ทำแผนคนร้าย ฆ่าสาวอายุ 27 ปี นอนเปลือยอยู่บนเตียง กราบเตียงขอขมาเหยื่อ

ข่าวอาชญากรรม เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 เวลา 11.00 น. พลตำรวจโท อำพล บัวรับพร ซึ่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พลตำรวจตรี ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พันตำรวจเอก วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พันตำรวจเอก เติมรัศม์ จินดาวัฒน์ ผกก. สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้มีการออกมาแถลงผลการจับกุมตัว นายเอกพจน์ อายุ 33 ปี อาศัยอยู่ที่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุบีบคอ สาวอายุ 27 ปี เสียชีวิตนอนเปลือยอยู่ภายในห้องพักของคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านถนนศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่า สามารถจับกุมตัวได้ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ย่านคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี นายเอกพจน์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาโดยได้ให้การรับสารภาพว่า ได้มีการก่อเหตุดังกล่าวจริงๆ เนื่องจากโกรธแค้นที่ถูกผู้เสียชีวิตต่อว่า หาว่า เจ้าโลกของตนเล็กทำให้ไม่เคยเสร็จ จึงบันดาลโทสะบีบคอจนเสียชีวิต และได้ทำการหยิบทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตก่อนที่จะทำการขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตำรวจจึงควบคุมตัวมาประกอบการ ทำแผนคนร้าย

ทำแผนคนร้าย ฆ่าสาวอายุ 27 ปี นอนเปลือยอยู่บนเตียง

พลตำรวจโท อำพล บัวรับพร ซึ่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เผยว่า ผู้ก่อเหตุเคยติดคุกมาตั้งแต่ปี 59 โดยพึ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้ก่อเหตุลักษณะเช่นนี้มาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่จะว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องก็คงจะไม่ใช่ แต่เขาชอบแบบนี้ เกรงว่าจะไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก หากมีผู้เสียหายรายใดที่ได้เคยถูกก่อเหตุลักษณะเช่นนี้ขอให้มาแจ้งความ เนื่องจากเชื่อว่าอาจจะไม่ได้มีเพียงรายนี้รายเดียว จึงอยากที่จะฝากเตือนสาวๆ ที่เล่นโซเชียลและได้มีการเชิญชวนให้มามีอะไรกัน ชวนกันมาที่ห้องพักก็มักจะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น หากยังจับไม่ได้เกรงว่าจะไปก่อเหตุกับผู้อื่นอีก ขนาดวันเดียวยังก่อเหตุถึง 2 ครั้ง มันก็จะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเป็นมืออาชีพและทุ่มเท ทำทุกวิถีทางในการใช้กำลังความสามารถและอดทน เนื่องจากเขาหนี ก็ต้องขอชมเชย

ต่อมา พันตำรวจโท ประสิทธิ์ เมฆษา ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้เข้าร่วมกันควบคุมตัวนายเอกพจน์ ได้มีการเดินทางไปทำแผนที่คอนโดที่เกิดเหตุ โดยได้เริ่มตั้งแต่ขับขี่จักรยานยนต์มาจอดยังบริเวณหน้าคอนโด ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะลงมารับให้ขึ้นไปบนห้อง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ก่อเหตุชี้จุดก่อนที่จะเข้าไปก่อเหตุภายในห้องของผู้เสียชีวิต ระหว่างที่ผู้ก่อเหตุก้าวขาเข้าไปภายในบริเวณห้องพักของผู้เสียชีวิต เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพในขณะที่กำลังลงมือฆ่า จู่ๆ ผู้ก่อเหตุก็มีอาการขาสั่น หน้าซีด คล้ายจะเป็นลม เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปช่วยพยุงก่อนที่จะพาผู้ก่อเหตุไปนั่งพักที่เตียงนอน

ผู้ก่อเหตุได้มีการขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาพานใส่ดอกไม้เพื่อที่จะนำมาขอขมาผู้เสียชีวิต จนมีอาการดีขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในขณะที่กำลังลงมือบีบคอผู้เสียชีวิต หลังจากนั้นก็ได้มีการเดินย้อนกลับมาที่ปลายเตียงก่อนจะหยิบเอาทรัพย์สิน ซึ่งประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตจำนวน 3 เครื่อง พร้อมสร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท ที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งบริเวณปลายเตียง ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปอย่างใจเย็น จากนั้นก็ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป และยังได้มีการก่อเหตุลักษณะเดียวกันภายในพื้นที่ สน.บางนา โดยทำแผนนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะมีการควบคุมตัวไปขออำนาจฝากขังยังศาลจังหวัดสมุทรปราการ

ทางด้านของผู้บริหารคอนโดที่เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งได้มีการออกมาขอความเป็นธรรมกับทางผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องของการนำเสนอข่าวที่ได้มีชื่อของคอนโดออกไปตามสื่อต่างๆ จนทำให้คอนโดได้รับผลกระทบ สื่อบางสื่อหรือสื่อโซเชียล โดยได้มีการนำเสนอในทำนองว่า รปภ. ของคอนโดมีส่วนรู้เห็นกับผู้ก่อเหตุ ทำให้มีคนเข้ามาคอมเมนต์ส่งผลให้คอนโดได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังถูกผู้ที่อาศัยอยู่ภายในคอนโด ยังได้ลงมาต่อว่าทางคณะผู้บริหารคอนโด มีบางรายขอย้ายออกจากคอนโด ทำให้ทางผู้บริหารคอนโด ได้รับผลกระทบกันอย่างหนัก ทั้งที่ทางคอนโดก็ได้มีการให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักข่าวหลายๆสำนักที่ได้เข้ามาหาข้อมูล รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิด ที่เห็นใบหน้าของผู้ก่อเหตุอย่างชัดเจน ซึ่งนำไปสู่การจับตัวผู้ก่อเหตุ จึงอยากจะชี้แจงว่าทางคอนโด มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดี ยืนยันว่า รปภ. ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาพยายามทำตามหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่ทางโลกโซเชียลกลับไปลงข่าวว่า รปภ. ได้มีการสมรู้ร่วมคิดกับผู้ก่อเหตุ ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร เขาก็ทำงานของเขา