ดราม่าสวนกลับ ไม่เห็นใจคนป่วย “บราวนี่กัญชา” ทัวร์ลงพริตตี้สาว หัวใจหยุดเต้น!

ข่าวเด่นออนไลน์ ไวรัลดราม่าล่าสุด ทัวร์ลงพริตตี้สาว ภายหลังมีการเปิดเผยเรื่องราวอาการป่วยกะทันหัน เนื่องจากรับประทานขนมที่ชายชาวจีนมอบให้ขณะทำงาน บวกกับที่เจ้าตัวไม่ได้ทานข้าวมาด้วยทำให้กินจัดเต็ม ผ่านไป 10 นาที ร่างร่วงลงกับพื้น

ผิดมากไหม? รับของคนแปลกหน้า ทัวร์ลงพริตตี้สาว “บราวนี่กัญชา” รับมากินด้วยความหิวก่อนทรุดภายใน 10 นาที หัวใจหยุดเต้น เข้า ICU

กรณี ทัวร์ลงพริตตี้สาว สร้างความมึนงงอยางมากทั้งที่เธอเป็นคนป่วย หลังจากที่ไปทำงานทั้งวันไม่ได้กินข้าว พอดีมีชายรายหนึ่งที่เป็นคนจีน เขาเข้ามาในงานพร้อมกับบราวนี่และคุกกี้(ขนมที่มีส่วนผสมของกัญชา) นำเอามาแจกจ่ายในพริตตี้พร้อมกับคนที่มาร่วมงานในวันนั้นพริตตี้สาวรายนี้ด้วยความหิวเธอกินไปจนหมด ก่อนที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันทำให้แฟนและเพื่อนร่วมงานช็อก

พริตตี้เกือบไม่รอด หลังเจอชายคนหนึ่งที่มาในงานส่งบราวนี่ซึ่งมีส่วนผสมของกัญชาให้เธอกิน ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที หญิงสาวรู้สึกคล้ายว่าตัวเองกำลังจะตาย ก่อนที่หัวใจเธอจะหยุดเต้นไป แต่ชาวเน็ตเมื่อรับรู้เรื่องราวกลับต่อว่าเธอว่าทำไมกล้ารับสิ่งของจากคนแปลกหน้ามาทาน ก่อนที่เธอจะรีบออกมาแจง

หลังจากที่รัฐบาลมีการอนุญาตกัญชาเสรี มีข่าวออกมาเรื่อยเช่นเดียวกันว่ามีประชาชนที่มีการกินน้ำอาหารที่มีส่วนผสมจากกัญชาจนมีอาการแพ้ หรือกินกัญชาเกินขนาดทำให้ถูกหามส่งโรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกมาจนถึงวันนี้ก็มีข่าวออกมาเรื่อยๆ ในปัจจุบันผู้บริโภคต้องมีการตรวจเช็กและสอบถามก่อนเสมอ เพราะบางครั้งร้านก็ไม่มีข้อมความระบุเอาไว้ให้

ในวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี ทอฝัน วรโชติธนัน เจ้าของบัญชี คือ “คุณยีน” หญิงสาวผู้ที่ทำงานเป็นพริตตี้ เจ้าตัวออกเล่าประสบการณ์ว่า ในการกินบราวนี่ที่มีกัญชาผสมโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งเจ้าตัวป่วยหนักและถูกหามส่งห้อง ICU

(20 ก.ค. 65)เหตุการณ์เกิดขึ้นภายในงานเปิดตัวปลาในย่านจตุจักร โดยเจ้าของงานมีการจ้างพริตตี้มาราว 20 คน พริตตี้ไม่มีใครทานข้าวมาก่อนเข้างาน ต่อมาหลังจากมางานได้ไม่นานมีชายใส่เสื้อสีดำ ซึ่งเขาอยู่ในงานแต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาคือใครกันแน่ เขายื่นขนมมาให้พริตตี้สาวทุกคน เราแบ่งกันคนละชิ้น เนื่องด้วยความหิวสาวเจ้าของโพสต์ทานบราวนี่จนหมดต่อด้วยคุกกี้ชิ้นใหญ่

หลังจากกินไปไม่ถึง 10 นาที เธอร่วงไปกองที่พื้นและชัก จนเพื่อนและคนในงานช่วยกันพาส่งโรงพยาบาล หญิงสาวรู้สึกหน้มมืด เวียนศีรษะ  ตอนนั้นเพื่อนของเธอพาไปเข้าห้องน้ำล้างหน้า แต่แล้วมันกลับแย่ไปมากกว่าเดิม เพราะเธอเริ่มหายใจไม่ออกและแน่นที่บริเวณหน้าอก และมีอาการกล้ามเนื้อกระตุก จากนั้นก็ชักอีกครั้ง และเธอตัดสินใจใช้แรงเฮือกสุดท้ายบอกเพื่อนเรียกรถพยาบาลและเธอก็ชักต่อ

