงในแบบลิเกไม่ดีตรงไหน แต่ก็พยายามไม่สุดใจมากนัก แต่ยอมรับว่าช่วงแรกให้ความสนใจกับเสียงตอบรับ และเกิดความเครียดมากด้วย

เมื่อนึกขึ้นได้ว่ากลุ่มคนที่มาวิจารณ์เหยียดแนวเพลงที่เขาทำเป็นใครก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้มารู้จักตัวตนเรา ส่วน “พี่นีโน่” ผู้เป็นเจ้าของค่ายเพลง HYPE TRAIN เขาสอนว่ามนเป็นเรื่องที่เราต้องเจอเป็นเรื่องปกติ และทุกคนศิลปินหลายท่านก็เคยเจอแบบนี้ อย่าเก็บมาใส่ใจตั้งใจทำงานหาเงินมาเลี้ยงพ่อแม่คนที่เขารักเราดีกว่า ทำให้เราคิดตามและเลิกสนใจในเรื่องนี้

ความสุขในชีวิตช่วงเวลานี้คือ รู้สึกดีที่ตัวเองสามารถหาเงินมาให้พ่อแม่ใช้ได้แล้ว ทำให้พ่อแม่สบายได้ ส่งน้องเรียนได้ ภูมิใจมากไม่คิดมาก่อนว่าจะมีวันนี้ได้ มันเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย ตอนนี้มีความสุขมากในชีวิตที่เคยผ่านมา

เรื่องที่กำลังสนใจในตอนนี้ คือ การผลิตผลงานเพลงออกมาและมีคงฟังคนชอบ เมื่อได้เงินมาเขาจะโอนไปให้พ่อกับแม่หมดเลย และแม่มักจะโอนเงินกลับมาให้ เพื่อใช้เป็นค่าขนมและค่าอื่นๆ โอนให้เราใช้เป็นรายเดือน

พิธีกรดังยิ้มตามด้วยความภาคภูมิใจไปกับศิลปินหนุ่มน้อย ซึ่งเขาได้ก้าวผ่านอุปสรรคและปัญหามาได้เยอะ วูดดี้กล่าวชมสไปร์ท “พี่รู้สึกภูมิในตัวสไปร์ทมาก” ก่อนจะถามต่อไปว่าแล้วพ่อแม่เขาว่ายังไงบ้างที่เรามาถึงจุดนี้

สไปร์ทเปิดเผยว่าพ่อแม่บอกว่าพวกท่านภูมิใจตัวเขามากที่ทำให้พ่อแม่มีความสุขทั้งกายใจ ทำให้ครอบครัวได้อยู่สบาย ก่อนเขาจะเผยความคิดว่าต่อไปในอนาคตจะก็บเงินเปิดห้องเช่าให้เป็นธุรกิจให้เก็บเงินเป็นรายเดือนได้ เพราะจะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนเข้ามาทุกเดือน

ขอแสดงความชื่นชม “สไปร์ท” หนุ่มน้อยในวัย 16 ปี ชีวิตพลิกเปลี่ยนเพราะความอย่างเอาชนะคำสมประมาณจากเพื่อนบ้าน จนวันนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่คนทั้งประเทศรู้จัก มีชื่อเสียงมีเงินทอง และมีกลุ่มแฟนคลับแฟนเพลงเป็นของตัวเอง และเป็นเรื่องท่าภูมิใจกับพ่อแม่ กลายเป็นเสาหลักของบ้านให้พ่อแม่และน้องพึ่งพิง ก้าวผ่านคำดูถูกสารพัด