“อันยู๋ชิง” ดาราสาวไต้หวัน วิดีโอขอบคุณ “ชูวิทย์” สนับสนุนตีแผ่ความจริง “ตำรวจไทยไถเงิน” บุหรี่ไฟฟ้า-วีซ่า

ข่าวเด่นออนไลน์ เปิดภาพคู่ ดาราสาวไต้หวัน และ “ชูวิทย์” วีดีโอขอบคุณ ซาบซึ้งในน้ำใจที่ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนเข้าข้างความจริงหนู และตีแผ่พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ซึ่งขูดรีดนักท่องเที่ยวเรียกเก็บเงิน จากกรณี บุหรี่ไฟฟ้าและเรื่องวีซ่า มันทำให้ได้รับความยุติธรรมและยังเรียกคืนเงินกลับมาอีก

เปิดภาพ “อันยู๋ชิง” ดาราสาวไต้หวัน วิดีโอขอบคุณ “ชูวิทย์” สนับสนุนอยู่เคียงข้าง ตีแผ่ความจริง “ตำรวจไทยไถ่เงิน” เรื่องกระจ่างเจ้าที่ผู้เท็จใส่กล่าว นทท.และข่มขู่

อันยู๋ชิง ดาราสาวไต้หวัน ที่ก่อนหน้านี้ได้เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยพร้อมกับเพื่อน ก่อนจะเกิดเรื่องถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านเรียกเก็บเงินบริเวณสถานทูต พร้อมกับข่มขู่ว่าทำเรื่องผิดกฎหมายบังคับเอาเงินด้วย และประเด็นดังกล่าวนี้ก็ได้เป็นดราม่าร้อนบนโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่องทั้งสัปดาห์ จนกระทั่งอดีตนักการเมืองชื่อดัง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ได้ออกมาเปิดโปงและให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยว พร้อมกับรับคุ้มครองพยานปากสำคัญ “สกาย” ชายชาวสิงคโปร์ซึ่งเป็นเพื่อนของดาราสาวไต้หวัน

อดีตนักการเมืองดัง “ชูวิทย์” หลังได้นำหลักฐานสำคัญ เพื่อนำมาเปิดเผยต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อชี้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขูดรีดเงินกับประชาชนและสร้างความเสียหาย ปฏิบัติงานไม่ซื่อตรงด้วยการเรียกข่มขู่เก็บเงินจากนักท่องเที่ยว

โดยในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ความคืบหน้าภายหลังจากมีการเปิดโปงความจริง สืบเนื่องมาจากวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ชูวิทย์ได้นำพยานปากเอกที่เป็นชายชาวสิงคโปร์เขาพูดได้เป็นคนควักเงิน 27,000 บาทมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ที่มาข่มขู่รีดเงิน โดยตำรวจอ้างว่าเขาทำผิดเนื่องจากพกบุหรี่ไฟฟ้า และยังมีการบอกว่าทำผิดในกรณีวีซ่า ซึ่งเจ้าตัวได้อธิบายในข้อมูลนี้ว่า เขาไม่รู้มาก่อนว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย เนื่องจากเห็นวางขายทั่วไปและบุหรี่ไฟฟ้าที่เขาพกก็ซื้อมาจาก “ตลาดห้วยขวาง” ยิ่งไปกว่านั้นเขายังรู้ว่ากัญชาในประเทศไทยเปิดเสรีแล้ว เขาจึงคิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าก็คงถูกกฎหมายเหมือนกับกัญชาเสรี (บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายแต่กัญชาถูกกฎหมาย??)

ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ มีความเคลื่อนไหวบน facebookของ “ดาราสาวไต้หวัน” ได้มีการโพสต์ภาพที่กำลัง video call คุยกับอดีตนักการเมืองดังของประเทศไทย “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” เธอได้โพสต์ภาพประกอบเพื่อที่จะกล่าวขอบคุณที่เข้ามาช่วยเปิดเผยความจริงในคดี “ตำรวจไทยรีดไถเงิน 27,000 บาท” หลังจากที่เธอเจอเรื่องราวนี้เมื่อครั้งมาเที่ยวที่ประเทศไทยกับเพื่อน “อันยู๋ชิง” ได้ระบุข้อความกล่าวขอบคุณและเธอรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากต่อชูวิทย์ ไม่ให้การสนับสนุนและเปิดโปงความจริงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอยอมรับว่าถ้าไม่มีคุณชูวิทย์เรื่องราวทั้งหมดก็คงไม่ราบรื่น เธอยืนยันว่าในอนาคตเธอจะนับถือเขาเหมือนเพื่อนและเป็นพี่ชาย และจะช่วยเหลือหากเขาได้รับความเดือดร้อนหรือมีอะไรที่เธอพอจะช่วยได้ เธอขอเป็นตัวแทนจากเพื่อนทุกคนในเหตุการณ์เพื่อกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้ง และเธอก็หวังว่าจะได้เจอคุณชูวิทย์ครั้งที่ไปประเทศไทยอีกรอบ