Wednesday, 24 April 2024

ครูฝ่ายปกครอง ตบบ้องหูเด็กหญิง 11 ขวบ สลบ! ครูอีกคนจะพาไปหาหมอ บอกมันสำออย!

ดราม่าในรั้วโรงเรียนเป็นที่ฮือฮาไม่เว้นวัน ประเด็นร้อนข่าวล่าสุด ครูฝ่ายปกครองเดินทางขวางทางประจันหน้านักเรียนหญิง เพราะคิดว่าเด็กจะเดินไปซื้อน้ำดื่มในช่วงเบรกร้านค้านอกโรงเรียน ง้างตบบ้องหูเวลาต่อมาเด็กรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องและสลบไป

สล็อต xo Slotxo

ยายร่ำไห้ หลานสาวไม่กล้าไปโรงเรียน ครูฝ่ายปกครอง ง้างมือตบเด็กหญิง 11 ขวบ จนสลบ..เพราะเข้าใจว่ากำลังไปซื้อร้านน้ำนอกโรงเรียนในเวลาเบรก

นางพิกุล วัย 49 ปี ยายที่เป็นผู้ปกครองนักเรียนหญิงวัย 11 ขวบ ที่โดนครูฝ่ายปกครองตบบ้องหู

รายงานเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2565ผู้สื่อข่าวเผนกรณี ครูฝ่ายปกครองตบบ้องหูนักเรียนหญิงจนสลบ และไม่ยอมให้ครูอีกคนพาเด็กไปโรงพยาบาลโดยอ้างเหตุผลว่า นักเรียนหญิงคนนี้เป็นคนช่างสำออยพร้อมทำการข่มขู่ครูด้วยกัน ต่อมาหลังจากเด็กหญิง 11 ขวบฟื้น เพื่อนนักเรียนด้วยกันพาตัวไปส่งพักผ่อนที่บ้าน ฝ่ายครูชายผู้ก่อเหตุลั่นขอให้สังคมอย่าเพิ่งตัดสิน อ้างแค่ข่มขู่ไม่ได้ตบจริง

หลังเกิดเหตุการณ์ครูฝ่ายปกครองชายตบบ้องหูเด็กหญิงผู้ปกครองของเด็กได้ร้องสื่อมวลชน เหตุเกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี  หลานสาววัย 11 ขวบ ถูกครูชายฝ่ายปกครองง้างมือตบบ้องหูจนทำให้หลานสลบเพราะช็อก และครูคนเดิมกล่าวข่มขู่ไม่ให้ครูอีกคนพาหลานไปโรงพยาบาลเพื่อหาหมอ และเพื่อนนักเรียนด้วยกันพาหลานมาส่งที่บ้าน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเบรกบ่ายที่ 17 มิถุนายน 2565

นางพิกุล วัย 49 ปี ยายที่เป็นผู้ปกครองนักเรียนหญิงวัย 11 ขวบ ที่โดนครูฝ่ายปกครองตบบ้องหู เล่าว่า วันศุกร์ที่ผ่านมา(17 มิ.ย. 65) เพื่อนนักเรียนพาหลานสาวมาส่งที่บ้าน ทำให้ได้สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะได้รู้ว่าครูผู้ชายที่เป็นฝ่ายปกครองตบบ้องหูหลานสาวทำให้สลบหมดสติ เพราะคิดว่าหลานสาวจะเดินอกไปซื้อน้ำดื่มกับร้านค้าที่อยู่นอกโรงเรียน เมื่อครูอีกคนรู้เรื่องจะพาหลานไปส่งโรงพยาบาลแต่ก็โดนครูที่ก่อเหตุขู่ห้าม พร้อมกับบอกว่าหลานสาวที่สลบสำออย ให้เพื่อนพาตัวไปส่งบ้านแทน

