Thursday, 12 June 2025

บวมจนตกใจ: ฉีดฟิลเลอร์ไม่เช็กก่อน สาวแชร์ประสบการณ์แพ้ฟิลเลอร์ แนะตรวจให้ชัวร์ก่อนฉีด

บวมจนตกใจ: ฉีดฟิลเลอร์ไม่เช็กก่อน ฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่เรื่องเล็ก สวยไม่ทันไร หน้าบวม-แสบ-อักเสบจนต้องหาหมอด่วน!ในยุคที่เทรนด์ความสวยความงามเติบโตอย่างก้าวกระโดด “การฉีดฟิลเลอร์” กลายเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมของสาวๆข่าวเด่นออนไลน์ ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูอิ่มฟู เติมเต็มร่องลึก หรือเสริมจุดเด่นให้ดูเป๊ะปังแบบไม่ต้องผ่าตัด

สล็อต xo Slotxo

ฉีดฟิลเลอร์ไม่เช็กก่อน สาวเล่าประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์แล้วแพ้ – ย้ำตรวจสาร-คลินิกให้ดี

ไปฉีดฟิลเลอร์เเต่ตัวเองเกิดเเพ้ (2)

แต่ล่าสุด มีสาวรายหนึ่งได้โพสต์แชร์ประสบการณ์ตรงลงบนโซเชียล หลังจากไป ฉีดฟิลเลอร์ กับคลินิกแห่งหนึ่ง แล้วพบว่า ตัวเองมีอาการแพ้สารที่ใช้ฉีด จนหน้าบวมอย่างรวดเร็ว แดงร้อนและรู้สึกเจ็บปวดบริเวณที่ฉีด จนต้องรีบพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรักษาอย่างเร่งด่วน

📌 อาการแพ้ฟิลเลอร์เกิดขึ้นได้ แม้จะเคยฉีดมาก่อน

ระวังกันให้มาก! สาว แชร์ประสบการณ์

แม้หลายคนอาจคิดว่า “เคยฉีดแล้วไม่เป็นอะไร คราวนี้ก็ไม่น่ามีปัญหา” แต่ในความเป็นจริง อาการแพ้ฟิลเลอร์ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น

  • การใช้สารฟิลเลอร์ปลอม หรือไม่ได้มาตรฐาน
  • เทคนิคการฉีดผิดพลาด
  • สภาพผิวของแต่ละคนที่ตอบสนองแตกต่างกัน
  • การติดเชื้อจากเครื่องมือไม่สะอาด
  • หรือแม้แต่การฉีดในคลินิกที่ไม่ได้มีแพทย์เฉพาะทางดูแล

สาวผู้ประสบเหตุการณ์บอกว่า “แรก ๆ คิดว่าเป็นอาการบวมปกติหลังฉีด แต่ไม่ถึง 12 ชั่วโมง หน้าเริ่มแดงลุกลาม เจ็บจนจับไม่ได้ สุดท้ายพบว่าเกิดอาการแพ้สารในฟิลเลอร์”

🚨 อาการแพ้ฟิลเลอร์ที่พบบ่อย

  • บวมแดงบริเวณที่ฉีด
  • ร้อนผ่าว รู้สึกตึงผิดปกติ
  • มีตุ่มหรือผื่นขึ้น
  • ปวดหรือชาบริเวณที่ฉีด
  • อักเสบเรื้อรังจนเป็นพังผืด
  • ในบางกรณีรุนแรง อาจทำให้เนื้อเยื่อตายเฉพาะจุดได้

หากเกิดอาการดังกล่าว ควร รีบพบแพทย์ทันที อย่ารอดูอาการด้วยตนเองข่าวเด่น เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่แก้ไขยาก

✔️ ข้อควรตรวจสอบก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์

เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการฉีดฟิลเลอร์ ข่าวเด่นประจำวันหมอผิวหนังและแพทย์ความงามแนะนำให้ “เช็ก 5 อย่างนี้ก่อนตัดสินใจ”

  1. ตรวจสอบว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่
    • ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม และควรมีประสบการณ์ด้านผิวหนังหรือศัลยกรรมความงามโดยเฉพาะ
  2. ฟิลเลอร์ต้องมี อย. (องค์การอาหารและยา)
    • ห้ามใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์ ไม่มีเลขทะเบียน อย. หรือมีราคาถูกเกินจริง
  3. สถานพยาบาลต้องได้มาตรฐาน
    • สะอาด มีการฆ่าเชื้อ และเปิดเผยข้อมูลการรักษาอย่างโปร่งใส
  4. มีการซักประวัติและแจ้งผลข้างเคียงก่อนทำ
    • ควรมีการพูดคุย-แจ้งรายละเอียดครบถ้วน และตรวจสอบประวัติแพ้ยา
  5. เลือกคลินิกที่เปิดเผยชื่อฟิลเลอร์ รุ่น และล็อตที่ใช้
    • ควรขอฉลากหรือกล่องฟิลเลอร์ที่ใช้จริง เพื่อเก็บเป็นหลักฐาน
🛡️ สรุป: ฉีดฟิลเลอร์ไม่ผิด แต่อย่าประมาท! เพราะผลเสียตามมาอาจหนักกว่าที่คิด
  • ✅ การฉีดฟิลเลอร์ควรทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • ✅ หลีกเลี่ยงการฉีดกับคลินิกเถื่อน หรือผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ
  • ✅ ตรวจสอบฟิลเลอร์ที่ใช้ทุกครั้ง
  • ✅ อาการแพ้อาจเกิดได้แม้เคยฉีดมาก่อน
  • ✅ หากมีอาการบวมแดงผิดปกติ รีบพบแพทย์ทันที

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่

Related posts
ชัดเจน! หมอเอระบุ: “หมอแอร์ขายยานอกระบบ” คือยานอนหลับ ไม่ใช่ยาอันตรายทางเพศ
ถึงบางอ้อ: เจอแท่งเหล็กปริศนา ในฟันกราม ยาว 3 ซม. หมอลืมไว้ตอนผ่าฟันคุด?
โมเมนต์แห่งรัก: คุณตาวัย 87 โผกอดหลานชาย เข้ากรม บรรยากาศสุดซึ้งจนโซเชียลแชร์สนั่น
ภารกิจเพื่อชีวิต: หมอโบว์รักษาช้าง ผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูก ล่าสุดปลอดภัยแล้ว
ไวรัลสนั่น: เพจดังเปิดคำสั่ง รพ. บังคับเข้าแถวหน้าเสาธง ชาวเน็ตซัด “บริหารเวลาไม่เป็น?”
ไม่ใช่แค่ของตกแต่ง: “ผักจานรอง” ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา วิจัยยันคุณค่าเพียบ