Friday, 22 November 2024

เรื่องแดงอีกแล้ว! ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา แฉถูกพระชาตรีทำร้าย ศึกวันอาสาฯ

ข่าวล่าสุด รายงานเรื่องร้อนวงการสงฆ์ เริ่มดราม่าที่ออกมาด่าหยาบ “อีแพรรี่” แม้ออกมาขอโทษแล้ว แต่เหมือนมันจะไม่จบลงง่าย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา ออกมาแฉพฤติกรรมสุดระอา ทำตัวเป็นพระมาเฟีย ปิดวัดข่มเหง ทำร้ายพระที่เห็นต่างทางความคิด

สล็อต xo Slotxo

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา เปิดแฉเรื่องน้อยคนจะรู้ “พระชาตรี” เคยปิดวัด สั่งบอดี้การ์ดรุมตื้บพระเห็นต่าง ไม่เว้นพระชราภาพ!!

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา เปิดแฉเรื่องน้อยคนจะรู้ “พระชาตรี” เคยปิดวัด สั่งบอดี้การ์ดรุมตื้บพระเห็นต่าง ไม่เว้นพระชราภาพ!!

เปิดโป่งพฤติกรรมสุดเอือม “พระชาตรี” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา ออกมาเล่า พระชาตรีเคยเปิดศึกในวันอาสาฯ ทำตัวกร่างเหมือนมาเฟีย สั่งบอดี้การ์ดรุมทำร้ายพระที่คิดต่างและไม่เห็นด้วย ถึงขั้นปิดวัดโดนทำร้ายจนกรามหักก็มี แม้แต่พระที่ชราภาพก็ไม่ยกเว้น

เมื่อเวลาประมาณ 11 นาฬิกาของวันที่ 26 กันยายน 2565 ณ วัดพุทธปัญญา ตำบลบางเขน จังหวัดนนทบุรี ผช.เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา หรือ พระอาจารย์ธวัชชัย จนฺทวํโส ท่านเป็นหนึ่งในพระที่โดนทำร้ายร่างกาย ครั้งที่พระชาตรีดำรงตำแหน่ง “พระรักษาการเจ้าอาวาส” โดยทางพระที่เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดท่านเป็นคนอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนพระชาตรีนั้นเป็นคนจังหวัดพัทลุง ซึ่งทั้งคู่ก็เป็นคนใต้เหมือนกัน ทำให้มีความสนิทกันโดยง่ายและสนิทสนมเป็นพิเศษ ตอนนั้น “พระชาตรี” ขอหนีอากาศหนาวจากประเทศรัสเซียมาพักที่นี่ อดีตพระเจ้าอาวาสเห็นว่าพระชาตรียังคงเป็นพระหนุ่มทำให้อนุญาตมาพักที่วัด

เมื่อมาอาศัยอยู่ที่วัดได้ไม่นานนัก “พระชาตรี” จากนั้นเริ่มดึงเอาพักพวกของตัวเองมาอยู่ด้วย ตอนนั้นในวัดพระแตกคอกันออกเป็น 2 กลุ่ม 1.กลุ่มอดีตพระเจ้าอาวาสที่อาพาธ 2.พระชาตรีและพวกที่แข็งแรง ทั้งนี้พระทั้ง 2 ฝ่ายมีการทะเลาะวิวาทกันแทบทุกวัน ทำให้ต่อมาต้องแยกย้ายกันไปทำวัดเช้า นอกจากนี้พรรคพวกของพระชาตรีนั้น คือ พระที่มาจากนอกวัดทั้งหมด และยังนำเอาชายฉกรรจ์ให้มาทำหน้าที่เป็น “บอดี้การ์ด” ราวๆ 5-6 ราย

ครั้งที่พระชาตรีดำรงตำแหน่ง “พระรักษาการเจ้าอาวาส” วัดพุทธปัญญา

พระอาจารย์ธวัชชัย กล่าวต่อว่า ภายในวันเกิดเหตุพระชาตรีมีการเรียกประชุมในตอนค่ำตรงกับวัน “วัดอาสาฬบูชา” ปี 2558 ตอนนั้นจำได้ว่ามีการสั่งปิดวัด และพระชาตรีได้มีการรวมพรคพวกมาใช้ความรุนแรงกับพระที่เห็นต่าง หรือ ไม่เห็นด้วยกับพระชาตรี ทำร้ายร่างกายไม่พอ ยังมีการนำเอามีด กระบอง อาวุธปืนขึ้นมาขู่ พระหนุ่มต่างกลัวและวิ่งหนีไปทางกำแพงหลังวัด ทว่าเวลานั้นเองมีพระที่ชราภาพที่วิ่งหนีไม่ทัน พรรคพวกของพระชาตรีจึงได้รุมกระทืบ หลังจากนั้นพระชาราภาพได้มาขอความช่วยเหลือที่กุฎิของพระวัชชัย แต่ด้านหลังพรรคพวกของพระชาตรีก็ตามมาและมาแย่งเอามือถือที่พระวัชชัยกำลังโทรติดต่อขอความช่วยเหลือ

ทั้งนี้พระชาตรีแย่งมือถือไปด้ก็ทำการกระทืบพระวัชชัยจนทำให้หัวแตก พระอีกรูปก็บาดเจ็บหนักถึงขั้นกรามหัก มีญาติโยมที่มาอยู่ที่บริเวณหน้าวัด พระชาตรีมีการขู่ว่าหากเข้ามาจะถือว่าเป็นการบุรุกวัดในยามวิกาล ในเวลาต่อมาพระวัชชัยได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี ตอนนั้นพระชาตรีก็เดินทางไปจำวัดที่อื่น จนเรื่องมันไปสิ้นสุดด้วยการที่พระวัชชัยยอมให้อภัยกับพระชาตรีและพวก

สำหรับการยักยอกเงินวัดของพระชาตรี ได้มีการสืบทราบในภายหลัง โดยเกิดเหตุปิดวันก่อนถึงรู้ ทำให้พระสังฆาธิการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าคณะตำบล ทั้งหมดได้มาร่วมกันประชุมเพื่อพิจารณาปลด “พระชาตรี” ออกจากตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา พร้อมกับได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระชาตรี บัญชีเงินฝากเจ้าคณะตำบล ปรากฏว่ามีเงินหายไปร่วม 4 ล้านบาท โดยยอดเงินที่หายไปในระยะพระชาตรีมารักษากาลเพียง 3 เดือนเท่านั้น แต่ไม่แน่ใจว่ามีการปลอมแปลงเอกสารเพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีการเปิดบัญชีใหม่เพิ่ม มากไปกว่านั้นระหว่างที่พระชาตรีขึ้นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา ไม่มีการเบิกเงินออกมาบูรณะวัดแต่อย่างไร โดยพระชาตรีเอาไปพูดแอบอ้างนั้นไม่เป็นความจริง!!!!