สาวร่ำไห! ช่วยแม่หนูด้วย ถูกลวงทำงานนวด-ดูไบ สุดท้ายได้ขายตัว

ข่าวล่าสุด เมื่อวานนี้ 28 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 14.00 น. ผรายการเผยสาวอุดรฯ ร่ำไห้วอนช่วยแม่ ถูกลวงทำงานนวด-ดูไบ งานไม่ตรงปก จากนวดแผนไทยต้องไปขายตัว นายหน้าบังคับและยึดเอกสารปจต.

โดนเรียกค่าไถ่ อยากกลับไทยต้องจ่าย 105,000 บาท ถูกลวงทำงานนวด-ดูไบ สุดท้ายถูกนายยึดพาสปอร์ต บังคับให้รับลูกค้า “ขายบริการ”

หญิงสาววัย 22 ปี ชาวบ้านบะยาว ม.12 ตำบลบะยาว อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ร้องทุกข์ช่วยแม่ ถูกลวงทำงานนวด-ดูไบ แต่สุดท้ายถูกหลอกไปค้าประเวณี แม่วัย 42 ปี ถูกนายหน้ามาอ้างจะพาไปทำงานในประดูไบ โดยงานที่ทำจะเป็น “นวดแผนไทย” เมื่อไปถึงก็ถูกจับยึดเอกสารเดินทาง และยังบังคับขายบริการทันที

หญิงสาวเล่าว่า เมื่อแม่ของตนถูกบังคับให้ขายตัว แต่แม่ทำการขัดขืนทำให้นายหน้าจับตัวไปขังไว้บริเวณตึกชั้น 2 โดยตึกตั้งอยู่ภายในอานาด้าทู-ดูไบ แม่พยายามหลบหนีแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเอกสารการเดินทางถูกยึดเอาไปหมด อยากขอความช่วยเหลือให้ได้กลับบ้าน แม่ได้บอกว่ามีผู้หญิงชาวไทยจำนวนกว่า 10 ราย ถูกขังภายในตึกแห่งนี้ เพื่อทำงานขายบริการ เพราะถูกนายหน้าบังคับขายแลกเงิน

หญิงสาวชาวอุดรฯ กล่าวว่า แม่และน้าสาว ได้ถูกหลอกให้ไปทำงานด้วยกัน โดยนายหน้าบอกว่าจะพาไปทำงานกับเพื่อนที่รู้จักโดยคนนั้นทำงานที่ดูไบแล้ว เขาเป็นชาวจังหวัดปทุมธานี นายหน้าเข้ามาติดต่อหาแม่ถามอยากไปทำงานที่ประเทศดูไบหรือไม่ งานเป็นงานนวดแผยไทย ซึ่งไม่ยากและประกอบด้วยที่ครอบครัวฐานะยากจนทำให้แม่ตัดสินใจไปทำงานกับเขา และได้ไปยืมเงินบรรดาญาติมาจำนวน 4 หมื่นเพื่อเป้นค่าเครื่องไปดูไบ

แม่มีกำหนดเดินทางวันที่ 18 เมษายน 2565 เมื่อแม่ไปถึงประเทศดูไบได้ 2 วัน แม่ก็พยายามติดต่อมาหาลูกสาวที่อยู่ไทย บอกว่าให้หาทางช่วยแม่ที แม่อยากกลับบ้าน ถูกหลอกมาแล้ว มันไม่ใช่งานนวดแต่เป็นงนาขายตัว อยู่ในอานาด้า ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งของดูไบ

แม่ระบุต่อว่าตัวเองถูกขับมาขังไว้ที่ชั้น 2 โดนยึดพาสปอร์ตตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ตอนนี้แอบมาคุยเบา เพราะถ้าพูดดังเขาจะได้ยิน และคนที่เป็นเจ้าของกิจการค้ามนุษย์เป็นชาวจีน และเมียของเขาเป็นคนไทย ชื่อ “ลินดา” ชาวจังหวัดหนองคาย ตอนแรกนึกว่าแค่นวด แต่หน้างานเขาบังคับให้ขายตัว ภายในตึกมีหญิงชาวไทยถูกขังจำนวนหนึ่ง ทุกคนลั่นเป็นเสียงเดียว “อยากกลับบ้าน”

หญิงสาววัย 22 ปี พูดทั้งน้ำตาท่วมหน้า แม่ของตนมีความเข้าใจว่างานที่จะไปทำนั้น มันเป็นแค่งานนวด “นวดแผนไทย” ซึ่งเป็นการนวดจริงๆ ไม่รู้จริงๆว่างานนวดในที่นี่คือการขายตัว ผู้หญิงคนไทยเป็นสิบถูกขังและโดนยึดพาสปอร์ตเหมือนแม่

นอกจากนี้นายหน้าบอกว่า ถ้าแม่อยากกลับประเทศไทยต้องให้ญาติเอาเงินไปประกันตัวออกมา โดยกำหนดให้นำมาจ่าย 105,000 บาท ครอบครัวยากจนไม่มีเงินมากขนาดนั้น จึงอยากจะขอความช่วยเหลือ เพื่อจะไปช่วยแม่ออกมาจากตรงนั้น

ขณะที่หญิงสาวคุยเรื่องแม่ แม่ก็โทรวิดีโอคอลมาทำให้ได้พูดคุยกับสื่อมวลชน เธอกล่าวกับสื่อว่า โปรดช่วยฉันด้วย อยากกลับบ้านจริงๆ ถูกหลอกมาทำงาน มันไม่ใช่นวดแผนไทยอย่างที่คิด แต่งานที่เขาบังคับทำเป็นขายตัว ตอนนี้ไม่สามารถพูดดังได้เดี๋ยวเขาจะได้ยิน

บ่าย 3 โมงในวันเดียวกัน นายคณพศ พมโคตร ผู้เป็นนายอำเภอคนปัจจุบันของวังสามหมอ ได้มีการสั่งมอบให้ นายวันชัย พรมมาโอน ผู้เป็นปลัดอาวุโส อำเภอวังสามหมอ เดินทางไปหาลูกสาวหญิงที่ถูกหลอกไปทำงานในดูไบ

จากข้อมูลที่ได้ งานที่นายจ้างพาไปทำนั้น ไม่ใช่งานที่ถูกกฎหมาย ลูกสาวผู้เสียหายได้ไปติดต่อ แจ้งความต่อเจ้าพนักงาน สภ.วังสามหมอ เจ้าหน้าที่ได้เร่งประสานไปยังหน่วยงานแรงงานเพื่อเข้าไปช่วยหญิงไทยออกมาจากนรกค้าประเวณี