Tuesday, 19 March 2024

รับแล้ว! ตำรวจเรียกเงิน ดาราสาวไต้หวัน 27,000 บาท แก๊งเพื่อนชาวสิงคโปร์ควักจ่าย

ข่าวเด่นออนไลน์ กรณีดราม่าตำรวจไทยรีไถ่เงินจากนักท่องเที่ยว ดาราสาวไต้หวัน ล่าสุดยอมรับแล้วว่าเรียกเงินจริง หลังจากที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องบนโลกออนไลน์ เจ้าหน้าที่สร้างหลักฐานปลอมกลบเกลื่อนเรื่องจริง โดยทางดาราสาวไม่ยอมความ ท้าสู้ปฏิเสธไม่ได้เป้นอย่างที่ถูกตำรวจไทยกล่าวหา

สล็อต xo Slotxo

เดินหน้าเอาผิด ตำรวจเรียกเงิน ดาราสาวไต้หวัน 27,000 บาท เพื่อนชายชาวสิงคโปร์ควักจ่าย เจ้าหน้าที่รับและแบ่งกันตรงจุดเกิดเหตุ!

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แฉเรื่องฉาวตำรวจเรียกเงิน "อันยู๋ชิง" ยอมรับแล้ว

การเป็นเรื่องใหญ่จนได้ ฉาวสนั่นวงกรตำรวจไทยดังไกลไปถึงต่างประเทศ ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว กรณี “อันยู๋ชิง” ดาราสาวชาวไต้หวัน หลังจากที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยกับเพื่อนแล้วมาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ขูดรีดเอาเงินและมีการรายงานข่าวที่บิดเบือนความจริงออกมา ทำให้ดาราสาวออกมาโต้ให้มีการตรวจสอบละเอียด หลังเรื่องนี้แดงทางตำรวจได้ออกมาปล่อยว่าหญิงสาวมีอาการมึนเมามาก และยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการตั้งด่านตรวจในวันที่ดาราสาวอ้างเป็นวันเกิดเหตุ ความขัดแย้งยังมีมาเรื่อยจนกระทั่ง อดีตนักการเมืองดัง “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์”  ออกมาเปิดโปงล่าสุด ตำรวจที่รีดไถ่เงินให้การยอมรับแล้ว ว่าทำจริงไถ่เงินจากแก๊งดาราสาวไต้หวันเป็นจำนวนเงิน 27,000 บาท

อัปเดตึความคืบหน้า กรณีดราม่าตำรวจไทยไถ่เงิน “ดาราสาวไต้หวัน” Facebook สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว เปิดเผยข้อมูลว่า พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ไม่ได้มีการนิ่งนอนใจหรือนิ่งเฉยเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น และมีการดำเนินการรวบรวมหลักฐานรวมไปถึงเรียกสอบพยายานบุคคล และยังรวมไปถึงพยานวัตถุ ภาพจากวงจรปิดรอบบริเวณ ซึ่งในเวลานี้ได้ทราบข้อเท็จจริงที่เกหิดขึ้นทั้งหมดแล้ว “เจ้าหน้าที่ตั้งตรวจในบริเวณของสถานทูตเป็นเรื่องจริง มีการตรวจพบบุหรี่ไฟฟ้าที่นักท่องเที่ยวพกเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายประเทศไทย แต่ตำรวจไม่ได้ยึดเอาไว้ นักท่องเที่ยวจึงได้มีการพกวัตถุ(บุหรี่ไฟฟ้า)ไปด้วย ในข้อนี้เจ้าหน้าที่ทำผิดที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอาญา ม.157 ”

ภาพประกอบข่าว "อันยู๋ชิง" ดารานักแสดงจากประเทศไต้หวัน ดราม่าโดนตำรวจไทยเรียกเงิน

สำหรับการรีดไถ่เงินกลุ่มนักท่องเที่ยว ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน และการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ พยานบุคคล เอกสาร คำสารภาพ โดยข้อมูลในส่วนที่เป็นผู้ให้สินบนและผู้รับสินบนนั้นยังมีการให้ปากคำหรือข้อมูลที่ไม่ตรงกัน หากมีการสอบสวนที่ได้ข้อมูลเป้นที่แน่ชัดแล้วจะมีการแจ้งเรื่องเพิ่มเติมในเวลาต่อไป

นอกจากนี้ยังมีการรายงานข่าวจาด “เดลินิวส์ออนไลน์” รายงาน จนท.สน.ตำรวจแห่งชาติ ได้มมีการประชุมพูดคุยเกี่ยวกับกรณีที่ตำรวจเรียกเก็บเงินนักท่องเที่ยว มีการเรียกเก็บเงินในจำนวน 27,000 บาท ทั้งนี้ก็เพื่อแลกกับที่จะไม่ดำเนินความผิดของนักท่องเที่ยวที่ทำผิดกฎหมาย(กรณีบุหรี่ไฟฟ้า) โดยเพื่อนชายชาวสิงคโปร์ของ “อันยู๋ชิง” คือคนที่ควักเงินมาจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ เมื่อมีการควักเงินจ่ายตำรวจแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เอาเงินที่ได้จากนักท่องเที่ยวมาแบ่งและแจกจ่ายกันในจุดเกิดเหตุทันที ข้อมูลยังไม่แน่ชัดจากการตรวจสอบของจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมกันตั้งด่าน อย่างไรก็ตามในกรณีนี้โทษของการละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้นักท่องเที่ยวกระทำผิดและรับสินบนนั้น โทษสูงสุดอยู่ที่การ “ไล่ออกจากราชการ” อย่างไรก็ตามทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาตรวจสอบ