อุกอาจ! พ่อค้ายาบ้า ยืมมือลูกสาวส่งยาผู้ป่วยโควิด สุดท้ายไม่พ้นสายตาพยาบาล

ข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อค้ายาบ้า อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ได้วางแผนยืมมือไร้เดียงสาลูกสาววัย 13 ปี เข้าส่งยาบ้าให้ลูกค้าที่ป่วยติดเชื้อซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสตึก

พ่อค้ายาบ้า นำยาเส้นห่อยาบ้า 8 เม็ด ซุกถุงบะหมี่ ก่อนวางแผนให้ลูกสาวไปส่งให้ลูกค้าป่วยโควิด โรงพยาบาลสตึก

พ่อค้ายาบ้า นำยาบ้าจำนวนหนึ่งห่อคลุมด้วยยาเส้นเพื่อดับกลิ่นแล้วนำห่อยาซุกไปในถุงบะหมี่สำเร็จรูป ก่อนมอบให้ลูกสาวเป็นคนนำถุงไปมอบให้ผู้ป่วยติดเชื้อถึงโรงพยาบาล พยาบาลผิดสังเกตก่อนถ่ายรูปไว้แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ตรงตามคาดตำรวจค้นพบในถุงมียาบ้าอยู่ 8 เม็ด ผู้เป็นพ่ออ้างป้าวานให้มาส่งของให้ เจ้าหน้าที่บุกตรงตรวจต่อที่บ้านป้าพบเงินสดจำนวน 1 แสนบาท และพบทองอีก 5 บาท ขณะนั้นเองป้าออกมาปฏิเสธหน้าตาเฉยไม่รู้ใครเอามาไว้ฝากในบ้านตน ทั้งนี้ ตำรวจตั้งข้อหาป้าหลานค้ายาร่วมกัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สตึก ได้รับแจ้งจากพยาบาลของโรงพยาบาลสตึกว่ามีญาติผู้ป่วยนำถุงที่มีลักษณะผิดสังเกตเอาให้ผู้ป่วยติดเชื้อที่โรงพยาบาล เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจถุงดังกล่าว ภายในถุงนั้นเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซึ่งมีจำนวน 5 ถ้วย และยังมีกาแฟซองอีก 10 ซอง พร้อมกันนั้นมีห่อยาเส้นอีก 1 ห่อ เจ้าหน้าที่ผิดสังเกตเลยได้แกะห่อยาเส้นออกมาดูจนได้เห็นยาบ้า โดยยาบ้าแต่ละเม็ดนั้นจะถูกห่อด้วยกระดาษฟอยล์ สิ่งของที่อยู่ภายในถุงทั้งหมดนั้นระบุชื่อผู้รับไว้ คือ นายอนุชา วัย 41 ปี ซึ่งป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลสตึก

ผู้ที่นำถุงมาส่ง นายอนุชา คือนายอุทัย วัย 39 ปี ที่ได้เดินทางมาพร้อมๆกันกับลูกสาว วัย 13 ปี ก่อนที่พยาบาลจะปล่อยสองพ่อลูกกลับบ้านได้ทำการถ่ายรูปสิ่งของไว้ก่อนดำเนินการแจ้งตำรวจ

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สตึก เชิญนายอุทัยมาให้ปากคำ ทั้งนี้ นายอุทัยยังปฏิเสธไม่เกี่ยวหรือรู้เห็นเรื่องทั้งหมดยันเป็นคนที่ถูกวานมา และตนนั้นอ่านหนังสือไม่ออกจึงนำลูกสาวมาด้วย ป้าที่อยู่ในคุ้มของชาวประมงฝากของมาให้นายอนุชา ตนให้ขอให้ลูกช่วยเขียนชื่อผู้รับให้ ไม่รู้มาก่อนเลยมาจะถูกหลอกให้มาส่งยาบ้า

เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ความตามที่นายอุทัยกล่าว จากนั้นได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านป้า และในสิ่งที่พบคือภายในบ้านมีการซุกซ่อนเงินเป็นจำนวน 1 แสนบาท และยังมีทองจำนวน 5 บาท 50 สตางค์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดสิ่งของทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

ทางด้านป้าที่วานนายอุทัยไปส่งของให้นายอนุชา คือ นางเสาวนี วัย 39 ปี เมื่อเจ้าหน้าที่สอบปากคำนางเสาวนีกล่าวว่าตนก็ไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกันว่าภายในถุงนั้นมียาบ้าอยู่ เนื่องจากมีคนขับรถจักรยานยนต์ มาส่งถุงให้ตนแล้ววานให้ไปส่งของให้แต่ด้วยความที่ตนไม่รู้จักเลยได้วามต่อให้นายอุทัยไปส่งของให้นายอนุชาต่อ ถ้าตนรู้ว่าเป็นยาบ้านก็คงไม่รับฝากถุงมาเป็นอันขาด ส่วนคนที่มาฝากนั้นตนก็ไม่รู้จักแต่คาดว่าชายคนดังกล่าวจะอายุประมาณ 40 ปี

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานและพยาน เพราะจากข้อมูลอ้างจะมีความเชื่อมโยงกัน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ก็ได้ตั้งข้อหาให้ทั้งสองคนแล้วฐานพยายามค้ายาเสพติดร่วมกันประเภทที่ 1 ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย