Friday, 22 November 2024

เก็บความแค้นมานาน 40 ปี ยายคว้ามีดแทงสามี วัย 74 ดับอนาถ ไม่หวั่นติดคุก แต่จะไม่ทนสามีขี้หึงหวงมาด่าทอทำร้ายร่างกาย

รายงานข่าวล่าสุด สืบเนื่องมาจากช่วงดึกของวันที่ 6 กันยายน 2564 กรณี ยายคว้ามีดแทงสามี วัย 74 ดับอนาถ บริเวณหน้ารั่วหน้าบ้าน หมู่บ้านโนนรัง ตำบลโนนสุวรรณ อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสุวรรณ ร.ต.อ.วีรวุฒิ รัตน์ประโคน รองสารวัตรสอบสวน ผู้รับแจ้งเหตุ พร้อมกับทีมแพทย์เวรโรงพยาบาลโนนสุวรรณ และทีมเจ้าหน้ที่กู้ภัยรีบรุดลงพื้นที่ตรวจสอบ

สล็อต xo Slotxo

เก็บความแค้นมานาน 40 ปี ยายคว้ามีดแทงสามี วัย 74 ดับอนาถ บริเวณรั่วหน้าบ้าน ไม่หวั่นติดคุก แต่จะไม่ทนสามีขี้หึงหวงมาด่าทอทำร้ายร่างกาย

เก็บความแค้นมานาน 40 ปี ยายคว้ามีดแทงสามี วัย 74 ดับอนาถ บริเวณรั่วหน้าบ้าน ไม่หวั่นติดคุก แต่จะไม่ทนสามีขี้หึงหวงมาด่าทอทำร้ายร่างกาย

เมื่อจากหน้าที่ตำรวจพร้อมทีมงานที่เกี่ยวข้องหลังรับแจ้ง ยายคว้ามีดแทงสามี วัย 74 ดับอนาถ ก็ได้รีบรุดลงพื้นที่โดยทันที และเมื่อไปถึงหน้าบ้านบริเวณรั้วบ้านหลังเกิดเหตุ สังเกตพบเลือดกองโตอยู่บริเวณประตูรั้วของบ้านหลังเกิดเหตุและได้ข้อมูลทราบเพิ่มผู้ถูกมีดแทงคือ นายหลวง วัย 74 ปี ซึ่งบรรดาญาติและเพื่อนบ้านได้นำไปส่งโรงพยาบาลโนนสุวรรณเป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้นายหลวงได้เสียชีวิตลงแล้ว เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว เมื่อเจ้าหน้าที่ได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลพบว่าผู้ตายมีรอยถูกแทงที่บริเวณลำคอเป็นจำนวน 3 แผล และในส่วนของผู้ก่อเหตุนั้นไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นภรรยาผู้ตายคือ นางเพ็ญศรี วัย 61 ปี ซึ่งเมื่อได้ก่อเหตุเสร็จสิ้นนางเพ็ญศรีก็ไม่ได้หลบหนีหายไปไหน ได้เดินถือมีดที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นมาพบผู้ใหญ่บ้านก่อนนางเพ็ญศรีจะตัดสินใจเข้าไปมอบตัวที่ สภ.โนนสุวรรณ

ในส่วนญาติที่เป็นหลานสาวของผู้ตายนั้นได้ออกมาเผยว่า ทั้งตาหลวงและยายเพ็ญศรีนั้นอาศัยอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุด้วยกันเพียง 2 คนเท่านั้น เพราะลูกหลานที่มีก็มีการแยกย้ายกันไปแต่งงานมีครอบครัว และไปทำมาหากินต่างที่ออกไป ในส่วนของตายายที่อยู่ด้วยกันก็จะชอบทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง เนื่องมาจากตาเป็นคนขี้หึงหวงและยังชอบคิดไปเองว่ายายมีคนอื่นทั้งๆที่ 2 คนก็อายุมากแล้ว การทะเลาะครั้งล่าสุดก่อนเกิดเหตุยายขอเงินตาไปซื้อของเพื่อใช้ไปทำบุญข้าวประดับดินประเพณีที่จัดขึ้นของทุกๆปีในวัดของหมู่บ้าน แต่ไม่รู้ตาคิดอะไรอยู่ได้โวบวายเสียงดังจนเป็นเหตุให้ยายตาทะเลาะกันอีกครั้ง ตนที่เป็นหลานสาวเมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบชวนยายไปทำบุญที่วัด เพราะไม่อยากให้ทั้งสองทะเลาะกัน เมื่อทำบุญเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านตนไม่รู้ว่ายายตาจะทะเลาะกันอีกไหม จนเวลาผ่านมาก็รู้ว่ายายได้เอามีดแทงตาเสียแล้ว

ทั้งนี้ ผู้ใหญ่บ้าน หรือ นายสมดี จันทะคาม เป็นทั้งผู้ใหญ่บ้านและเป็นน้องชายของคุณยายผู้ก่อเหตุ ได้เล่าว่า ตนได้ผ่านมาเห็นช่วงเวลาที่กำลังทะเลาะกันเป็นประจำ เพราะทั้ง 2 ได้ทะเลาะกันบ่อยครั้ง ทั้งนี้ผู้ตายยังเป็นคนขี้โวยวายชอบใช้อารมณ์และชอบจะทำร้ายทุบตีพี่สาวของตนอยู่เสมอ ล่าสุดที่ทะเลาะกันที่พี่สาวขอเงินผู้ตายไปซื้อของไปทำบุญประเพณีข้าวประดับดิน (เช้า 6 ก.ย. 64) ผู้ตายได้โวยวายไม่ยอมให้เงิน หลานๆและญาติต้องเข้าไปห้ามกันก่อนที่หลานจะรีบชวนยายไปวัดในหมู่บ้าน จนเวลาผ่านมาช่วงเย็นได้ยินเสียงของทั้งสองทะเลาะกันอีกครั้ง ที่ตนได้ยินทันทีที่ทั้งสองทะเลาะกันเพราะบ้านตนอยู่ฝั่งตรงข้าม ครั้งนี้ที่ทะเลาะกันตนก็คิดว่าทะเลาะกันตามปกติทั่วไปเหมือนที่ผ่านๆมา และผ่านไปสักพักใหญ่เสียงทะเลาะได้เงียบลงและตนได้เห็นพี่สาวถือมีดที่อาบไปด้วยเลือดเดินมาหาตนที่บ้าน พอเห็นก็ตกใจเพราะคิดว่าพี่สาวจะทำร้ายตัวเอง  แต่ยายเพ็ญศรีได้กล่าวขึ้นว่า มันสุดๆแล้ว ทนมา 40 ปี ติดคุกก้ยังออกมาได้ แต่ทนต่อไปอีกมันไม่ไหวแล้ว จึงได้รู้ว่ายายเพ็ญศรีแทงตาหลวงสามี คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุที่รุนแรงขนาดนี้เกิดขึ้น อาจจะเป็นเพราะตาหลวงชอบมีพฤติกรรมด่าทอพร้อมประณามยายเพ็ญศรี บ้างก็ว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีทั้งยังทุบตีอยู่บ่อยครั้งก่อนยายจะตัดสินใจลงมือแทงตาที่คอ 3 ครั้งจนดับ