สาวเล่าประสบการณ์! อุทาหรณ์สายเที่ยว เงินในกระเป๋าหาย เข้าเครื่องสแกนที่สนามบิน

ข่าวเด่นออนไลน์ หญิงสาวออกเตือนภัยเล่าประสบการณ์ตรง “ปมเงินหายในสนามบิน” อุทาหรณ์สายเที่ยว เงินหายออกจากกระเป๋าตังค์ขณะเข้าเครื่องสแกนที่สนามบิน พอโวยวายเจ้าหน้าที่ก็มารุมล้อม เงินในกระเป๋ากลับคืนมาครบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เงินหายในเครื่องกระเป๋าสแกนสนามบิน อุทาหรณ์สายเที่ยว โวยปุ๊บ! รุมล้อม เงินกลับมาครบในพริบตา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา หญิงสาวชาวเน็ตได้ออกมาเล่าประสบการณ์เตือนภัยสายเที่ยว ลงในกลุ่ม facebook “คนชอบตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น” #แจ้งเตือนภัยเงินหาย จำนวน 40,000 เยน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขณะไปต่อเครื่องที่ฟิลิปปินส์ ภายในสนามบินมะนิลา เรื่องราวทั้งหมดเริ่มจากสามีของเธอเป็นคนที่ชอบนับเงินและเช็คอยู่ตลอดเวลาว่าครบไหม..ซึ่งสามีของเธอก็จะนับเป็นปกติอยู่แล้ว ถ้าว่างเมื่อเอากระเป๋าทุกอย่างไปเข้าเครื่องสแกน ก่อนพวกเขาจะขึ้นมานั่งรอที่เครื่อง สามีของเธอก็ได้เอากระเป๋าตังค์มานับเงินอีกรอบ ก่อนจะบอกว่าเงินในกระเป๋าของเราหายไป 4 ใบ พอได้ยินแค่นี้ก็ได้ลงไปที่จุดสแกนอีกรอบ ซึ่งตอนนั้นกำลังชุลมุนมีคนเข้ามาต่อแถวยาวเยอะมาก เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการค้นและตรวจกระเป๋าตามปกติ สามีของเธอพาย้ายไปอีกโต๊ะซึ่งมีความห่างจากเครื่องสแกน พื้นที่นั้นอยู่ข้างประตูและมุมของมันค่อนข้างอับ มีการเปิดพร้อมกัน 2 ใบสลับไปมาซึ่งเธอเองก็ไม่ทันได้สังเกตเพราะกำลังเก็บของ สามีเล่าว่าเหมือนเจ้าหน้าที่มาทำอะไรที่แขนของเขา ก็ไม่ได้คิดอะไร หรืออาจจะคันแขนแต่ในขณะเดียวกันก็กลัวว่าเจ้าที่จะยัดของ อย่างไรก็ตามทั้งเธอและสามีก็รีบเดินไปที่จุดเครื่องสแกน เพื่อบอกกับเจ้าหน้าที่ทันทีว่าเงินของพวกเธอหาย ทำให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งยกมือถือโทรไปหาบอสใหญ่ เจ้าหน้าที่ก็มากันเป็นทีมใหญ่ ก่อนจะถามว่าใครเป็นคนเช็คของ เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าใครคนไหนแต่รู้ว่าเป็นผู้หญิงใส่แว่นและใส่แจ็คเก็ต ซึ่งเธอก็บอกว่าสามีของเธอถูกย้ายไปเช็คตรงนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดถุงเงินดู แล้วเธอก็บอกว่าเงินมันหายไปแล้วก็อยากจะขอเช็คจากกล้องวงจรปิดหน่อย

ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมากกว่า 10 คนมายืนล้อมเธอกับสามีเอาไว้ ก่อนจะให้เอากระเป๋าไปเข้าเครื่องสแกนอีกรอบ ซึ่งสามีของเธอก็บอกว่าไม่สแกนอีกแล้ว ไม่เปิดกระเป๋าอีกแล้ว ไม่ต้องเปิดกระเป๋าให้สแกนเอาไปทั้งใบ ทำให้เวลานั้นเจ้าหน้าที่ก็ยืนคุยกัน น่าสแกนเสร็จอีกรอบก็ให้เราเช็คดูตรงนี้อีกทีปรากฏว่าเงินกลับมาอยู่ครบ

ตอนแรกหญิงสาวคิดว่าสามีของเธอคงนับเงินผิด และเอาเงินไปเก็บไว้กระเป๋าอีกใบ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกว่าเจ้าที่ทั้งหมดรู้เห็นเป็นใจกัน เพราะครั้งที่เธอขอดูกล้องวงจรปิดต่างก็พูดบ่ายเบี่ยง ไม่กระตือรือร้นแถมยังพูดคุยกันเป็นภาษาฟิลิปปินส์ต่อหน้า เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้เธอรู้สึกกลัวมาก ตอนแรกกะจะไปหาเรื่องแต่สามีเธอบอกว่าแค่ได้คืนก็พอแล้วให้มันจบไป ถ้าตัวยังบอกอีกว่าเงิน 40,000 เยน มันเป็นเงินสดที่เธอแลกเก็บติดตัวมาเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วเธอจะใช้บัตร travel