เด็กหญิงวัย 11 ขวบ เล่าทั้งน้ำตา ครูฝ่ายปกครองชาย ทำเกินกว่าเหตุ ตบบ้องหูขวา 1 ครั้ง ไล่อเข้าห้องเรียน ไม่ให้ไปซื้อน้ำนอกโรงเรียนตอนเบรกบ่าย ก่อนจะสลบหมดสติ

ยายของนักเรียนเผยต่อว่าเธอรู้สึกเสียกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ครูที่ก่อเหตุไม่ยอมรับว่าเขาทำแบบนี้กับหลาน ไม่เข้าใจว่าเขาเป้นครูและทำไมแก้ไขหรือทำอะไรแบบนี้ ตอนนี้ยายได้ไปแจ้งความกับตำรวจเอาไว้แล้ว และขอให้วันจันทร์(20 มิ.ย. 65)ตำรวจไปดำเนินการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่โรงเรียน เพื่อจะได้เห็นความจริงที่เกิดกับหลาน และจะได้มีหลักฐานเอาผิดครูคนดังกล่าว ความจริงก้ไม่ได้อยากเอาเรื่องเอาความอะไรอยากคุยกับฝ่ายนั้น แต่เขาเอาแต่บอกไม่คุยและจะไม่พูดด้วย

ทางด้านเด็กหญิง 11 ขวบ ได้เล่าว่า เหตุเกิดตอนพักเบรกบ่าย ตนจะเดินไปซื้อน้ำร้านค้านอกเขตโรงเรียน แต่มาเจอครูฝ่ายปกครองเสียก่อน ครูผู้ชายถามตนว่า “มึงจะไปไหน!” จากนั้นครูก็ง้างมือขึ้นตบเข้าไปที่บ้องหูด้านขาว จำนวน 1 ครั้ง ก่อนไล่ไม่ให้ออกไปนอกโรงเรียน และตนได้เดินกลับเข้ามาในห้องเรียน ไม่นานนักตนก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องและหมดสติไปทันที เพื่อนนักเรียนในห้องมาช่วยกันดูแล ก่อนที่ครูอีกคนเข้ามาและจะพาไปส่งโรงพยาบาล แต่ครูผู้ชายกล่าวห้ามไม่ให้พาไปโรงพยาบาล และบอกว่าตนเองสำออยแกล้งทำ ต่อมาเพื่อนได้พาตัวมาส่งที่บ้าน ตนไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนอีกแล้ว เพราะสิ่งที่ครูทำแบบนี้ด้วยมันนับว่าเป็นการลงโทษและทำเกินกว่าเหตุ ไม่อยากเจอแบบนี้อีก

ทางฝั่งของครูฝ่ายปกครอง (ครูผู้ก่อเหตุ) อายุ 59 ปี กล่าวว่า ตนไม่ได้ทำร้ายนักเรียนหญิงตามที่เป็นข่าว พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปิด ยืนยันไม่ได้มีการตบบ้องหูนักเรียน แค่ทำท่าง้างมือจะตบแต่ไม่ได้ลงมือและไล่นักเรียนเข้าไปห้องเรียน ยอมรับว่าตอนพูดไล่เด็กใช้เสียงที่ดังอาจจะทำให้นักเรียนรู้สึกกลัว ขอสังคมอย่างเพิ่งตัดสินตน และขอเอาเกียรติความเป็นครูตลอดการทำงานมาทั้งหมดจนกว่าจะเกษียนปกป้องตัวเอง หลักฐานในกล้องวงจรปิด ไม่ได้ตบนักเรียนไม่ได้ทำร้ายร่างกาย

ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาอุดรฯ เขต 3 นายประสิทธิ์ ไชยวงษ์ เผยว่าจะลงตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกล้องวงจรปิดโรงเรียนที่เกิดเหตุในวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายนนี้ เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย และยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อปกป้องใคร หากครูทำผิดก็ว่าไปตามผิดลงโทษตามระเบียบ และถ้าไม่ได้ทำผิดเราต้องให้ความยุติธรรมกับเขาแค่นั้น