งานเข้า! คลินิกพิมรี่พาย ฉีดฟิลเลอร์ปาก ผ่านมา 15 เดือนยังแข่งเป็นก้อน

ข่าวเด่นออนไลน์ ล่าสุด ลูกค้าสาวที่เคยไปฉีดฟิลเลอร์ปากที่ คลินิกพิมรี่พาย ตอนนี้ทุกข์หนักเพราะแก้ไขปากที่แข็งเป็นก้อนผ่านมา 15 เดือน หมดเงินไปเป็นแสน กังวลใจเมื่อผู้บริหารคลินิกออกมายอมรับว่ายาบางตัวไม่ผ่านอย. เกรงจะเป็นยาที่ฉีดให้ แถมฟ้องร้องไปคดียังไม่คืบหน้าเลย

คลินิกพิมรี่พาย สาวทุกข์แก้ฟิลเลอร์ปากหมดเป็นแสน ผ่านมา 15 เดือนยังแข็งเป็นก้อน

ดราม่าคลินิกพิมรี่พาย ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี2564 ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมากที่เคยไปใช้บริการกับคลินิกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ห้วยขวาง โดยผู้ก่อตั้งคลินิกนั้นก็คือแม่ค้าและ youtuber สาวคนดัง “พิมรี่พาย” โดยครั้งนั้นมีหมอปลอมที่มาแอบอ้างสวมใบประกอบวิชาชีพเป็นแพทย์ และก็ได้มีการให้บริการเสริมความงามกับลูกค้าจำนวนมากทั้งที่ความจริงแล้วจบเพียงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เท่านั้น

รายงานความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวช่อง 3 ได้เปิดเผยว่าลูกค้าที่เคยไปใช้บริการคลินิกพิมรี่พาย และก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ออกมาเปิดเผยเคยไปฉีดฟิลเลอร์ปากเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2564 ภายหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จแล้วก็รู้สึกถึงความผิดปกติและได้มีการดำเนินการติดต่อไปยังคลินิก ในขณะเดียวกันเมื่อช่วงเดือนธันวาคมก็ได้ทราบข่าวว่ามีผู้เสียหายที่ไปใช้และซื้อโปรโมชั่นในช่วงไลฟ์สดของแม่ค้าคนดังเข้ามาแจ้งความเอาผิดกับคลินิกเป็นจำนวนมาก

ผู้เสียหายรายนี้เปิดเผยอีกว่าได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารของทางคลินิก จนกระทั่งได้รู้ว่ามียาบางตัวที่นำมาใช้กับลูกค้าบางคน โดยเฉพาะลูกค้าที่ซื้อบริการในโปรโมชั่น 17,500 บาท ยาบางตัวที่ไม่ผ่าน อย. ในส่วนของเธอนั้นซื้อและใช้บริการราคาโปร 6,666 บาท ซึ่งเห็นกันชัดเจนว่าเป็นโปรโมชั่นที่ถูกกว่าแต่ทางคลินิกก็ยืนยันว่าใช้ยาถูกต้องตามปกติ ในขณะเดียวกันเธอก็เกิดความสงสัยว่าทำไมลูกค้าที่มีโปรโมชั่นแพงกว่าถึงใช้ยาไม่ถูกต้อง เธอก็พยายามติดต่อไปยังทีนี้เพื่อให้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตามเธอได้ตัดสินใจไปฉีดสลายสารฉีดฟิลเลอร์ ตามคำแนะนำของผู้บริหารคลินิกดังกล่าว แต่ว่ามันก็ยังเป็นก้อนแข็งจนสุดท้ายต้องไปผ่าออกที่โรงพยาบาลและไม่ใช่คลินิกต้นเรื่อง อย่างไรก็ตามแม้จะผ่าฟิลเลอร์ออกแล้วแต่ก็ยังมีเหลือเศษติดค้างอยู่เป็นก้อนแข็ง ค่อนข้างมั่นใจว่ายาที่นำเอามาใช้กับเธอหรือลูกค้าคนอื่นเป็นยากลุ่มที่ไม่ผ่านอย. ก่อนที่เธอจะตัดสินใจซื้อโปรโมชั่นนี้ ทางคลินิกได้โฆษณาว่าเป็นฟิลเลอร์ที่สามารถสลายไปเองตามธรรมชาติ เนื่องจากสารสกัดทั้งหมดมาจากธรรมชาติ แต่หลังจากฉีดไป 6 เดือน เวลาล่วงเลยมา 15 เดือนหรือในปัจจุบันนี้ฟิลเลอร์ยังคงแข็งอยู่เลย

ผู้เสียหายเปิดเผยต่อเนื่องว่าตนต้องเสียเงินเพื่อไปสลายฟิลเลอร์ด้วยตัวเอง ต้องเอาฟิลเลอร์ออกจากปากไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทางค่ารักษารวมๆแล้วหมดไป 100,000 บาท นอกจากนี้เธอยังมีการแจ้งความดำเนินคดีกับคลินิกดังกล่าวแต่เรื่องราวก็ยังคงไม่คืบหน้าคลินิกก็ยังคงเงียบหาย และสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุด สบส.เมื่อเข้าไปตรวจสอบก็ออกมาแถลงการณ์ว่าไม่พบสารหรือยาที่ไม่ถูกต้อง โดยสิ่งที่แถลงการณ์ออกมามันขัดแย้งกับคำพูดของผู้บริหารคลินิกที่ให้การยอมรับว่ามียาบางตัวที่ไม่ผ่านอย.