กามโรคระบาดหนัก: กองโรคเอดส์ฯ เผย 5 จังหวัดติดเชื้อสูง เหตุไม่ป้องกัน

กามโรคระบาดหนัก: กองโรคเอดส์ฯ จากรายงานล่าสุดของกองโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขข่าวเด่นออนไลน์ ระบุว่าจำนวนผู้ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในประเทศไทยมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน 5 จังหวัดหลักที่ถูกจัดเป็นพื้นที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งที่พบคือ พฤติกรรมไม่ใส่ถุงยางอนามัย ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ทั้งกับคู่นอนประจำและคู่นอนใหม่

รักไม่ป้องกัน เสี่ยงเกินรับไหว! กองโรคเอดส์ฯ เตือนภัย 5 จังหวัดติดเชื้อพุ่ง

ข้อมูลยังระบุด้วยว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน โดยโรคที่พบมากที่สุดได้แก่ ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม และ HIV สะท้อนถึงปัญหาในการเข้าถึงความรู้เรื่องเพศ การป้องกันตนเอง และความเชื่อผิดๆ ที่ยังฝังรากในหลายพื้นที่

พฤติกรรมไม่ใส่ถุงยาง จุดเสี่ยงของการแพร่โรคที่ควรหยุดให้ได้

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ทำให้ยอดผู้ติด โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วคือการ “ไม่ใส่ถุงยางอนามัย” ซึ่งยังคงเป็นพฤติกรรมที่พบมากในกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา รวมถึงกลุ่มผู้มีเพศสัมพันธ์กับหลายคน (Multiple Partners) โดยเฉพาะในรูปแบบเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้มีการพูดคุยตกลงล่วงหน้าถึงการป้องกัน

ข่าวเด่นจากผลสำรวจพบว่า หลายคนยังเข้าใจผิดว่าการดูภายนอกของคู่นอนสามารถบ่งชี้ว่าอีกฝ่ายไม่มีเชื้อโรค ทั้งที่ในความเป็นจริง โรคอย่าง HIV หรือซิฟิลิสในระยะแรกอาจไม่มีอาการใดๆ เลย ทำให้ การไม่ใช้ถุงยางกลายเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่นำไปสู่การติดโรคโดยไม่รู้ตัว

5 จังหวัดน่ากังวล พื้นที่เฝ้าระวังโรคเพศสัมพันธ์ระบาด

กองโรคเอดส์ฯ ได้ชี้แจงถึง 5 จังหวัดที่พบอัตราการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งพื้นที่เขตเมือง เขตชายแดน และจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูง ได้แก่:

1. กรุงเทพมหานคร
2. เชียงใหม่
3. ชลบุรี
4. สงขลา
5. อุดรธานี

จังหวัดเหล่านี้ล้วนมีปัจจัยเสี่ยงที่คล้ายกัน เช่น มีสถานบริการกลางคืนจำนวนมาก การเดินทางเข้าออกของแรงงานหรือคนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก และการเข้าถึงถุงยางอนามัยหรือบริการตรวจสุขภาพยังไม่ทั่วถึง

ปรับพฤติกรรม ลดความเสี่ยง หยุดวงจรการติดโรคทางเพศสัมพันธ์

สิ่งสำคัญในการแก้ปัญหานี้อยู่ที่การ ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยให้กลายเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในหมู่เยาวชนและกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมเสี่ยง การสื่อสารแบบเปิดเผยตรงไปตรงมาถึงผลกระทบจากโรคเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงความจำเป็นของการป้องกัน

นอกจากนี้ ภาครัฐควรเพิ่มจุดแจกถุงยางอนามัยฟรี พร้อมกับขยายบริการตรวจหาโรคติดต่อทางเพศในพื้นที่เสี่ยงให้มากขึ้น เพื่อให้ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสามารถเข้าถึงการรักษาและป้องกันได้อย่างทันท่วงที

ถุงยางอนามัยยังจำเป็นเสมอ อย่าละเลยแม้คู่นอนจะดูน่าไว้ใจ

หลายกรณีของผู้ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบันเกิดขึ้นจากความไว้ใจในคู่นอนโดยไม่มีการป้องกัน การใส่ถุงยางอนามัยไม่ใช่แค่การป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ข่าวเด่นประจำวันแต่ยังเป็นเกราะป้องกันสำคัญต่อ HIV เอดส์ และโรคทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ที่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายมีเชื้ออยู่หรือไม่

การสื่อสารเรื่องเพศในครอบครัว โรงเรียน และสังคมจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวัฒนธรรมการป้องกันที่ยั่งยืน โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่อาจมีแนวโน้มเข้าถึงพฤติกรรมเสี่ยงง่ายขึ้นผ่านสื่อออนไลน์

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่