ครูติดต่อขอโทษเด็กป.5 โรงเรียนจ่อตั้งกรรมการสอบ หลังผู้ปกครองเด็กนักเรียนร้องคุณครูพูดกับนักเรียนแบบนี้มันถูกแล้วเหรอ?

ครูติดต่อขอโทษเด็กป-5 หลังเรียกไปด่า!! เพราะ “หูเบา” ฟังความนักเรียนที่มาฟ้องข้างเดียว ข่าวเด่นออนไลน์ ทางด้านของโรงเรียนต้นสังกัดจ่อตั้งกรรมการสอบ หลังผู้ปกครองเด็กนักเรียนร้องคุณครูพูดกับนักเรียนแบบนี้มันถูกแล้วเหรอ?

ครูติดต่อขอโทษเด็กป-5 หลังเรียกไปด่า!! เพราะ “หูเบา” ฟังความข้างเดียว

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมาหลังจากที่ทางผู้ปกปกครองได้ทำการโพสต์เรื่องราวสุดหดหู่ลงบน Facebook ประมาณว่า การที่คุณครูพูดกับนักเรียนแบบนี้มันถูกแล้วเหรอ? เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวานนี่ที่ผ่านมาเราเห็นน้องกลับมาจากโรงเรียนแล้วร้องไห้ พร้อมพร่ำบอกว่าไม่อยากไปโรงเรียน ทางด้านของคุณแม่เลยได้ถามเหตุผลไปว่าทำไมเป็นอะไร น้องเลยเล่าให้ฟังว่าตอนก่อนเข้าเรียนช่วงที่เด็กๆได้พักน้องได้นั่งถักเปียกกับเพื่อนๆ แล้วก่อนจะขึ้นเรียนน้องเลยพูดบอกกับเพื่อนว่าให้มาช่วยแกะเปียกออกหน่อยเดี่ยวเข้าเรียนครูจะด่า (ทางโรงเรียนห้ามนักเรียนถักเปียไปให้รวบผมเท่านั้น)

ส่วนเรื่องราวนั้นเกิดขึ้นเพราะเพื่อนผ่านมาได้ยินที่คำพูดแบบผิดเพี้ยนไป แล้วเอาคำพูดที่ฟังผิดไปบอกครูบอกว่าน้องนั้นเกลียดครู สักพักครูได้ยินครูก็มาเรียกน้องไปด่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรงว่า “ต่อไปนี้เราไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกัน ไม่ต้องมารู้จักกัน เจอกันที่ไหนไม่ต้องมาทัก พร้อมกับตะคอกใส่น้องเรา” และน้องก็พยายามเล่าสิ่งที่น้องพูดให้ครูฟังว่าน้องพูดว่าอะไร แต่ทางด้านนคุณครูนั้นก็ไม่ฟัง แถมยังบอกว่าเธอหยุดพูดไปเลยฉันไม่อยากฟังเธอ จนน้องนั้นต้องแอบไปนั่งร้องไห้คนเดียว พอกลับมาที่ห้องเรียนก็ถูกเพื่อนๆล้อว่าเป็นคนปากหมาเพราะได้ยินที่ครูด่าน้อง จนตอนนี้น้องไม่กล้าไปโรงเรียนจิตใจย่ำแย่แถมยังขอย้ายโรงเรียน

ส่วนทางครอบครัวนั้นต้องกาคำตอบจากครูมากว่าเด็กอายุแค่นี้ทำไมครูพูดจาแรงแบบนี้กับน้องได้ แถมยังไม่ฟังเหตุผลที่เด็กจะอธิบายให้ฟังด้วยส่วนทางครอบครัวนั้นได้สอบถามเพื่อนๆแล้วว่าน้องได้พูดอย่าวที่ครูว่าหรือเปล่าก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่ได้พูด แล้วเรื่องนี้ทางโรงเรียนจะรับผิดชอบยังไง เพราะเด็กไม่อยากไปโรงเรียนแล้วตอนนี้ ล่าสุดผู้อำนวยการของโรงเรียนที่น้องเรียนอยู่ก็ได้ติดต่อเข้ามาขอโทษผู้ปกครองและเด็กเป็นที่เรียบร้อยแล้วผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งทางโรงเรียนยังได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว และทางด้านคุณครูก็ได้เดินทางไปปรับความเข้าใจกับเด็กเป็นที่เรียร้อยแล้ว