ลุงเก็บขยะ นอนเสียชีวิตอนาถ หลังเข้าไปเก็บของป่าในเขตฝึกทหาร ไปเก็บเอาลูกระเบิดเก่ามาแกะเคาะเอาอลูมิเนียมมาขาย

รายงานข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2564 กรณี ลุงเก็บขยะ เข้าไปเก็บของป่าในพื้นที่ฝึกทหาร แล้วไปพบกับลูกระเบิดเก่า แต่ลุงก็เก็บขึ้นมาแกะเคาะ เพื่อจะนำเอาเหล็กไปขาย สุดท้าระเบิดเละคามือนอนเสียชีวิตอนาถกลางถนน

ลุงเก็บขยะ เดินขเป่าเขตฝึกทหาร เก็บลูกระเบิดหวังเอาเหล็กมาขาย เคาะลูกระเบิดเอาเหล็กขาย สุดท้ายถูกระเบิดร่างเละกลางถนน

ชาวบ้านผวาตกใจเมื่อพบ ลุงเก็บขยะ นอนเสียชีวิตสภาพเละอยู่กลางถนน ก่อนจะแจ้งไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.วุฒิสันต์ ภคพรมงคล รอง สว.สอบสวน สภ.อุดมทรัพย์ และเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 จุดระดมทรัพย์ ก่อนรุดเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุตามที่ชาวบ้านมาแจ้งเหตุ

เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุพบว่า มีชายแก่นอนเสียชีวิตกลางถนน เนื่องจากเกิดเหตุระเบิดจากลูกระเบิดที่เก็บมาจากป่า ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นค่ายฝึกทหาร บะอีแต้ บ้านตะกุดรัง ในหมู่ที่ 4 ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

ผู้ตายคือนาย ชอบ เสกสรรค์ วัย 64 ปี ชาวตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ที่มานายตายกลางถนน สภาพเละไปทั้งตัว แขน-ขา ขาด หัวแตกเละกระจาย ส่วนเสื้อผ้าขาดเป็นชิ้นๆหน่อยๆ ลอยปลิวกระจายไปค้างบริเวณยอดไม้ที่อยู่บริเวณใกล้ เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายนั้นอาจจะเดินทางเข้าป่าเพื่อไปหาของป่า แต่มาเจอลูกระเบิดเสียก่อน จึงหยิบเอาลูกระเบิดแล้วมาแกะกระเตาะเพื่อนำเหล็กอลูมิเนียมไปขายเอาเงิน แต่ระเบิดเกิดทำงานจนแตกระเบิดขึ้นเสียก่อน จึงทำให้ผู้ตายได้เสียชีวิตลงอย่างอนาถ

เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 ได้ออกมาเปิดเผยว่า พื้นที่ที่ลุงเก็บขยะเข้าไปเก็บเอาลูกระเบิดเก่าเพื่อจะนำเอวมาขาย พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตค่ายฝึกทหาร บะอีแต้ ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่างนี้เป็นพื้นที่อันตรายที่ห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกผ่านเข้าออก แม้แต่จะเข้ามาเก็บของป่าเพื่อเลี้ยงชีพก็ห้ามเข้า เนื่องจากทหารมีการฝึกบางครั้งใช้กระสุนจริง ดังนั้นคนที่เข้าไปในเขตหวงห้ามอาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ทั้งนี้ลูกระเบิดที่ผู้เสียชีวิตเก็บมานั้นคาดว่า คงจะเป็นลูกปืน ค. เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะต้องสร้างรั้วเพื่อกันไม่ให้ประชาชนหรือชาวบ้านระแวงใกล้เคียงเข้ามาในเขตพื้นที่ฝึกได้อีก และเจ้าหน้าที่ก็จะประชาสัมพันธ์เพื่อกระจายข่าวให้ชาวบ้านรู้ว่าไม่ให้เข้าไปใกล้พื้นที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตดังกล่าวนี้อีก และถ้าใครฝ่าฝืนเข้าไปต้องได้รับโทษและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย