ลุกฮือ!! ล้างรถที่เคยมีศพ ศพตายในรถ 2 สัปดาห์

ล้างรถที่เคยมีศพ จากที่เป็นกระแสโซเซียมได้ออกข่าวดัง สำหรับเรื่องราว ศพนอนอยู่ในรถ 2 สัปดาห์ เจ้าของคาร์แคร์เล่าประสบการณ์ล้าง รื้อทั้งคัน และขอรับงานครั้งแรกและครั้งสุดท้าย มีชาวเน็ตนับถือใจโซเชียลแห่ให้กำลังใจ “เจ้าของคาร์แคร์” หลังรับล้างรถมีศพติดอยู่ในรถนาน 2 สัปดาห์ พร้อมเผยมีหลายคนสนใจขอซื้อรถ ติดตามรับชมข่าวเด่นออนไลน์

ล้างรถที่เคยมีศพ คาร์แคร์เล่าประสบการณ์ล้าง รื้อทั้งคัน

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ธีรศักดิ์ เกียรติสุขเดโช เจ้าของร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวที่ร้านต้องทำความสะอาดรถยนต์ ที่เคยมีศพติดอยู่นาน 2 สัปดาห์ กว่าจะมีคนมาเจอ เพราะผู้เสียชีวิตอยู่คนเดียวลำพัง โดยระบุว่า

และนี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกและคงเป็นครั้งเดียว สำหรับการล้างรถ กับจากการรื้อรถทั้งคันที่มีศพนอนเสียชีวิต 2 สัปดาห์ โดยพบว่ามีทั้งเลือด น้ำเหลือง ไหลจนนองเต็มพื้นรถ ส่วนกลิ่นไม่ต้องพูดถึง ทำความสะอาดทุกจุดที่ทำได้ เปลี่ยนอะไหล่ทุกจุดที่จำเป็น และพยายามเซฟค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ รถคันดังกล่าวเป็นรถใหม่ เลขไมล์เพียง 8,000 กว่า จึงเป็นเหตุให้เจ้าของรถไม่อยากขายรถออก และมาจ้างคาร์แคร์ให้ช่วยล้าง ซึ่งกระบวนการทำความสะอาดนั้นใช้เวลากว่า 1 เดือน ทำทุกวิถีทางเท่าที่ร้านนั้นมีความรู้ และรับฟังคำแนะนำจากลูกค้าในร้าน รวมถึงพรรคพวกในวงการคาร์แคร์ ที่ทำนี่ยิ่งกว่าที่เคยฟื้นฟูคันไหน ๆ ยอมรับว่าเห็นใจลูกค้า อยากช่วยให้ลูกค้าได้รถกลับไปใช้แบบสบายใจ ให้สมกับที่ลูกค้าวางใจร้าน แต่คงต้องบอกด้วยว่า รับไม่ไหวจริง ๆ

แน่นอนเลยว่าทางร้านจะทำเต็มที่ ทั้งการถอด รื้อ ทำความสะอาด ตากแดด เบิกอะไหล่ใหม่ ทาสีกันสนิม ฟอกอากาศ อบโอโซนให้ทุกวันและตากแดดเพิ่ม นับได้เลยว่ารื้อใหม่หมดเลย เรียกได้เลยว่าอุปกรณ์ทุกอย่างที่ใช้ในการทำความสะอาดรถคันนี้ยกเว้นเครื่องมือช่าง และทางร้านใช้แล้วกำจัดทิ้งทั้งหมด ส่วนเครื่องมือช่างได้ฉีดล้างด้วยแอลกอฮอล์ทุกอย่าง แต่กลิ่นก็ไม่หายไป 100% สะอาดใหม่ ส่งกลิ่นหอมแน่นอน สำหรับอากาศภายในรถ คงสะอาดมากขึ้นแน่นอน

ต้องบอกไว้เลยว่าโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปหลายพันครั้ง มีชาวเน็ตหลายคนต่างชื่นชม พวกทั้งเข้ามาเเห่ให้กำลังใจ นับถือหัวใจทั้งทางร้านและพนักงานทุกคน ที่รับทำงานยากและทำเต็มที่ขนาดนี้สามารถเข้ามาดูข่าวเด่นออนไลน์ได้แล้วที่ช่องทางออนไลน์แห่งงนี้

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่