ทำได้ลงคอ! ศพทารกแช่แข็ง ค้นเจอในเชียงใหม่ เหลือแต่ซากไม่รู้เพศและอายุ

ข่าวอาชญากรรม เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานสลด หลังตำรวจได้รับแจ้งเหตุ ศพทารกแช่แข็ง ภายในตู้เย็นของบ้านพักหลังหนึ่งที่อยู่พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับของเล่นเด็กสภาพเก่าแล้ว 3-4 ชิ้น

รับแจ้งเหตุสลด ศพทารกแช่แข็ง ในบ้านพักหลังหนึ่งในเชียงใหม่ เหลือแต่ซากเผยกระดูกหัวแตก จนท.ไม่สามารถระบุเพศและอายุได้ คาดตายมาแล้วกว่า 1 ปี

ร้อยตำรวจเอก พงษ์ศักดิ์ ทิวรรณา รว.สภ.แม่ปิง ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องสลดเมื่อวานที่ผ่านมา รับแจ้ง ศพทารกแช่แข็ง เรื่องเกิดขึ้นภายในบ้านพักหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลวัดเกต อำเภอเมืองเชียงใหม่ ก่อนจะเร่งประสานงานเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยเร่งรุดลงพื้นที่ตรวจสอบทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ภายในบ้านพบตู้แช่แข็ง ซึ่งภายในบรรจุแช่ซากศพของเด็กทารกที่ตอนนี้เหลือเพียงกระดูกถูกห่อคุ้มไปด้วยผ้าอ้อม เปิดออกดูเจอแต่กระดูก โดยส่วนของกระดูกศีรษะนั้นพบว่ามีรอยแตกหักด้วยกันหลายจุด และยังมีเศษของเส้นผมปะปนอยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารุคาดได้เลยว่า ซากทารกดังกล่าวมีอายุหรือเพศอะไร แต่ที่รู้ได้คือศพนี้เสียชิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปีแน่นอน นอกจากนี้ยังสังเกตพบว่าบริเวณข้างผ้าอ้อมห่อซากศพทารกมีของเล่นสำหรับเด็กจำนวน 3-4 ชิ้นด้วยกันถูกนำไปแช่ในตู้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการสอบปากคำผู้เป็นเจ้าของบ้านดังกล่าว ได้ข้อมูลมาว่า คนที่อาศัยอยู่ในบ้านคนปัจจุบันเป็นเพียงญาติ ส่วนเจ้าของบ้านนั้นอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ และเมื่อไม่นานมานี้เจ้าของบ้านกลับมาที่บ้านพักแห่งนี้และได้เดินทางกลับไปต่างประเทศเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา

โดยทางญาติที่มาอาศัยได้มีการค้นข้าวของเครื่องใช้ออกจากบ้านหลังนี้ เนื่องจากเจ้าของบ้านต้องการที่จะรีโนเวทบ้านหลังนี้ใหม่ และเพื่อเป้นการเตรียมปรับปรุงก่อนที่เจ้าของบ้านเองจะย้ายมาอยู่อาศัย และเมื่อได้เข้ามาตรวจสอบดูภายในบ้าน ปรากฏว่าตู้แช่ได้ถูกเสียบปลั๊กทิ้งเอาไว้ และตู้แช่ดังกล่าวได้มีการปิดล็อกด้วยกุญแจอย่างเน้นหนา เมื่องัดกุญแจออกดูจึงเจอซากของศพทารกตามรับแจ้ง เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าซากทารกถูกนำมาแช่เย็นนานแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามหาผู้ที่มีความเกี่ยวในบ้านพักหลังเกิดเหตุมาสอบถามหาเรื่องราวข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพื่อให้รู้ที่มาของซากทารกแช่แข็ง และเจ้าหน้าที่ได้นำซากศพทารกส่งไปศูนย์นิติเวชประจำ รพ. มหาราชนครเชียงใหม่ ให้มีการตรวจสอบชันสูตรหาสาเหตุของการสียชีวิต พร้อมกับตรวจ DNA หาผู้ปกครองและเพศของเด็ก ทำไมเด็กถึงถูกแช่แข็งเขาตายเองหรือถูกฆาตกรรม หากเป็นการอำพรางศพจะต้องจับคนผิดมารับโทษทางกฎหมาย

ล่าสุด นางศรีน้อย ประภาพรรณ อายุ 83 ปี มารดาของเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ ได้ออกมาไขความกระจ่างที่มาซากทารกแช่แข็งในบ้านพัก ความจริงแล้วซากทารกเป็นลูกของนายเอ้ว นายเอ้วเป็นหลานชายของสามีที่รับเขามาเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเด็ก โดยเมียของนายเอ้วได้คลอดลูกและเสียชีวิต และเขาไม่สามารถยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ จึงได้นำทารกมาแช่เย็นไว้เพื่อขอเวลาทำใจเป็นเวลา 1 เดือน

ก่อนหน้านี้ตนได้บอกกล่าวนายเอ้วให้นำเอาศพลูกออกไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลตามศาสนา แต่นายเอ้วก็ขอเก็บศพลูกเอาไว้อีกสักพัก เพราะไม่สามารถทำใจในการจากไปของลูกได้จริงๆ นางศรีน้อย ได้ย้ายออกจากบ้านหลังเกิดเหตุแล้วก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีก จนมารู้ข่าวว่านายเอ้วได้ถูกจับข้อหาลักทรัพย์ ก่อนจะมีผู้มาพบศพทารกแช่เย็นในบ้านพักของลูกตน