อย่างไรก็ตามยังนับว่าเธอโชคดีมาก เพราะแฟนก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เรีบอุ้มเธอขึ้นรถเดินทางไปที่โรงพยาบาลโดยทันที ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง เธอถูกนำตัวส่งเข้าห้องไอซียู แพทย์นำเครื่องวัดคลื่นหัวใจมาวัด พบว่ามันพุ่งไปถึง 150 ต่อวินาที เธอบอกว่าตัวเองรับรู้และได้ยินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด แค่ไม่สามารถขยับตัวหรือทำอะไรได้แล้ว เพราะตอนนั้นรู้สึกชาไปทั้งตัว

รู้สึกเหมือนแขนขาตัวเองหายไป เหตการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอเรียนรู้คล้ายกับว่าวิญญาณหลุดออกจากร่าง เหมือนกับว่าตอนนั้นเธอยืนเห็นตัวเองนอนนิ่งบนเตียง คนในครอบครัวมายืนดูรอบเตียงคนป่วย  ตอนนั้นมีความมกังวลใจเป็นอย่างมาก สิ่งนี้ทำให้รู้ถึงคนที่กำลังใกล้จะตายรู้สึกอย่างไรบ้าง

หัวใจของเธอเกือบหยุดเต้น ขณะเดียวกันเธอได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ พยาบาลเรียกห้ามไม่ให้หลับ และบอกให้เธอตั้งสติดีๆ ทุกคนยื่นล้อมเตียง…สำหรับการเข้ารักษาในครั้งนี้มีหลายครั้งที่เธอเกือบจะหยุดหายใจ ตลอดเวลาได้ยินเสียงของแม่ที่กำลังร้องไห้ พยาบาลรีบเรียกหมอมาดูอาการ ตอนนั้นเธอนึกบอกตัวเองห้ามหลับ เพราะถ้าเราหลับอาจจะไม่ตื่นอีกแล้วก็ได้ สุดท้ายภาพก็ตัดไปจนถึงวันรุ่งขึ้น

คุณยีนเจ้าของเรื่องเธอนอนสลบไป 1 วันกับอีกครึ่งวัน เมื่อฟื้นขึ้นมาได้รู้สึกทรมานอย่างมาก มันเหมือนจะพะอืดพะอม และงานที่เคยรับไว้ต้องยกเลิกไป รวมถึงงานอื่นๆด้วย การยกเลิกงานทำให้เจ้าขาดรายได้ไปกว่า 30,000 บาท ต่อไปนี้ ถ้าใครที่ไม่รู้จักเอาขนมหรืออาหารมาให้เธอจะไม่รับไม่กินอีกแล้ว

เมื่อนึกย้อนกลับไปในวันเกิดเหตุ จังหวะที่ชายชาวจีนให้ขนมากิน เขาเดินจากไปพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง “กินให้อร่อย” จากนั้นก็หัวเราะ! เรื่องนี้มันไม่ตลกเอาเสียเลย เพราะเธอเกือบจะจากโลกนี้ไปแล้ว ขาดรายได้ก้อนใหญ่ และจ่ายรักษาพยาบาลไปกว่า 20,000 บาท หลังจากตื่นมากได้ก็ขอหมอไปรักษาตัวเองต่อที่บ้าน เพราะค่ารักษาที่โรงพยาบาลต่อค่าใช้จ่ายแพงมาก

อย่างไรก็ตามชาวเน็ตเมื่อได้รับรู้เรื่องทั้งหมดก็ตามคอมเมนต์ตำหนิ บ้างเข้ามาด่าว่าเธอ ไม่โทษตัวเองโทษแต่คนอื่น ไปรับของจากคนแปลกหน้ามากินเอง..เจ้าของโพสต์อธิบายต่อว่า ที่เจ้าตัวรับเอาขนมมากิน เพราะคิดว่าชายคนนั้นเป็นสตาฟฟ์ภายในงาน และก็เห็นว่าเขาเดินตามถือไฟมาส่องให้พริตตี้ตลอด หลายครั้งก็อาสาไปหยิบน้ำมาให้พริตตี้ มากไปกว่านั้นก็เป็นคนที่เข้าไปนั่งทานอาหารในโต๊ะเดียวกับเจ้าของร้านด้วย

เจ้าตัวยันไม่คิดโทษกัญชา การที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ในครั้งนี้ เพื่ออยากจะเตือนคนอื่น เป็นอุทาหรณ์สอนใจ คนที่เราไม่แน่ใจและไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวไม่ต้องรับขอมากิน โชคดีมากที่ตื่นกลับมาได้ ขอยันว่าปกติเดิมทีไม่ได้เสพหรือเล่นกัญชามาก่อน หลังจากชาวเน็ตบางคนกล่าวหาในคอมแมนต์