นักศึกษาหลงป่า พบศพบนโขดหิน สภาพเปลือยท่อนล่าง เพื่อนชายถูกจับคดีเสพยาไอซ์

ข่าวเด่นออนไลน์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.00 น. กู้ภัยอุทยานแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมกว่า 100 นาย ได้ระดมกำลังออกตามหา นักศึกษาหลงป่า ทราบชื่อคือ นายโกวิทย์ อายุ 22 ปี นานกว่า 3 วัน หลังจากพลัดหลงขณะที่ขึ้นไปเที่ยวชมธรรมชาติ บริเวณลำธารใต้สะพานขาว อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อำเภอเมืองเชียงใหม่ เวลาประมาณ 20.00 น. เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2564

นักศึกษาหลงป่า อยู่ดอยสุเทพนานราว 3 วัน พบศพบนโขดหิน สภาพเปลือยท่อนล่าง

แม่ของนายโกวิทย์ ซึ่งได้ทำดอกไม้ธูปเทียนเพื่อทำการกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ บริเวณจุดที่ลูกชายได้หายตัวไป โดยได้มีการขอให้ลูกชายของตนปลอดภัย และได้ออกมาจากป่าได้อย่างปลอดภัย แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานแม่ของนายโกวิทย์ก็ได้รับข่าวร้าย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ไปพบศพของนายโกวิทย์ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต บริเวณโขดหินในป่า ซึ่งห่างจากสะพานขาวไปประมาณ 500 เมตร สภาพเปลือยท่อนล่าง จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย คาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 24 ชม.

กูภัยกว่า 20 คน ได้นำร่างของนายโกวิทย์ออกมาจากป่า โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชม. ซึ่งสภาพเส้นทางสูงชัน ก่อนจะนำร่างลงมา ท่ามกลางความเศร้าโศกของแม่และเพื่อนๆ ที่มารอรับศพ เจ้าหน้าที่นำศพส่งชันสูตรพลิกศพ เพื่อที่จะหาสาเหตุของการเสียชีวิต ส่วนแม่ของผู้เสียชีวิตไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ

เพื่อนอายุ 22 ปี ที่ไปด้วยกันกับนายโกวิทย์ ได้ถูกดำเนินคดีเนื่องจากตรวจพบสารเสพติด ถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด โดยได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้มีการชวนนายโกวิทย์ไปเล่นน้ำชมธรรมชาติ ขณะนั้นได้มีคนแอบถ่ายคลิป ตนจึงได้เกินเข้าไปถาม แต่เมื่อกลับมาก็พบว่านายโกวิทย์ หายตัวไปแล้ว จึงได้เดินทางกลับเนื่องจากคิดว่าว่านายโกวิทย์กลับไปก่อนแล้ว แต่ก็ไม่เจอ จึงได้ทำการกลับไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยออกตามหา ก่อนจะพบว่าได้เสียชีวิตแล้ว

ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ได้เดินทางไปค้นหาในช่วงเช้า และบอกว่าช่วงนี้อุทยาน ปิดท่องเที่ยวช่วงโควิด 19 ซึ่งอาจจะยังมีนักท่องเที่ยวบางรายเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติ โดยที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ออกลาดตระเวนเพื่อประกาศให้นักท่องเที่ยวทราบ เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนจึงทำให้เส้นทางธรรมชาติมีความอันตราย หลังจากนี้ทางอุทยานจะเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้น โดยจะมีการให้เจ้าหน้าที่อุทยานทุกแห่งร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารลาดตระเวนพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียอีก