เน็ตไอดอล นัท นิสามณี ผู้สร้าง Content เรียกดราม่า ล่าสุด “พระพะยอม” ไม่ยอมออกติงแรง!!

ข่าวเด่นอนนไลน์ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ดราม่าต่อกันต่อส่งท้ายฮาโลวีน นัท นิสามณี เน็ตไอดอล สาวสองครั้งนี้เรียกทัวร์ชุดใหญ่กับ Concept ที่ไม่สร้างสรรค์แต่งตัวเลียนแบบพระพุทธเจ้าเรียกยอดไลน์เรียกยอดรัก

“พระพยอม” ติงไม่เวอร์ล้ำเส้นศาสนา นัท นิสามณี ลั่น!! แต่ละคนมีความเชื่อต่างกัน ถ้ามีใครทำไม่ถูกใจจะทำยังไง?

ล่าสุด ภายหลังการเกิดกรณีดราม่า นัท นิสามณี เน็ตไอดอล สาวสองและยังเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมานี้ซึ่งตรงกับวันปล่อยผี หรือ “วันฮาโลวีน” เน็ตไอดอลคนดังกล่าวนี้ได้มีการแต่งตัวล้อเลียนหรือเลียนแบบสเหมือนพระพุทธเจ้า เกิดชาวเน็ตและผู้เคร่งศาสนาออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมจำนวนมาก

ทั้งนี้ เจ้าตัวได้มีการโพสต์ภาพและไลฟ์สดสอนแต่งหน้าพระพุทธเจ้า พร้อมกับระบุข้อความว่า “สะบัดแรงฮาโลวีน….” ต่อมาได้ออกเผยว่าตนคิด Concept ของงานตนไม่ได้แต่งตัวเลียนแบบเฉพาะศาสนาพุทธแต่ทำทุกศาสนาที่จะสามารถแต่งตัวและหาข้อมูลได้

แต่งกายยังไงก็ไม่สามารถไปเปลี่ยนคำสั่งสอนของแต่ละศาสนาได้ และได้อ้างว่ามีคนเคยแต่งพระไปทำขนมขาย หรือไม่ก็เคยมีคนแต่งพระขายพระเครื่อง หรือหนักไปกว่านั้นก็มีคนนำเอาประหลัดขิกมาเป็น Furniture สำหรับตกแต่งบ้านมากมาย ก็ยังไม่เห็นมาคำสอนจะเปลี่ยนไปความดีงามจะยังคงอยู่ เราทุกคนควรยึดตามหลักคำสอนมากกว่าการแต่งตัว

ฮาโลวีนปีนี้เปิดมติใหม่ของการแต่งตัว ซึ่งจากแต่งก่อนจะแต่งหน้าตัวเป็นผีน่ากลัวแต่ปัจจุบันมันไม่ใช่แล้ว ตนนั้นได้เปลี่ยนความคิดสันหาทำให้สิ่งที่แปลกใหม่ ลองเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนมุมมอง เราต่างมีความเชื่อและมุมมองที่แตกต่างกัน พร้อมยืนยันเสื้อผ้าหน้าผมตั้งจะทำให้ออกมาดทุกขั้นตอน ไม่เคยดูถูกคนดู

ส่งที่เน็ตไอดอลต้องการกลับไม่เป็นตามหวังหลังจากมีการเผยแพร่ออกไปสู่โลกออนไลน์ เพราะชาวพุทธส่วนใหญ่ต่างไม่เห็นด้วยกับการเลียนแบบเครื่องแต่งกายของเธอคนนี้ กลายเป็นดราม่าชุดใหญ่ แม้แต่เจ้าอาวาสคนดังต้องออกมาติติงด้วยตัวเองเช่น “พระพยอม”

พระราชธรรมนิเทศ “พระพยอม” เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้ออกมาติงกรณีนี้เช่นเดียวกันว่า “ปัจจุบันนี้มักจะเกิดอะไรแปลก เกิดโจ๊ก เกิดอะไรที่มันไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการตายละสังขาร ตัดศรีษะ จะเป็นพระศรีอาน และคราวนี้มาแต่งตัวเนี่ยเป็นอย่างที่คำนั้น ขออภัยนะ ไม่ใช่อาตมาว่าเอง “หมู่นี้เสนียดไป จัญไรมา” เขาว่ากันมาอย่างนี้ คืออะไรที่มันทำๆแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ควร คนเราจะประเสริฐล้ำเลิศสูงสุดเพราะรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร คนจะต่ำต้อย ต่ำตมจมดิน แย่ที่สุดหมดความสง่างาม เพราะเป็นคนไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร การแต่งแบบนี้คามลูกคามดอก อีกภาษาเขาเรียกว่า “หัวมงกุฎ ท้ายมังกร” รองเท้าบูธ มีดอกบัว อะไรต่างๆเนี่ย เป็นสัญลักษณ์ของศาสนา แต่นั้นแหละคือคนแบบนี้เขาเรียกว่า อวด! อุตริ! คิดทำอะไรแบบย้ำยี หัวใจใครไม่สนใจ อย่าลืมสิอะไรที่เขานับถือ เขายกย่องบูชา ไม่ล่วงล้ำกล้ำเกินเกินได้ยิ่งดีที่สุด เรื่องที่จะตกแต่งหรือทำอะไรเนี่ยมันมีเป็นหมื่นแสนล้านอย่าง ทำไมถึงเรื่องทำอย่างนี้ เลือกให้ดีนะ ต่อไปนี้ใครเห็นก็ตาม อย่าเลือกทำอะไรที่หมิ่นหยามหัวใจคนที่เขาเคารพนับถือ เพราะมันจะไม่มีคำว่ายุติ ต้องถูกประณาม ถูกวิจารณ์ไปเรื่อยๆ และจะมีคนที่เห็นด้วยเพียงกลุ่มเดียวคือกลุ่มแนวเดียวกันกับเขา แต่ส่วนใหญ่รับไม่ได้…”