อัปเดต! น้องวีน สอบติดหมอ จนทิพย์ ไม่มีเงินเรียน เปิดรับเงินบริจาค ส่องบ้านล่าสุด รถยนต์ป้ายแดง เพื่อนบ้านเผย “โดนต้มแล้ว”

ข่าวเด่นออนไลน์ อัปเดตดราม่า น้องวีน  สอบติดหมอ จนทิพย์ อ้างว่าฐานะทางบ้านยากจน ก่อนจะโพสต์ขอรับเงินบริจาคผ่านโซเชียล ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เปิดภาพมีรถป้ายแดงจอดหน้าบ้าน เพื่อนบ้านโดยรอบบอกนักข่าวโดนต้มเข้าแล้ว เพื่อนบ้านแฉคนที่นี่รู้กันหมด แม่น้องวีนชอบทำตัวเป็นไฮโซ จนไม่จริง!

น้องวีน สอบติดหมอ จนทิพย์ ไม่มีเงินเรียน บ้านยากจน เปิดรับเงินบริจาค ล่าสุด มีรถป้ายแดงจอดหน้าบ้าน แม่ปฏิเสธไม่สัมภาษณ์ ชาวบ้านชี้ “จะจนได้ไง รับซื้อยางพารา”

จากดราม่า “น้องวีน” นักเรียนมันชยมศึกษาปีที่ 6 วัย 18 ปี จากจังหวัดพัทลุง ภายหลังจากที่หนุ่มน้อยสอบติดคณะแพทย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์อ้างว่าตัวเองฐานะทางบ้านไม่สู้ดี ทำให้ไม่มีเงินส่งต่อให้เรียนหมอ จากนั้นชาวเน็ตใจดีแห่เข้ามาโอนเงินบริจาคเพื่อสานฝัน แล้วหวังให้เป็นบุคลากรทางแพทย์ช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป จนกระทั่งวันที่ 8 มกราคม 2566 น้องวีนได้ออกมาโพสต์เพื่อขอยุติการรับเงินบริจาคจากทุกรูปแบบ แต่ก็ไม่ได้มีการเปิดเผยยอดบริจาคทั้งหมด แต่แล้วก็ไม่เสียฮือฮาอีกครั้งเมื่อคนบนโลกออนไลน์นำภาพและหลักฐานบางสิ่ง มาเปิดเผยว่าทั้งสองแม่ลูกนี้ไม่ได้มีฐานะยากจนจริงๆ เนื่องจากลูกชายมี iPhone 12 ใช้ และยังมีนาฬิกาสุดหรู apple watch นอกจากนี้มีการเปิดภาพผู้เป็นแม่ที่ออกไปท่องเที่ยวแถมยังใส่ทองเส้นใหญ่ เมื่อสังเกตเครื่องแต่งกายก็พบว่าเป็นเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งนั้น

ในวันที่ 18 มกราคม 2566 ทางเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้ออกมาโพสต์พร้อมกับรายงานว่าผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องราวของ “น้องวีน” เจ้าของดราม่า “จนทิพย์” ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ได้ขอพบแม่ของน้องวีน ถ้าว่ากลับไม่สามารถติดต่อได้เลย เมื่อเดินทางลงพื้นที่ไปยังบริเวณหน้าบ้าน โดยเป็นบ้านที่อยู่ในสวนยางสิ่งที่ทำให้เห็นและปรากฏนั้นคือ “รถกระบะป้ายแดง” จอดอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน รถคันนี้ปรากฏขึ้นมาหลังจากเปิดรับเงินบริจาค

ผู้สื่อข่าวเลยตัดสินใจไปสัมภาษณ์และสอบถามข้อมูลจากเพื่อนบ้านโดยละแวก และมีการสอบถามเกี่ยวกับฐานะทางบ้านของน้องวีน บ้านนี้ซนจริงหรือไม่? อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชาวบ้านตอบกลับมาทำให้นักข่าวอึ้ง “เขาจะจนได้ยังไง เพราะเป็นนายหน้ารับซื้อยางพารา” นอกจากนี้ชาวบ้านยังแฉว่าแม่ของน้องวีนชอบทำตัวให้ดูเป็นไฮโซ แต่พวกเขาก็ยอมรับว่าน้องวีนเป็นเด็กที่เรียนเก่ง ชาวบ้านบางคนกล่าวว่า “สื่อโดนต้ม” ชาวบ้านที่นี่ต่างรู้ดี ไม่ได้จนจริงเหมือนที่ออกไปพูดกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้าเลย

นอกจากนี้ผู้ใหญ่บ้านรวมไปถึงอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนปัญญาวุฒิ ที่ก่อนหน้าได้ออกมาพูดเพื่อปกป้องน้องวีนกับแม่ของเขา โดยให้ข้อมูลว่าครอบครัวของทั้งสองกำลังเจอวิกฤตและขัดสนอย่างมาก โดยเมื่อไม่นานมานี้ผู้บริหารท้องถิ่นและอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ออกมายอมรับเป็นที่เรียบร้อย ทั้งคู่ก็โดนหลอก โดนต้มจนเปื่อยเช่นเดียวกันกับคนอื่น เพราะคนที่มาให้ข้อมูลเป็นเพื่อนกัน คนชื่อ “ทีป” คนนี้เป็นลุงของน้องวีน ต่อจากนี้ทั้งสองไม่ขอให้ข้อมูลอะไรอีกแล้วเสียความรู้สึก เพราะที่ผ่านมาให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง คิดว่ายากจนจริงๆ