ผู้รับเหมาหัวใส แจ้งกำจัดขยะเอา 60-300 บาท นำมาถมพื้นร้างบ้านจัดสรร

ข่าวเด่นออนไลน์ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณี ผู้รับเหมาหัวใส หารายได้ 2 ต่อ รับกำจัดขยะให้รถขนขยะเสียมาเทถมพื้นที่เตรียมสร้างหมู่บ้านของโครงการหรูแห่งหนึ่งและเรียกเก็บเงิน

ตำรวจนำกำลังจับ ผู้รับเหมาหัวใส เปิดรับกำจัดขยะ รถ 30-40 คัน/วัน มาเทขยะกลบพื้นโครงการหมู่บ้านจัดสรรพร้อมเรียกรับเงิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเพื่อเข้าจับกุม ผู้รับเหมาหัวใส หรือ นายวีระชัย รองอ่ำ วัย 40 ปี ในโทษฐานกระทำความผิด พ.ร.บ.กรมสาธารณสุข หร้อมกับการจัดขุดพื้นดินและถมที่เพื่อหารายได้เข้าตัวโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

สืบเนื่องมาจาก นาวีระชัย เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ซึ่งโครงการดังกล่าวจะจัดสร้างอยู่พื้นที่บนถนนพุทธมณฑล คูหาสวรรค์ ย่านภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร เขาได้มีการประกาศเปิดรับกำจัดขยะมูลฝอยทุกชนิดโดยให้เขาได้จ้างรถมาขุดหลุมในพื้นที่เตรียมสร้างบ้านแล้วให้รถขยะนำมาเทใส่และเจ้าของขยะต้องจ่ายเงินค่ากำจัดขยะให้นายวีระชัย  อย่างไรก็ตามการกระทำนี้เป็นเรื่องที่ผิดอย่างมากเพราะเขาไม่ได้มีการแจ้งเจ้าพนักงานท้องถิ่นและจัดสรรทำธุรกิจอันเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยที่เจ้าของโครงงานอาจรู้หรือไม่?

นอกจากนี้ ตำรวจยังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านโดยรอบว่า พบเศษขยะเป็นจำนวนมากตกหล่นบนพื้นถนน เนื่องจากสืบทราบว่ามีการลักนำขยะมาถมดินในพื้นที่โครงการของหมู่บ้านจัดสรรที่กำลังจะดำเนินการก่อสร้าง และมากไปกว่านั้นตามถนนมีรอยน้ำเน่าไหลตามพื้นส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านที่พักอาศัยบนพื้นที่ถนนพุทธมลฑล ยังไม่รวมฝุ่นและเสียงรถวขยะวิ่งจ้าระหวั่นเข้ามาพื้นที่ดังกล่าวขนขยะมาทิ้ง

หลังจากรับแจ้งตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่โครงการที่กำลังเตรียมสร้างหมู่บ้านสุดหรู เจ้าหน้าที่ต้องตกใจเพราะบริเวณรอบพื้นที่เต็มไปด้วยขยะมูลฝอยเป็นจำนวนมาก ขณะนั้นเอง นายวีระชัยก็ได้ออกมาแสดงตัวว่าเขาเป็นคนที่ได้รับเป็นคนดูแลที่นี่ โดยได้สารภาพว่าตนจะมีหน้าที่เก็บเงินจากรถขยะที่นำมากำจัดทุกคัน

ภายในแต่ละวันจะมีผู้ที่ค้นขยะมาทิ้งมากถึง 40 คัน และโดยเฉลี่ยก็จะเรียกเก็บเงินตามจำนวนขยะที่นำมาทิ้งเป็นจำนวนเงิน 60 ไปมากถึง 300 บาท/คัน และในแต่ละวันจะมีการจ้างรถแมคโควันละ 6 พันบาทเพื่อให้มาขุดดินฝั่งและกลบขยะในหลุมที่อยู่ในพื้นที่โครงการสร้างหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้ รายได้ในส่วนนี้ทำให้มีเงินต่อเดือนเข้ามากว่าหลายแสน สุดท้ายต้องมาถูกจับเสียก่อน เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายวีระชัย ไปสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้งก่อนที่จะดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย