Monday, 6 May 2024

เรื่อเล่าขนหัวลุก หมอปลายในศรีลังกา เจอเรื่องหลอนมากมาย จนไม่อยากสึก?

ข่าวเด่นออนไลน์ เมื่อไม่นานมานี้เปิดรายงานบทสัมภาษณ์ หมอปลายในศรีลังกา เรื่องที่น่าขนลุกที่ภิกษุณีต้องได้พบเจอกันทุกคน อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย มันเรื่องแปลกมากมายเกิดขึ้นมาทดสอบจิตใจ หมอดูคนดังถึงกับบอกว่าอาจจะไม่สึก

สล็อต xo Slotxo

ยามค่ำคืน! หมาหอนผิดปกติ เรื่อเล่าขนหัวลุก หมอปลายในศรีลังกา และหากซึ้งในรสพระธรรมอาจจะไม่สึกก็ได้ ไม่มีอะไรแน่นอน

ยามค่ำคืน! หมาหอนผิดปกติ เรื่อเล่าขนหัวลุก หมอปลายในศรีลังกา และหากซึ้งในรสพระธรรมอาจจะไม่สึกก็ได้

หมอปลายในศรีลังกา เปิดใจเล่าไม่ว่าจะนั่งอยู่ตรงส่วนไหนก็เหมือนจะน่ากลัวไปหมด เรื่องน่าขนลุกต่างแดน เจอทุกรูปแบบ อาทิ เปรต ผีสาว ส่วนหมาก็เห่าหอนไปทั่วทั้งคืน ภิกษุณีหลายคนหรือแทบทุกรูปต่างก็หอบลุกใส่จีวรวิ่งหนี แต่ก็มีบางครั้งที่คิดจะบวชแบบไม่สึก

ทั้งนี้ หมอปลาย หรือ ภิกษุณีสุทัสสนา สำหรับการใช้ชีวิตเป็นภิกษุณีในประเทศศรีลังกา ได้พบเจอกับผีสาว มีองค์พญายมมาคุ้มครอง มันก็เป็นอีกหนึ่งในจุดสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ นั่นก็คือ “สุนัข” น้องค่อยเตือนภัยตลอด ทั้งหมดมี 4 ตัว มักจะคอยส่งสัญญาณเตือนเสมอ อีกทั้งช่วงกลางคืนนั้นช่างเงียบมาก แค่เรากดสวิตช์ทำให้ไฟดับสุนัขก็หอนรับกันแล้ว มันทำให้รู้สึกขนลุกขึ้นมากเลย นอกจากนี้มีการเปิดใจในเรื่องของข่าวลือทีว่าจะบวชไม่สึก

ในวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ภิกษุณีสุทัสสนา ได้มีการเดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ เล่าว่าช่วงเวลากลางวัน-กลางคืน ได้พบเจอเข้ากับผีผู้หญิง ความรู้สึกจากใจเล่าเรื่องจริง เราเองเป็นคนกรุงเทพไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะไปใช้ชีวิตแบบภิกษุณี ต้องไปนั่งดูต้นมะพร้าง หรือ ต้นไม้ต่างๆ ช่วงกลางวันจะมีเสียงของวัว บางครั้งแพะ และลิง กระโดดข้ามไปข้ามา ขณะที่นั่งสวดมนต์ลิงก็กระโดดไปมา ในบางทีมันก็กัดกัน  ก่อนที่ไฟจะดับลงก็มาถึงช่วงฉันเพล บรรยากาศมันทำให้รู้สึกอึมครึม ที่ศรีลังกาจะทำอาหารฉันเอง ไม่มีการไปบิณฑบาต ต้องไปเขย่าต้นมะพร้าวเพื่อเอากากมะพร้าวลงมาทำเป็นเชื้อเพลิง บางครั้งเอาใบไม้มาสุมจุดไฟ

