อยากได้หมูใหญ่ในราคาถูก ไม่ได้ดังใจกราดยิง คนงานผวา ไม่กล้ามาทำงาน!

ข่าวเด่นออนไลน์ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน ทุกเพจดังเมืองขอนแก่นแห่แชร์วอน คนงานผวา หลังถูกอดีตถูกจ้างของฟาร์มหมูมาขอซื้อในราคาถูก แต่ไม่ได้ดังใจใช้ปืนกราดยิง จนไม่กล้ามาทำงาน

อดีตลูกจ้างบุกฟาร์มเก่า ขอซื้อหมูตัวใหญ่ในราคาถูก คนงานผวา เร่งหลบกระสุนถูกกราดยิงไม่ทันตั้งตัว เจ้าของฟาร์มเผย ยกเลิกออเดอร์หมู 100 ตัว เหตุลูกจ้างไม่กล้ามาทำงาน

กรณี คนงานผวา จนไม่กลายมาทำงานที่ฟาร์มหมูแห่งหนึ่งในอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ทำให้เจ้าของฟาร์มกระทบหนัก เพราะต้องยกเลิกออเดอร์หมูจำนวน 100 ตัว เนื่องจากไม่มีคนทำงานให้ สาเหตุจากหนุ่มอดีตลูกจากเดินทางมาขอซื้อหมูกับคนงานในราคาที่ถูกมากๆ แต่ก็อยากได้หมูตัวใหญ่เพื่อนำไปฉลองปีใหม่กับครอบครัว พอไม่ได้ดังที่หวังก็คว้าปืนมากราดยิงคนงาน

หลังจาหหนุ่มคนดังกล่าวยิงกราดแล้ว ได้ตะโกนพูดขึ้นด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองเสียงดังกับคนงานนายหนึ่งทีแรกยกปืนยิงข่มขู่ คนงานได้หลบกระสุนไว้ได้ทันทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังฟาร์มดังกล่าว เพื่อทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และได้พบกับเจ้าของฟาร์มที่เกิดเหตุ คือ นายวิทยา โพธิ์จันนา วัย 48 ปี โดยนายวิทยา ได้นำทางไปถูสถานที่เกิดเหตุจนกลายเป็นข่าวดังทั่วจังหวัดขอนแก่น และได้เปิดเผยอีกว่า เรื่องราวนี้เกิดขึ้นภายในวันที่ 28 ธันวาคม ปีที่แล้ว ตอนนั้นเวลา 22.00 น.

ส่วนผู้ที่ลงมือก่อเหตุและเป็นอดีตลูกจ้างในฟาร์ม คือ นายไหม พรมเมืองขวา วัย 67 ปี เมื่อต้นปี 2564 ช่วงเดือนมีนาคม นายวิทยา ได้ตัดสินใจออกจากงานประจำและเข้ามาดูแลธุรกิจฟาร์มหมู จากนั้นไม่นาน นายไหม ผู้เป็นลูกจ้างของฟาร์มได้มาลาออกไป ทำให้ลูกจ้างทำงานในฟาร์มเหลือ 4 คน

วันเกิดเหตุขณะที่ลูกจ้าทั้ง 4 คน กำลังทำงานอยู่ได้มีรถกระบะโดยมีนายไหมเป็นคนขับมาจอดที่ฟาร์ม และนายไหม ได้มุ่งเดินมาที่คนงานก่อนเอ่ยปากว่าทำไมตนถึงสั่งซื้อหมูป่าเพียง 1 ตัวไม่ได้ คนงานเลยอธิบายว่าเพราะยังไม่เหตุยอดการสั่งซื้อ แม้จะพูดดังนั้นแต่ก็เร่งเตรียมสินค้าให้แก่นายไหม

นายวิทยา เล่าต่อไปอีกว่า นายไหม พุดด้วยอารมณ์โมโหและไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงได้ด่าทอคนงาน-พนักงานทั้งหมดที่ทำงานในฟาร์มของตน ก่อนจะคว้าปืนขึ้นมายิงขู่ โดยหันปากกระสุนปภายในฟาร์มและได้กระหน่ำยิงจนกระสุนหมด จากนั้นนายไหมก็เดินกลับไปที่รถกระบะเพื่อใส่กระสุนปืนให้เต็ม และได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวออกจากฟาร์มไปอย่างรวดเร็ว

นับว่ายังเป็นเรื่องที่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และนอกจากนี้มีคนงานในฟาร์มแอบถ่ายเหตุการณ์เอาไว้ได้ ตนได้ใช้ภาพที่ถ่ายได้ไปเป็นหลักฐานเพื่อแจ้งตำรวจ สภ.ภูเวียง ให้ดำเนินการจับกุมนายไหม ผู้ก่อเหตุมาลงโทษทางกฎหมายต่อไปนจะคว้าปืนขึ้นมายิงขู่ โดยหันปากกระสุนไปทางคนงานั้นแต่ก็เร่งเตรียมสินค้าให้แก่นายไหมนก่อน

หลังจากแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบคนงานทั้ง 4 พร้อมเรียกให้นายไหมมาให้การเพื่อไกล่เกลี่ย และคนงานทั้งหมดได้เรียกร้องค่าทำขวัญจากนายไหมรวมเป็นเงินจำนวน 3 แสนบาท เมื่อนายไหมรู้จำนวนเงินก็ไม่ยอมที่จะให้เงินเป็นค่าเสียให้ เจ้าหน้าที่จึงต้องดำเนินคดีกับนายไหมตามขั้นตอนกฎหมาย ทว่าตอนนี้เวลาก็ได้ผ่านไป 2 สัปดาห์แล้ว เรื่องที่แจ้งความไว้ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร และในเวลาเดียวกันนายไหมผู้ก่อเหตุยังออกใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหน้าตาเฉย

เจ้าของฟาร์มหมู เปิดเผยด้วยความเศร้าว่า ตอนนี้ทางฟาร์มขาดรายได้นับหลายแสนจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะต้องยกเลิกออเดอร์ลูกค้า ด้วยหมูจำนวน 100 ตัว เนื่องจากไม่ที่ลูกจ้างกล้าเข้ามาทำงานที่ฟาร์ม ทำให้ฟาร์มไม่มีพนักงานสักคนที่มาแปรรูปหมูไว้ขาย และยังกลัวว่านายไหมจะตามมาทำร้ายอีก

สาเหตุหลักที่ทำให้นายไหมไม่พอใจอาจจะมาจากราคาหมูในช่วงนั้นที่มีราคาแพงถึง 2,500 บาท/ตัว ราคานี้เป็นราคาช่วงปีใหม่ แต่ราคาที่นายไหมต้องการซื้อคือ 1,500 บาท/ตัว และเขาก็ต้องการหมูตัวใหญ่ซึ่งตัวใหญ่ราคานี้ไม่มี ก่อนจะบันดานโทสะใส่พนักงานที่กำลังเตรียมหมูแปรรูปให้เขา และนำอาวุธปืนขึ้นมาขู่กราดยิงแบบนี้ ตนในฐานะที่เป็นเจ้าของฟาร์มไม่อยากปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านๆไป และขอวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการเอาผิดกับนายไหม เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ลูกน้องและตนที่ต้องสูญรายได้เพราะการกระทำของนายไหม