รวบอดีต “พระอาจารย์คม” เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี แถมคดีนี้ถูกเชือดไป 3 คน

ข่าวเด่นออนไลน์ รวบอดีต พระอาจารย์คม สารภาพ “เสพเมถุน – แอบอมเงินวัดมากกว่า 180 ล้าน” รวมเงินกองเป็นตั้งในลังโฟม ตำรวจสืบพบคดีนี้ถูกเชือดไป 3 คน ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้เผยชื่อของทั้ง 3 คน ที่ถูกจับกุมตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 6 พฤษภาคม 2566

รวบอดีต พระอาจารย์คม สารภาพแอบอมเงินวัดกว่า 180 ล้าน ตร.พบเชื่อมอีกหลายคดี

สืบเนื่องมาจากกรณีที่มีประเด็นร้อนเรื่องข่าว พระวชิรญาณโกศล วิ. พระอายุน้อยชื่อดัง ที่เคยดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรีที่โคราช ที่แอบบลาสิกขาไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย อีกทั้งยังมีหนังสือแต่งตั้งเจ้าอาวาสคนใหม่มาดำรงตำแหน่งแทนออกมา ทำให้คนสงสัยเกิดอะไรขึ้นกันแน่

และเมื่อล่าสุดในวันนี้วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา ทางด้านเพจ Facebook ที่ใช้ชื่อว่า สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว เขียนข้อมูลที่น่าสนใจเอาไว้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวคนจำนวน 3 คน ที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่ผู้คนรู้จัก ดังนี้

1. พระอาจารย์คม วัย 39 ปี ถูกจับข้อหา

• เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน
• มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์
• เบียดบังทรัพย์ให้ตกเป็นของตัวเองเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต,
• ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่แบบไม่เป็นธรรม

2. นายวุฒิมาฯ หรือพระหมอ วัย 38 ปี ถูกจับในข้อหา

• เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด
• เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต,
• เป็นเจ้าพนักงาน
• ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

3. นางสาวจุฑาทิพย์ วัย 35 ปี ถูกจับในข้อหา

• เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน
• มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด
• เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต,
• เป็นเจ้าพนักงาน
• ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
• รับของโจร

เปิดที่มาคดีดังกล่าว

ที่ไปที่มาของคดีมาจาก National Office of Buddhism ได้ยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่สอบสวนกลาง (CIB) ลงพื้นที่ไปตรวจสอบการปฎิบัติตัวของ พระอาจารย์คม ว่า มีการขโมยเงินของวัดไปหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็เช็คอย่างละเอียด และเข้าไปตรวจสอบภายในวัด ก่อนจะพบว่าผู้ต้องหาเป็นคนที่ดูแลการใช้เงินทั้งหมดของวัด รวมถึงเงินที่ญาติโยมร่วมกันทำบุญกับทางวัด

สำหรับ พระหมอ มีการปฏิบัติตัวแบบนำเงินทำบุญจากคนที่มาวัดไปใช้ซื้อของให้ตัวเอง โดยบังคับให้เจ้าอาวาสนำเงินสดไปมอบให้นางสาวจุฑาทิพย์ น้องสาวของท่านเพื่อนำเข้าธนาคารส่วนตัว หลังจากที่ค้นบ้านผู้ต้องหา เจอเงินสดมากกว่าห้าสิบเอ็ดล้าน เงินในบัญชีอีก 130 ล้าน

เบื้องต้นผู้ต้องหานั้นยอมรับทุกอย่างว่าได้นำเงินทำบุญมาจริงๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งตามข้อมูลที่แท้จริงมาเพิ่ม และค้นบ้านพักนางสาวจุฑาทิพย์ พบเงินสดห้าสิบเอ็ดล้านบาท ซุกอยู่ภายใต้ลังที่แช่ของและกระเป๋าเดินทาง อีกทั้งยังมีเงินในบัญชีคาดเอาไว้น่าจะอยูที่หนึ่งร้อยสามสิบล้านบาท รวมยอดกว่า 180 ล้านบาท

ผู้ต้องหานั้นบอกว่าในช่วงที่ถือยังบวชอยู่นั้นมีการเสพเมถุนในกุฏิของวัด ซึ่งมันถือว่าเป็นการอาบัติปาราชิก ตามข้อบังคับทางธรรมวินัย ดังนั้น ผู้ต้องหาจึงสมัครใจที่จะลาสิกขา สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่