#หมอไม่ทน พร้อมใจเป็นหนึ่งเดียว “ติดโบว์ดำ” ทั่วประเทศ

ข่าวเด่นออนไลน์วันนี้ #หมอไม่ทน ติดโบว์ดำ แต่งชุดดำ เรียกร้องให้รัฐบาลนำเข้าวัคซีน mRNA เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านแรกในการรับเชื้อและพัวพันดูแลคนไข้ไม่ได้หยุด เร่งให้ได้รับการฉีดวัคซีน mRNA เป็นจำนวน 3 เข็ม/คน โดยเร็วที่สุด ถ้าเสียหมอไปคนไข้ก็รอดยาก

 #หมอไม่ทน เรียกร้อง 5 ข้อ นำเข้าวัคซีน mRNA

เช้าวันนี้ที่ 7 กรกฎาคม 2564 #หมอไม่ทน แถลงการณ์เรื่อง การนำเข้าวัคซีน mRNA โดยเช้าวันนี้ คณะบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ ร่วมแสดงพลัง ติดโบว์ดำ สวมเสื้อดำพร้อมการเรียกร้องอีก 5 ข้อ หลังจากการรายงานเอกสารการประชุมเฉพาะกิจระหว่างคณะกรรมการด้านวิชาการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558/คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค/คณะทํางานวิชาการด้านบริหารจัดการ/คณะศึกษาการให้บริการวัคซีน มีการประชุมเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ในองค์ประขุมไม่ได้มีการพูดถึงฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์” 3 เข็มต่อ 1 คน ทั้งนี้บุคลากรทางการแพทย์เหมือนถูกละเลยความสำคัญ ซึ่งเป็นด่านแรกที่ควรจะได้รับวัคซีนถึงบางคนจะรับการฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ก็ยังเสี่ยงที่จะติดเชื้อเพราะทำงานใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อทุกวัน ซ้ำร้ายประชาชนที่ติดและยังไม่ติดเชื้อก็ตาม มีอีกจำนวนมากที่ไม่แม้แต่จะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก!! ในการเรียกร้องในครั้งนี้ยังเป็นการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด19 รวมถึงผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด

5 ข้อ ที่บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขรวมไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ ผอ. ศบค. มีดังต่อนี้

1.นำเข้าวัคซีน mRNA ให้ได้เร็วที่สุด และนำมาใช้เป็นวัคซีนหลักในการป้องกันการระบาด โดยจะต้องเปิดเผยขั้นตอนการดำเนินการให้ประชาชนได้รับทราบ

2.นำวัคซีน mRNA เป็นวัคซีนฉีดกระตุ้นเข็ม 3 แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ต้องการฉีดทุกท่าน

3.เปิดเผยสัญญาการสั่งซื้อวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac รวมถึงวัคซีนอื่นๆ ที่ทางรัฐบาลไทยจะทำสัญญาในอนาคต เพื่อทำให้เกิดความโปร่งใส และพิสูจน์ให้ประชาชนได้ทราบว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาการระบาดอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตน

4.เปิดเผยบันทึกการประชุมในการประชุมเรื่องวัคซีนและการบริหารจัดการการระบาด COVID-19 เป็นข้อมูลข่าวสารสาธารณะทั้งหมด

5.COVID-19 สามารถแพร่กระจายผ่านอากาศ การสวม N95 จึงไม่เพียงพอต่อการป้องกันการติดเชื้อ รัฐจำเป็นต้องจัดหา FFP3 หรือ N99 เพื่อป้องกันการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์