หนุ่มใหญ่วัย 53 ปี ฉีดวัคซีนเข็ม 2 หัวใจเต้นผิดปกติ เลือดออกปาก-จมูก สุดท้ายเสียชีวิตอนาถคาบ้านพัก

ข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมานี้  ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณี หนุ่มใหญ่วัย 53 ปี ฉีดวัคซีนเข็ม 2 หัวใจเต้นผิดปกติ เมื่อกลับไปพักฟื้นที่บ้านก็มีอาการปวดขาไม่ทราบสาเหตุก่อนจะมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ

ซอยรังสิตนครนายก 13 แยก 5 ประชาธิปัตย์ ปทุมธานี เกิดเหตุสลด หนุ่มใหญ่วัย 53 ปี ฉีดวัคซีนเข็ม 2  หัวใจเต้นผิดปกติ เลือดออกปาก-จมูก ก่อนพบนอนสิ้นใจ

รายงาน การเสียชีวิตอย่างสลดของ หนุ่มใหญ่วัย 53 ปี ฉีดวัคซีนเข็ม 2  เมื่อช่วงกลางดึกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดย ร.ต.อ.ประพันธ์ เรืองสุวรรณ์ รอง สว.(สอบสวน) ได้รับแจ้งเหตุว่าพบศพมีผู้เสียชีวิตคาบ้านพัก ซึ่งอยู่ภายในซอยรังสิตนครนายก 13 แยก 5 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานงานไปยังทีมแพทย์เวรพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิร่วมกตัญญู ก่อนรุดหน้าลงพื้นที่เกิดเหตุ

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า บ้านหลังเกิดเหตุมีชาวบ้านมามุงเพื่อดูศพของผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในบ้านหลังดังกล่าวพบผู้เสียชีวิตมีสภาพนอนหงายบนเตียง ทั้งนี้ผู้ตายยังมีเลือดออกปากออกจมูก พอทำการตรวจตามร่างกายเจ้าหน้าที่ไม่พบรอยบาดแผลใดๆ และรวมถึงไม่พบร่องรอยการต่อสู้ที่คาดว่ามีโจรบุกปล้นนบ้านเช่นกัน ในส่วนของทรัพย์ภายในบ้านก้ยังอยู่ครบ และผู้ตายเป็นชายอายุ 53 ปี

ทางด้านของนายเฉลียว ในวัย 70 ปี ซึ่งเป้นน้าของผู้ตาย ได้ออกมาเล่าว่า ผู้ตายเป็นหลานของตน และได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วยตัวคนเดียวเนื่องจากหลานได้เลิกลากับภรรยามานานแล้ว ทั้งนี้หลานก็ไม่ได้มีลูกกับภรรยาที่เลิกกันไปด้วย หลานทำงานกับผู้รับเหมาที่รับซ่อมเครื่องจักรในโรงงานแถวรังสิต หลานของตนมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ และยังไม่มีโรคประจำตัวด้วยแต่ว่าก็เป้นความดัน

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 64 ที่ผ่านมาหลานชายของตน ได้เดินทางไปฉีดวัคซีนเข็มที่สองมา และเมื่อกลับมาถึงบ้านก็ได้มาบ่นให้ฟังว่า ปวดขา พร้อมกับรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงกว่าปกติ ก่อนจะรู้สึกอ่อนเพลียแล้วอยากนอนพักผ่อน หลังจากนั้นก็ได้แยกย้ายกันไปพักตามบ้านของตน

สุดท้ายมารู้อีกทีก็ได้รู้ว่าหลานเสียชีวิตลงแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุแล้วก้ได้นำร่างไร้วิญญาณหลานชายส่งไปชันสูตรการตายโดยละเอียดในสถาบันนิติเวชของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