อดีต “พุทธะอิสระ” แนะนำ “พระชาตรี” ไม่ต้องลดตัวลงมาเกลือกกลั้วกับ “คนพาล” เลย

ข่าวล่าสุดอดีตพุทธะอิสระ แนะ นำพระชาตรีว่า ไม่ต้องลดตัวลงมาเกลือกกลั้วข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับ “คนพาล” อดีตพระมหา 2 เพศ เลยให้ทำหน้าที่ของท่านให้ดีต่อไป หลังจากที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีประเด็นดราม่าร้อนระอุข้ามฝากฝั่งไปไกลมาไกลจนชาวเน็ตและชาวพุทธคอยจับตาดูว่ามันจะจบลงอย่างไร เพราะดราม่าร้อนรุอุดุเดือนนั้นมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

อดีตพุทธะอิสระ แนะ พระชาตรีอย่าลดตัวลงมายุ่งเกี่ยวข้องแวะกับอดีตพระมหา 2 เพศ

ดราม่าที่เกิดขึ้นจนร้อนระอุดุเดือดในครั้งนี้นั้นเป็นผลพวงที่มาจากไลฟ์สดของ “พระชาตรี” ที่เป็นเจ้าอาวาสวัดในรัสเซีย ที่ท่านนั้นได้พูดบางอย่างพาดพิง “แพรรี่” หรืออดีตพระไพรวัลย์ ทำนองว่าแพรรี่นั้นไม่รู้จักบุญรู้จักคุณของศาสนา แถมยังเรียกชื่อแพรรี่ว่า “อี” จนแพรรี่นั้นเดือนลุกขึ้นมาโต้ตอบกลับอย่างดุเดือดร้อนแรงผ่านไลฟ์สดเช่นกัน

โดยแพรรี่นั้นนก็ได้ด่าอย่างสะใจว่า “ไอ้โล้น” และอีกอื่นๆมากมายในประเด็นที่พระชาตรีนั้นได้พูดพาดพิงถึงเธอ พบปิดท้ายคำถามที่ว่าเธอเนรคุณอะไรกับใครเนรคุณศาสนาตรงไหน แล้วมาทวงบุญคุณแบบนี้ มาทวงได้ยังไง ไม่ได้เป็นคนมาสอน พร้อมบอกพระจะโดนเธอเทศน์กลับก็วันนี้แหละ

เรื่องราวไม่จบเท่านั้นเพราะมีทนายท่านหนึ่งได้โล้ไปแจ้งความจะดำเนินคดีกับ “แพรรี่” โดยกล่าวอ้างว่าเธอนั้นทำให้คณะสงฆ์เสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้เสียหาย และทางแพรรี่เองนั้นก็ไม่ได้ยอมแชร์โพสต์แล้วถามพร้อมท้าทาย จนกลายเป็นเรื่องราวที่เดือดดากว่าเดิม สุดท้ายจนต้องเดินทางไปออกรายการดังที่มีพิธีกรดำเนินรายการ “หนุ่มกรรชัย” สุดท้ายชัดกันนัวร์กลางรายการ แม้ว่าทาง “พระชาตรี” จะออกมาขอโทษแต่ดูเหมือนว่าเรื่องมันจะไม่ง่ายแล้วในตอนนี้

และเมื่อล่าสุดวันที่ 24 กันยายน 2565 ที่ผ่านมาอดีต “พระพุทธะอิสระ” นั้นก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่าน Facebook ที่ใช้ชื่อว่า “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)” พร้อมเขียนข้อความเอาไว้เชิงว่า “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล การปฏิบัติตัวนั้นบ่งบอกถึงชาติตระกูล

ของนมัสการ “พระอาจารย์ชาตรี”ที่เคารพหลังจากที่เห็นเรื่องราวที่ท่านนั้นได้คนที่เคยบวช คนที่เคยนุ่งผ้าเหลือง เพื่อศึกษาหาความรู้จนดีดตัวเองขึ้นมาได้ จากเด็กบ้านคนหนึ่ง ที่เคยอยู่อาศัยในที่แสนจะคับแคบ จนพาตัวเองได้มาดำรงตำแหน่งพระมหา 2 เพศ ก็สามารถรับรู้ได้ว่าคนในสังคมนั้นคาดหวังกับคนที่ในอดีตเคยเรียนจบถึงเปรียญธรรมเก้าประโยค แถมยังเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยสงฆ์ พี่สามารถเรียนจบถึงปริญญาโทได้ ว่าจะบวชหรือสึก ก็คงจะเป็นต้นแบบที่ดีของผู้คนในสังคม

แต่สิ่งที่ทุกคนได้เห็นพระอาจารย์ดูจากคนที่เคยบวชเข้ามาถึงสิบแปดปี (เริ่มตั้งแต่แต่บวชเณร) แต่กลับมีการกระทำตัวไม่ต่างอะไรกับคนที่เพลิดเพลินกับการหาอยู่หากินกับกามคุณอย่างชื่อชอบ ประมาท ดังนั้นมันเลยส่งผลคนในสังคมและพระอาจารย์ผิดหวัง เป็นอย่างมาก

และในวันนี้คนๆนั้นเปลี่ยนสถานนะจาก “พระมหา” มาเป็นหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่ใช่ แล้วก็ได้กระทำการที่ไม่เหมาะสมทั้ง กาย วาจา กิริยา กล่าวโต้ตอบกับผู้มีศีลโดยไม่คิดถึงบุญไม่คิดถึงปาบ หากว่าผู้มีศีลนั้นทำผิดกฎจริงๆ ก็สามารถต่อว่าได้ แต่การที่พระชาตรีนั้นออกมากล่าวตักเตือนนั้นควรจะคิดให้มากกว่านี้ แล้วควรหันมองดูตัวเองเพราะเรานั้นเคยเป็นคนที่อยู่ในศีลในธรรม

พระอาจารย์ชีวิตของพระอาจารย์นั้นเดินทางมาดีแล้ว อย่างลดตัวเองลงมายุ่งเกี่ยวกับคนพาลเลย สิ่งที่พระอาจารย์ทำทุกคนเขาสามารถรับรู้ได้ ขอให้ท่านมุ่งมั่น เผยแผ่อุดมการณ์ของ “พระบรมศาสดา” ให้กว้างไกลไปทั่วโลก อย่ามาให้ค่ากับคนพาลเลยพระอาจารย์