ตำรวจรถไฟ จับคนร้ายครั้งที่ 4 ขโมยตัดสายไฟ จำคุกมากกว่า 1 ปี

ข่าวล่าสุด ผอ.รฟท. นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ รายงานว่าได้จำกุมคนร้าย ขโมยตัดสายไฟ ก่อเหตุซ้ำทำให้เจ้าหน้าที่รถไฟจับมือกับตำรวจ เพื่อดำเนินการขยายการจับคนร้ายแก๊งลอบตัดสายไฟใยแก้วไปขาย

ก่อเหตุซ้ำ! คนร้ายแก๊งเดิม ขโมยตัดสายไฟ ลักรอบเป็นครั้งที่ 4 ไม่เกรงกลัวบทลงโทษ ม.362 ปรับ 2 หมื่น จำคุก 1 ปี

การรถไฟและตำรวจร่วมจับกุมคนร้าย ขโมยตัดสายไฟ รถไฟฟ้าสายสีแดงพร้อมเปิดเผยว่านี่เป็นการจุบกุมครั้งที่ 4 แล้วสำหรับแก๊งคนร้ายที่ลักลอบเอาใยแก้วนำแสงของรถไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ช่วยกันสืบสาวเพื่อที่จะเซาะหาร้านค้าที่รับซื้ออุปกรณ์ของรถไฟฟ้าที่โจรนำไปขาย

ทางด้านบทลงโทษของกรณีการลักทรัพย์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการรถไฟฟ้ามี พ.ร.บ.รถไฟและการทางหลวง ปี 2464 ม.84 ได้ระบว่าใครที่เข้าไปในพื้นที่การรถไฟโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นสถานที่ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่ควรเข้า-ออก ตังได้รับโทษวรรค 1 ม.87 ผู้ใดก็ตามที่ทำให้ทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นเป็นอปกรณ์หรือเครื่องจักรของการรถไฟเสียหายและชำรุด ผู้นั้นต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

ตามบทลงโทษตามกฎหมายอาญา ม.362 ผู้ที่เข้าไปลักทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อที่จะนำทรัพย์นั้นมาเป็นของตัวเอง หรือเอาทรัพย์นั้นไปทำประโยชน์ส่วนตน และนอกจากนี้การกระทำดังกล่าวยังเป็นสาเหตุทำร้ายความสงบสุขของผู้อื่น และโทษในกรณีผู้ก่อเหตุต้องจำคุก 1 ปี ปรับเงินไม่เกิน 2 หมื่นบาท

เจ้าหน้าที่เล่าว่าคนร้ายได้ตัดสายเคเบิลซึ่งเป็นตัวเชื่อมของระบบจ่ายไฟที่ พื้นที่ส่วนนั้นจะมีเฉพาะช่างบำรุงที่สามารถลงไปซ่อมได้เท่านั้น อย่างไรก้ตามในการตัดสายไฟในส่วนนี้ไม่ได้มีผลกระทบในการเดินรถหรือกระทบต่อผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า นอกจากนี้ทางการรถไฟจะมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลบำรุงอุปกรณ์อย่างเป็นระบบมานานกว่า 10 ปี การจ่ายไฟฟ้าในระบบจะอยู่ในรูปแบบจ่ายไฟแบบเดียวกันกับ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ รถไฟฟ้านั้นเอง

เจ้าหน้าที่ให้การยืนยันว่า รถไฟฟฟ้าจะเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น โดยการจัดเจ้าหน้าที่ลงเวรยามตระเวนในพื้นที่ของรถไฟที่มีความสุ่มเสี่ยงในการลักลอบเข้ามาของคนร้ายสูง 24 ชม. และเจ้าหน้าที่จะมีการจัดทำสร้างรั้วแนวกั้นในพื้นที่เสี่ยงที่คาดมาโจรจะเข้ามาได้ง่าย เพื่อความปลอดภัยทั้งทรัพย์และสถานที่ และป้องกันเรื่องที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเป็นสาเหตุให้ผู้ที่มาใช้บริการรถไฟได้รับอันตรายได้