กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ประกาศเตือนภัย 3 จังหวัด เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ปริมาณและมวลน้ำอาจทลักเข้าท่วมสูง

ข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมานี้ รายงานจาก กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้แจ้งประกาศด่วนแก่ 3 จังหวัด เสี่ยงภัยน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมสูง ซึ่งมวลน้ำที่มีได้รับผลกระทบมาจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” จนทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ในประเทศไทย น้ำในแม่น้ำทุกสายมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เตือน 3 จังหวัด ระวังน้ำทะลักเข้าท่วมสูง จากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้รับมวลนำมาจากกลุ่มแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่าน จากพายุลมฝนจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่”

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ โร่แจ้งประกาศด่วน เตือนภัยพื้นที่ 3 จังหวัด เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีมวลน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่องจากผลกระทบจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” โดยระบุการรายงานไว้ดังต่อไปนี้

จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ เตี้ยนหมู่”  ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 23-25 กันยายน 2564 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างประกอบกับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากบางแห่งทำให้มีปริมาณน้ำท่าจากลุ่มน้ำ ปิง วัง ยม และน่าน ไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามากขึ้น ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่

กองอำนวยการแห่งชาติ (ก่อนช.) ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักพบว่าเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,775-2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2564 ปริมาณน้ำหลากสูงสุดจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกสูงสุดในอัตรา 762 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่าในวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ปริมาณน้ำจะไหลหลากรวมกันผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเกณฑ์ด 3,050-3,150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะไหลออกสู่อ่าวไทยในช่วงวันที่ 7-10 ตุลาคม 2564 ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดสภาวะน้ำทะเลหนุนสูงคาดว่าจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 30-50 เซนติเมตรโดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังประกอบด้วย

1.จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี บริเวณพื้นที่ลุ่มนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

2.กรุงเทพมหานคร บริเวณพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบให้ระดับน้ำมันกันป้องกันน้ำริมแม่น้ำของกรุงเทพมหานคร ยกเว้นบริเวณที่ไม่มีระบบคันป้องกันริมแม่น้ำ

ในการนี้กองอำนวยการแห่งชาติขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการดังนี้

1.ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันน้ำริมแม่น้ำ เริ่มต้นกั้นน้ำบริเวณจุดเสี่ยงที่มีระดับค้นป้องกันน้ำต่ำ และบริเวณที่ลุ่มตำริมแม่น้ำ

2.ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำทราบล่วงหน้า

3.เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อบูรณาการความพร้อม ในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที

แถลงการณ์โดย นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เลขานุการกองอนวยการน้ำแห่งชาติ