อึ้งหนัก ! จับลุงเขยข่มขืนหลาน 12 ปี ป้าออกตัวแทนอ้างเด็กมันยั่ว!

(เมื่อวันที่14 มิถุนายน 2564 ) ผู้รายงานข่าวได้รับแจ้งเหตุอาชญกรรมว่า ลุงเขยข่มขืนหลาน จากชาวบ้านหนองกระทุ่ม หมู่ที่ 3 ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ว่าอยากให้นักข่าวเข้าไปตรวจสอบ กรณีของเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่มาอยู่อาศัยนกับป้าและลุงเขย แล้วถูกล่วงละเมิดทางเพศมานานนับปี และเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า

เพื่อนแม่แจ้งจับ ลุงเขยข่มขืนหลาน นานแรมปี

จากการตรวจสอบของผู้รายงานข่าวลุงเขยข่มขืนหลานทราบว่า เพื่อนของแม่เด็ก อายุ 40 ปี เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน เล่าว่า ก่อนหน้านี้แม่เด็ก ได้โทรมาแจ้งว่าให้ช่วยไปดูลูกสาวที่อาศัยอยู่กับพี่สาวและพี่เขยให้หน่อย เพราะลูกสาวโทรมาแจ้งว่าถูกลุงเขยข่มขืน ตนจึงแอบไปสอบถามเด็กว่าเป็นความจริงไหมหรือว่าโกหก และเด็กก็บอกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง เด็กหญิง 12 ปี ถูกลุงเขยข่มขืนจริง ตนก็เลยรีบไปแจ้งชาวบ้านให้ทราบ เมื่อชาวบ้านทราบข่าว จึงได้มีการโทรแจ้งตำรวจ สภ.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง ให้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องนี้

ต่อมา ร.ต.อ ฉลาด สุขวิเศษ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หินเหล็กไฟ ได้เชิญตัว นายทูร (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี (ลุงเขย) ชาว ต.บ้านยาง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ไปสอบสวน โดยนายทูร ให้การกับตำรวจ ว่าตนไม่ได้ข่มขืนหลานสาว แต่ยอมรับว่าตนแค่ได้ใช้มือลูบคลำของสงวนของหลานสาวจริง ตำรวจจึงตั้งข้อหา ”อนาจาร” ก่อนนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ด้าน นางเสวย (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ภรรยานายทูร ป้าของเด็ก เล่าว่า ตนได้เป็นคนเลี้ยงดูน้องเมื่อ 4 ปี ที่ผ่านมา หลังจากพ่อแม่เด็กแยกทางกัน โดยน้องสาวเอามาฝากให้เลี้ยง ก่อนหน้านี้ตนไม่ทราบเรื่องมาก่อน จนกระทั่งมีตำรวจมาเชิญตัวเพื่อไปให้ปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหาว่าสามีตนได้ทำอนาจารหลานสาว พอรับรู้เรื่องราวทั้งหมดยอมรับว่างงไปหมด ตนจึงสอบถามสามีว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความจริงไหม สามีบอกว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแค่ใช้มือลูบคลำของสงวนของเด็กเท่านั้น

ส่วนสาเหตุที่ลูบคลำ เพราะเด็กมันเข้ามายั่วหลังจากอาบน้ำเสร็จ ซึ่งเด็กนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวและมักจะเปิดให้ดูแว้บๆ พร้อมกับพูดว่า ขอแค่ 100 เดียว ลุงจะทำอะไรก็ได้ เมื่อได้ยินดังนั้นตนจึงเข้าไปลูบคลำอย่างเดียว และยอมรับว่าไม่ได้ข่มขืนหลานสาวแต่อย่างใด ตอนนี้ครอบครัวตนได้รับความเดือดร้อนเพราะเด็กคนนี้ ไม่คิดว่าเด็กจะมาหักหลัง ทั้งที่เลี้ยงมาหลายปี ส่วนเด็กตอนนี้มีคนมารับไปแล้วไม่รู้ว่าใครเอาไปตนไม่สนใจแล้ว