ลูกชายติดใจวัคซีนสูตรไขว้ แม่ช็อก!! ขาอ่อนแรงเดินไม่ได้ “รัฐบาลจิตใจทำด้วยอะไร” นำวัคซีนไร้คุณภาพมาฉีดให้ประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 กรณี ลูกชายติดใจวัคซีนสูตรไขว้ ทำให้แม่ช็อกขาอ่อนแรงเดินไม่ได้ ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวประณามรัฐบาลไร้จิตใจ ขาดความรับผิดชอบไม่แยแสชีวิตประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนที่ไร้คุณภาพที่รัฐฯจัดหามาฉีดช่วยประชาชนหรือฆ่าประชาชน

จิตใจทำด้วยอะไร!! ลูกชายติดใจวัคซีนสูตรไขว้ เชื่อสุดใจเป็นสาเหตุให้แม่ที่แข็งแรง ไม่มีแม้แต่โรคประจำ เปลี่ยนมาเป็นคนไร้เรี่ยวแรงเดินไม่ได้

ลูกชายติดใจวัคซีนสูตรไขว้ ตามนโนบายรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยได้ออกมาโพสต์ภาพคุณแม่สภาพนอนบนเตียงคนไข้ใส่สายน้ำเกลือและใส่สายออกซิเจนในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง คุณแม่มีสภาพอ่อนแรงหลังการฉีดวัคซีน และได้ตัดพ้อถามถึงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแม่ตัวเองว่า

ขอถามรัฐบาลหน่อยจิตใจพวกมึงทำด้วยอะไร ทำไมเอาวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพมาฉีดให้แม่กู กูขอให้พวกมึงตายอย่างอนาถพวกมึงฆ่าคนมาแล้วกี่คน เพื่อความสบายของตัวพวกมึงเองคนทุกอย่างพวกกูแม่กูครอบครัวกูต้องมาลำบาก เพราะอะไรเพราะพวกมึงไงพวกมึงโกงกิน ประชาชนยังไม่เห็นหน่วยงานไหนมารับผิดชอบเลยหมอบอกว่าแม่อาจจะเดินไม่ได้สามเดือนหรืออย่างมากปีนึง พวกมึงดูความเลวของพวกมึง ครอบครัวได้ไปทำอะไรให้พวกมึง ชีวิตคนทั้งคนจิตใจพวกมึงทำด้วยอะไรว่ะไม่รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนกันเลยเหรอ

พอไม่ฉีดเกิดสังคมแอนตี้ #ทั้งๆวัคซีนที่ฉีดไม่ได้ป้องกันอะไรเลยไม่มีประสิทธิภาพ #วัคซีนร้าย #แต่สังคมร้ายกว่า อยู่บ้านเราไม่ได้ต้องดิ้นรนเพื่อจะฉีดขนาดนั้น ไม่ได้อยู่พื้นที่เสี่ยง ไม่ได้ไปที่เสี่ยง คนที่ทำร้ายกันคือสังคมที่มองว่าคนที่ไม่ฉีดคือคนที่เอาเชื้อมาทำให้คนอื่นเดือนร้อน

#ไม่ฉีดก็โดนว่า #ฉีดมาก็เป็นแบบนี้ สาธุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายขอให้ปลุกปากรักสาแม่ของลูกให้หายจากภยันตรายทั้งหลายด้วยเถิดบุญกุศลที่ลูกได้ทำมาขอให้ช่วยนำพาให้แม่ของลูกกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติด้วยเถิด

มีใครพอรู้ไหมเกี่ยวกับอาการแบบนี้เราต้องร้องเรียนได้ที่ไหนหน่วยงานไหนที่จะต้องมารับผิดชอบพอมีใครรู้ไหมช่วยบอกผมหน่อยถามว่าเรามีเงินรักสาไหมมีครับแต่ว่าผมต้องการแค่ให้หน่วยงานมารับผิดชอบมาดูแลบ้างไม่ใช่นิ่งเฉยไม่ทำหาลัยเลยให้คนในครอบครัวดิ้นรนกันเองรับผิดชอบในตัวกันเอง วานมีใครพอรู้ไหมช่วยบอกผมหน่อย

