พ่อสาวชู้หอบเงินหนี 19 ล้าน “สินสอด” ที่เอาไปสู่ขอลูกสาว หนังอดีตรองนายกรัฐมนตรี แจ้งความจับ “ฉ้อโกง”

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ในวันที่ 13 มกราคม 2566 พ่อสาวชู้หอบเงินหนี หลัง อดีตรองนายกฯ อดีตว่าที่ลูกเขย แจ้งความดำเนินคดีฐาน “ฉ้อโกง” หลบหนีไปพร้อมเงินสินสอด 19 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย  ทนายตั้มเผยต่อว่าพ่อหญิงชู้ไม่ยอมมาตามนัดเพราะเคยติดคดีเก่า

หลังถูกออกหมายจับ พ่อสาวชู้หอบเงินหนี ไร้วี่แวว! 19 ล้าน “สินสอด” อดีตรองนายกฯ นำไปสู่ขอลูกสาววัย 25

นาย พ. พ่อของหญิงวัย 25 ปี ชู้รัก อดีตรองนายกฯ ได้หายตัวไปอย่างไรวี่แววคาดว่า หลบหนีจากการถูกออกหมายจับ เนื่องจากอดีตว่าที่ลูกเขยนักการเมืองใหญ่แจ้งความจับทั้ง 4 คน 1.นางสาว ธ.(ชู้รัก) 2.นาย จ. (สามีชู้รัก) 3.พ่อและแม้ชู้รัก ว่าทั้งหมดร่วมกันฉ้อโกง ทั้งนี้ อดีตรองนายกฯ เดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่สอบสวน สน.บางยี่ขัน ได้มีการรวบรวมหลักฐานจนสามารถขอศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับ จ.4/2566 ลงวันที่ 5 มกราคม 2566 อดีตรองนายกรัฐมนตรี ย. เชื่อว่าตัวเองถูกหลอกให้เอาทรัพย์สินไปสู่ขอหญิงสาววัย 25 ปี (นางสาว ธ.) ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดรวมมูลค่าเป็น 19 ล้านบาท ได้มีการแจ้งความเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2565

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน บางยี่ขัน ได้มีการนัดหมายกับผู้ต้องหา 3 ใน 4 คน คือ หญิงชู้ แม่หญิงชู้ และสามีหญิงชู้ เจ้าหน้าที่ได้นำเรื่องส่งฟ้องไปที่อัยการตลิ่งชัน ทางศาลได้รับคำสั่งให้มีการผลัดฟ้องออกไป ด้วยเหตุผลที่ว่าหลักฐานยังมีไม่เพียงพอ

โดยก่อนหน้านี้ช่วงวันที่ 5 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามออกหมายเรียก พ่อของหญิงชู้ 1 ใน 4 ผู้ต้องหา ให้เดินทางเข้ามาสอบปากคำ ทนายของผู้ต้องหาบอกจะนำตัวมาให้ปากคำแต่สุดท้ายก็ไม่ได้มาตามที่เจ้าหน้าที่นัด ทำให้เจ้าพนักงานจึงยื่นเรื่องขอต่อศาลให้ออกหมายจับในวันที่ 5 มกราคม 2566 ทั้งนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อเข้ามาเพื่อมอบตัว

การรายงานเพิ่มเติมว่า นาย พ. พ่อของหญิงชู้อาจจะมีการหลบหนีไปพร้อมกับเงินสินสอดแล้ว เนื่องจากภรรยาและลูกสาวได้มีการเข้ามอบตัว คาดว่าจะต้องมีการติดต่อ นาย พ. ก่อนที่จะมามอบตัวอย่างแน่นอน และคดีนี้ก็ไม่ใช่คดีที่ร้ายแรง

ต่อมา “ทนายตั้ม” หรือ นายบิทรา เบี้ยบังเกิด ได้พูดเกี่ยวกับกรณีของพ่อหญิงชู้ นาย พ. นั้นสาเหตุที่เขาไม่ยอมมามอบตัวสักที หรืออาจจะหลบหนีไปแล้วเนื่องจาก มีคดีเก่าที่ยังค้างอยู่ “คดีเช็ก” ถ้าหากมามอบตัวก็จะถูกจับกุมทันที..

อย่างไรก็ตาม ได้สอบถามต่อเจ้าพนักงานเพื่อเป็นการยืนยันแล้วว่า นาย พ. ยังไม่เคยติดต่อเข้ามาหาเจ้าพนักงาน สน.บางยี่ขัน สักครั้งเดียว ภายหลังจากที่ถูกแจ้งความจับจากอดีตรองนายกฯ ในคดีร่วมกันกัน “ฉ้อโกง”