คนงานเสี่ยโป้ จบชีวิตในบ้านสยอง พบบาดแผลถูกแทงตามตัว 40 แห่ง ก่อนเกิดเหตุโทรสั่งลาเมีย

ข่าวอาชญากรรม ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานการจบชีวิตสยองคาบ้านพัก คนงานเสี่ยโป้ วางแผนปลีกชื่อตัวเองโดยใช้มีดเป็นอาวุธแทงเข้าตามลำตัวรวมถึงต้นคอ ก่อนหน้าเกิดเหตุโทรสั่งลาเมีย อะไรเพื่อนออกจากห้องเปิดทางสะดวก “ฆ่าตัวตาย”

คนงานเสี่ยโป้ จบชีวิตสยองคาบ้าน พบบาดแผลตามตัว 40 แห่ง ก่อนตายโทรลาเมีย ไล่เพื่อนออกจากห้องก่อนปลิดชีวิตตัวเอง

ในวันที่ 27 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ภาษีเจริญ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้ใช้อาวุธมีดแทงตัวเองฆ่าตัวตาย และได้สิ้นใจภายในบ้านพักหลังหนึ่งที่อยู่ภายใน ซอยเพชรเกษม 44 เมื่อเจ้าหน้าที่รับเรื่องลดลงพื้นที่ตรวจสอบทันที ทั้งนี้ทีมแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราชและเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุครั้งนี้ด้วย

สถานที่เกิดเหตุ คือ อาคารพาณิชย์สูงจำนวน 4 ชั้น พบว่าอาคารนี้ประกอบธุรกิจผลิตเสื้อสกรีน มีห้องนอนอยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นสถานที่พบศพคนงานเย็บผ้าวัย 38 ปี นาย โม มิน ลาด คนแรงงาน myanmar สภาพการเสียชีวิต โดยร่างกายปราศจากการนุ่งห่มเสื้อ แต่ผู้ตายนุ่งเพียงโสร่งสีน้ำเงินเท่านั้น

บริเวณคอของผู้ตายมีร่องรอยการแทงด้วยอาวุธมีด เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบร่างกายทั้งหมดพบว่ามีบาดแผลมากกว่า 40 แห่ง ขณะเดียวกันแรงงานชาวเมียนมาร์ที่ทำงานร่วมกับผู้ตายอยู่ในอาการตื่นตกใจเป็นอย่างมากหลังจากรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (เพื่อนแรงงาน 4-5 คน) ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญแรงงานทั้งหมดไปพิมพ์ลายนิ้วมือที่โรงพัก พร้อมจะเรียกมาสอบปากคำเกี่ยวกับกรณีการฆ่าตัวตายของแรงงานชายคนนี้

ในเบื้องต้นเพื่อนแรงงานของผู้ตายได้เล่าว่า ในวันที่ 26 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 4 ทุ่ม พูดตายได้ติดต่อโทรกลับไปหาภรรยาที่อยู่ประเทศเมียนมา และได้ทำการสั่งเสีย จนเวลาล่วงเลยมาประมาณตี 1(27 ม.ค. 66) เพื่อนแรงงานที่อยู่ข้างห้องก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง ก่อนจะเข้าไปตรวจสอบดูที่ห้องผู้ตาย ซึ่งตอนนั้นเขายังไม่ได้ก่อเหตุและไล่เพื่อนคนงานคนนี้ไปนอนที่อื่น จนรุ่งเช้าวันนี้ก็ได้เปิดประตูเข้ามาพบกับร่างไร้วิญญาณที่มีอาวุธมีดปักอยู่ที่คอ ปรากฏว่า นายโมมินลาด ได้เสียชีวิตลงแล้ว นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าผู้ตายเพิ่งจะเลิกดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่นานด้วยวิธีการหักดิบ 3-4 วันที่ผ่านมานี้เอง อาจเป็นไปได้ว่าผู้ตายอาจจะเกิดความเครียดรุนแรง

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวเปิดเผยว่า อาคารพาณิชย์หลังที่เกิดเหตุนั้นผู้เป็นเจ้าของคือ “เสี่ยโป้ โป้ อานนท์” ซึ่งในขณะนี้อยู่ในเรือนจำ ภายหลังจากที่กระทำความผิดในข้อหาชักชวนเล่นพนันออนไลน์ ศาลตัดสินให้จำคุกจำนวน 50 ปี