สุดท้ายช่วยฝากแชร์หน่อยนะครับกลับขอบคุณทุกคนที่รับฟัง

นายพีรพัฒน์ วัย 27 ปี เจ้าของโพสต์ ได้ออกมาเผยว่า นางสาวอรนิด วัย 47 ปี ผู้เป็นแม่ ทั้งสองเป็นชาวบ้านตำบลสร้างถ่อน้อย อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 กันยายน แม่ได้ไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นแอสตราเซเนกา ในโรงพยาบาลหัวตะพาน ซึ่งวัคซีนที่แม่ฉีดเป็นวัคซีนสูตรไขว้ และเข็กแรกที่แม่ฉีดเป็นวัคซีนซิโนแวค

ในวันที่เข้าฉีดแอสตราเซเนกา สูตรไขว้เข็ม 2 ผ่านไปประมาณ 30 นาที แม่ของตนก็มีอาการปวดตามร่างกาย และยังมีอาการหน้ามืด แต่ขณะนั้นแม่ก็ยังฝืนตัวเองขับรถกลับมาบ้านด้วยตัวคนเดียว พอเวลาผ่านมาถึงช่วงเย็นแม่ก็มีอาการไข้หนาวสั่น ตัวร้อนไข้ขึ้นสูง จนเวลาเลยมาถึงตี 2 ของวันที่ 18 กันยายน แม่ของตนก็มีอาการช็อก จึงได้รีบนำส่งไปที่โรงพยาบาลหัวตะพาน พอไปถึงหมอที่อยู่ตอนนั้นก็แค่ให้น้ำเกลือกับแม่ และไม่ได้มีอาการตรวจเช็คอาการเพิ่มเติมอะไรเลย บอกเป็นแค่ไข้หวัด และให้เตรียมตัวกลับบ้านไปได้เลยเพราะทางโรงพยาบาลไม่มีเตียง

หลังจากกลับจากโรงพยาบาลก็ได้พักจนถึงตอนเที่ยงของวันที่ 18 กันยายน แม่ก็มีอาการช็อคกลับมาอีกครั้ง ตนตกใจมากรีบนำแม่ส่งไปยังโรงพยาบาลอำนาจเจริญ และอาการช็อกของแม่ในครั้งนี้ก็ทำให้แม่พูดไม่ได้ เมื่อหมอได้ตรวจดูก็บอกว่าขาแม่อาจจะเดินไม่ได้ทั้งสองข้าง และอาจจะกลับมาเดินปกติได้ต้องใช้เวลา 3 เดือน – 1 ปี และหาสาเหตุในการเอกซเรย์ไม่ได้เพราะอุปกรณ์ที่โรงพยาบาลมีไม่ครบ ทางโรงพยาบาลอำนาจเจริญได้ทำเรื่องส่งตัวแม่มาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ที่อยู่ใน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

นายพีรพัฒน์ ได้เล่าต่อไปว่า ตนรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะแม่เป็นคนแข็งแรงก่อนหน้านี้ก็สามารเดินได้ปกติ แต่ต้องมามีสภาพแบบนี้ ตนรับไม่ได้ที่ไม่มีหน่วยงานไหนมาแสดงความรับผิดชอบ ตนและครอบครัวตนดิ้นรนด้วยตัวเอง ขณะนี้แม่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และอาการแม่ก็ดีขึ้นมาบ้างเพราะเริ่มกลับมาพูดได้แต่ก็ยังขยับขาไม่ได้ หมอได้บอกกับตนว่าจากการวินิจฉัยบอกได้แค่ว่า 50/ 50 เพราะไม่สามารถระบุว่าสาเหตุเกิดจากวัคซีนหรือเหตุอื่น แม่ที่เริ่มรับรู้ได้ก็มีอาการเป็นคนซึมเศร้า

ทั้งนี้ นายพีรพัฒน์ ยังยืนยันว่าอาการของแม่ที่เกิดขึ้นเพราะวัคซีนสูตรไขว้ และสงสัยว่าหมออาจจะผิดบังข้อมูลอยู่  ตนอยากให้หน่วยงานรัฐฯได้ออกมาพูดขอโทษหรือรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นบ้าง ไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก ไม่ได้อยากได้เงินช่วยเหลือแค่อยากได้แม่คนเดิมที่แข็งแรงกลับคืนมา

ไม่รู้ว่าวัคซื้อที่รัฐบาลนำมากให้ฉีดจะมีคุณภาพมากแค่ไหน บางคนฉีดอาจจะไม่มีอาการอะไร คนไม่มีเงินก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเหมือนการโดนบังคับว่าต้องฉีดไม่งั้นสังคมก็จะว่าและแอนตี้ แต่ถ้าคนมีเงินคงเลือกที่จะฉีดวัคซีนอะไรก็ได้ที่ดีมีคุณภาพ