ช่วงค่ำช่วงเย็นมันเป็นเวลาที่สร้างความตื่นเต้นไม่น้อย พอได้เริ่มต้นสวดมนต์ไฟก็จะดับ จะมองอะไรไม่เห็น ก็ทำวัตรกันอยู่ในความมืด เทียนก็ไม่ซื้อเพราะออกไปข้างนอก ก็ไม่มีรถออกไป ลำบาก ก็ใช้ไฟจากมือถือ ไฟฟ้าจะดับประมาณ 20.00 น. – 23.00 น. พอไฟดับ มักจะมีหิ่งห้อยบินเข้ามาในห้อง ส่วนห้องน้ำอยู่ไกลออกไปมากพอสมควร พอเราทำอะไรเล็กน้อย แค่เหยียบอะไรบางอย่าง มันก็เกิดเสียงดังแก๊ก และการกดสวิตช์ เพื่อทดสอบว่าไฟฟ้ามาหรือยัง หมาหอนออกมาและหอนตอบรับกันไปเรื่อยๆ ชนิดที่เรียกว่าขนลุกเลย น้องหมาหอนชนิดที่เรียกว่าแบบนี้ต้องเจอผี บรรยากาศมันวังเวง ช่วงกลางคืนมันเงียบมาก แค่เสียงดังแก๊กนิดเดียวน้องหมาก็หอนขึ้นมาเลย หากเจอหรือได้ยินเสียงฝีเท้า เสียงคนกำลังล็อกประตูในเวลากลางคืน หากเราได้ยินสิ่งเหล่านี้ นั่นหมายความว่ากำลังเกิดสิ่งผิดปกติ แม้ทุกอย่างจะดูเงียบมากแต่ทางวัดเราก็มีการ์ดขาประจำเฝ้าระวังภัยเป็นน้องหมา การเห่าหอนของพวกเขามักจะหอนแปลกแสดงความไม่ปกติ ภิกษุณีทุกรูปหากได้ยินเสียงหอนเห่าทีไรต่างขนลุกทั้งนั้น ต้องห่มจีวรแล้วค่อยเดินมาตรวจดูในภายหลัง การนั่งสมาธิที่นี่ต้องไปนั่งในป่า บรรยากาศมันก็น่ากลัวมาก มองไปบางครั้งคิดว่าเจอเปรตเข้าเสียแล้ว  ไม่ว่าเราจะนั่งส่วนไหนก็เห็น บางครั้งเขามาห้อยหัว

ท่านยมเป็นองค์คุ้มครองติดตามตัวเสมอ บริเวณไหนที่มีสิ่งเร้นลับเจ้าที่แรงท่านจะมากันออกไปให้เสมอ  ส่วนภิกษุณีเองจะไม่เข้าไปยุ่งจะเอาจี้ของท่านยมไปด้วย วางตามจุดทำให้พบสิ่งที่สร้างความมหัศจรรย์ในศรีลังกา กระจกตกแตกทันที่วางไว้ในห้อง ก่อนคืนนั้นผีผู้หญิงคนหนึ่งมาเข้าฝัน เลยบอกไปว่าจะทำบุญและกรวดน้ำไปให้ ส่วนใหญ่ที่เจอบ่อยจะเป็นผีผู้หญิง นับร่วมเจอมาแล้ว  6 ครั้ง ในระหว่าง 2 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่ได้บวชมา

การบวชในครั้งนี้มาเพื่อพัฒนาตัวเองมากกว่า เพราะอย่างไรก็มีความซึ้งในรสพระธรรมอยู่แล้ว เพราะพระพุทธเจ้าทุกพระองค์สอนอะไรมาก็จะนำเอามาปฏิบัติตามเสมอ ถ้าได้กลับไปเป็นฆารวาสก็สามารถกลับไปทำคุณประโยชน์ได้เหมือนกัน ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องไปทั้งชีวิต อาจจะต้องสึกออกไปเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับคนในสังคมและศาสนาให้มากขึ้นกว่าเดิม การบวชนี้ได้กำหนดระยะเวลา 1 ปี แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่ดวงและฤกษ์ ก่อนสึกต้องดูชัดนิดนึง และในวันนี้ ภิกษุณีสุทัสสนา ได้มีกำหนดเดินทางกลับไปยังศรีลังกาแล้ว ทั้งนี้มีภิกษุผู้ติดตามมาด้วยจำนวน 2 รูป