สาวลั่นเข็ดแล้ว! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ป่วนหลอกโอนหลายล้าน หมดเกลี้ยงบัญชี

ข่าวเด่นออนไลน์ ล่าสุดวานนี้ (16 ก.พ. 65) เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์โผล่อีกราย หลังสูญเงินกว่า 4 ล้านบาท หมดเกลี้ยงบัญชี ตัดพ้อคดีความไม่คืบหน้าเดือดร้อนแทบบ้า เจ้าหน้าที่ดำเนินการช้า เพร้อมสู้หลักฐานครบมือ

โพสต์ร่ายยาว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงินนับล้าน หมดเกลี้ยงบัญชี เก็บข้อมูลยื่นดำเนินคดีไม่คืบหน้า

โพสต์ยาวเล่าประสบการณ์เตือนภัย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพออนไลน์ สาวลั่นเดือดร้อนหนัก หมดเกลี้ยงบัญชี ทั้งนี้เป็นการเผยข้อความผ่านบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ Piraya Jittarwong ระบุว่า ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรติดต่อเข้มาในมือถือ ก่อนถูกหลอกให้โอนเงินไปจำนวน 4,016,000 บาท และตัดพ้อว่า หลังเกิดเรื่องพยายามส่งดำเนินคดี เดินเรื่องเหมือนคนบ้าอยู่ตั้ง 2-3 วัน ขณะที่ก็รอมาเกือบสัปดาห์เรื่องยังนิ่งอยู่ จนท.ทำงานช้าหรืออยากให้มิจฉาชพไปหลอกคนอื่นอีก

หญิงสาวเจ้าของเรื่องและเจ้าของเฟซได้กล่าวข้อความถึงเจ้าหน้าที่ด้วยว่า วอนเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วย ช่วยเร่งตรวจสอบเรื่องให้ด้วย เพื่อจะได้เร่งอายัดบัญชีคนรายไม่ให้สามารถโอนย้ายเงินไปที่อื่น ในบัญชีที่มีการโอนเข้าออกของเลขบัญชีปลายทางที่ตนโอนไป เธอเกิดความสงสัย ทั้งที่เธอเก็บหลักฐาน และพยานที่เกี่ยวข้องไว้ได้ทั้งหมด หลักฐานพร้อมดำเนินคดี ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่ยังต้องให้รออะไรอีก และสำคัญทางธนาคารไม่ให้คามร่วมมือและไม่ช่วยเหลือเธอเลย ทั้งที่ตนก็ใช้บริการธนาคารแห่งนี้มานาน

ธนาคารไม่ได้แสดงการคุ้มครองลูกค้าสักน้อย  ทำไมคนบริสุทธ์ที่ต้องอดทนทำงานอย่างยากลำบาก เธอเดือดร้อนที่ต้องเสียเงินไปหลายล้านพยายามวิ่งเต้นเดินเอกสารต่างๆ จนดูเหมือนคนบ้านขึ้นทุกวัน ทำไมมันต้องถึงขั้นขอร้องกราบกรานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินเรื่องให้ ซึ่งมันเป็นหน้าที่ที่เขาต้องดำเนินเรื่องให้เรา เอกสารครบหมดทุกอย่างทุกขั้นตอน แต่เจ้าหน้าที่บอกให้รอการตรวจสอบอีก เพื่ออะไร??

เธอเล่าต่อว่า เธอต้องส่งเอกสารฉบับจริงส่งให้หน่วยงานที่มีอำนาจสั่งการตรวจสอบผ่านทางไปรษณีย์ เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องให้เอกไป-มา มันเสียเวลาและป่านนี้เงินที่โอนเข้าบัญชีมิจฉาชีพคงถูกโอนไปที่อื่นแล้ว เพราะไม่มีการดำเนินการอายัดบัญชีของโจรให้ ตอนนี้เธอเริ่มไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้มีโจรมากขึ้น มีมิจฉาชีพมาขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ไม่เร่งดำเนินการมัวรออะไร แม้แต่โทรแจ้งธนาคารเธอก็ต้องรอสายนานเป็นชั่วโมง ถ้ายังทำงานกันแบบนี้คนชั่วก็ไม่มีวันหมดมีแต่จะเพิ่ม วิ่งเรื่องมา 3 วัน เรื่อนิ่งไม่คืบหน้า ต่อไปเธอคงจะไม่กล้าฝากเงินกับธนาคารไหนแล้ว

สมัยก่อนเคยคิดว่าธนาคารคือมีเก็บรักษาเงินได้ปลอดภัยที่สุด แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เลย อะไรก็อ้างว่าคิดว่าเราเป็นคนโอนเงิน แต่ทำไมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติที่บัญชีหนึ่งๆจะกดโอนเงินจำนวนเยอะติดต่อกันในไม่กี่วิ และบัญชีปลายทางยังโอนเงินต่อไปอีกบัญชีอย่างรวดเร็วในคราวเดียว เจ้าหน้าที่ควรคิดได้ว่มันผิดปกติ และเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาตรวจสอบ

ทุกวันนี้เราจะทำงานไปเพื่ออะไร ทำงานไปไม่ได้ใช้เงิน ถูกแก๊งมิจฉาชีพลักโอนเกลื่อนเมือง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งตามเรื่อง ถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ประเทศไทยของเราคงไม่ใช่บ้านที่น่าอยู่อีกต่อไปแล้ว

สุดท้ายอยากฝากเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับตัว เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้เพื่อนอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ และระวังแก๊งมิจฉาชีพบางครั้งก็อาจจะอยู่ใกล้ตัวเรา มันสามารถมาได้ทุกรูปแบบ ไม่อยากให้เพื่อนๆตกเป็นเหยื่อแบบเธอ เงินเก็บทั้งชีวิตหามาได้ด้วยความลำบากต้องมาตกเป็นของคนไม่ดีเอาไปใช้สบาย เรื่องที่เกิดขึ้นขอเพื่อนๆอย่าเพิ่งมาว่าซ้ำเติม เธอพลาดไปแล้วจริงจริง ทุกวันทำอะไรก็ร้องไห้ ไม่ว่าจะนั่งหรือยืน และเธอก็ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงว่าใครที่ไม่ได้การช่วยเหลือ