ว่าที่เจ้าบ่าว “เท” งานหมั้น วางเงินค่าสินสอดไม่ครบ ว่าที่เจ้าสาวร่ำไห้อุตส่าห์ลาออกจากงานไปอยู่รับใช้ครอบครัวสามี

ว่าที่ เจ้าบ่าวเทงานหมั้น วางเงินค่าสินสอดไม่ครบตกลงกันเอาไว้อย่างดี 10,00 แต่ให้แค่ 2,000 แล้วหนีหาย ว่าที่เจ้าสาวร่ำไห้อุตส่าห์ลาออกจากงานไปอยู่รับใช้ครอบครัวสามี พร้อมพร้อมตัดพ้อเสียตัวไม่พอแล้วยังเสียหน้าอีก ข่าวเด่นออนไลน์ซึ่งว่าครอยครัวของว่าที่เจ้าสาวนั้นก็บอกว่าเสียหน้าหนักมากและว่าที่เจ้าบ่าวต้องกลับมารับผิดชอบ

เจ้าบ่าวเทงานหมั้น วางมัดจำ 2,000 แล้วหนีหาย เจ้าสาวเก้อเสียใจร้องไห้ พร้อมตัดพ้อเสียตัวไม่พอแล้วยังเสียหน้าอีก

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2022 ที่ผ่านมา ได้มีหญิงสาวรายหนึ่งเดินทางเข้ามาขอความช่วยเหลือจากสื่อข่าว หญิงสาวคนนดังกล่าวใช้ชื่อสมมติว่า “นิ้ง” โดยหญิงสาวคนนี่เธอบอกว่าเธอโดนชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อสมมติว่า “โหน่ง” ชายหนุ่มที่อยู่คนหมู่บ้านนั้นบอกว่าจะมาขอหมั้นเธอ แต่แล้วก็หนีหายไม่มา พร้อมกับเอาสัญญาที่ทั้งสองคนได้เขียนเอาไว้ว่าจะมาสู่ขอหมั้นหมายว่าทั้งสองคนนั้นจะทำการแต่งงานนกัน” โดยมีพยานลงชื่อเอาไว้เรียบร้อยเป็นหลักฐาน 6 คน โดยว่าที่เจ้าสาวนั้นบอกว่าเธอได้พบเจอกับว่าที่เจ้าบ่าวเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2022 ที่ผ่านมา รู้จักกันเพราะว่ามีเพื่อนเป็นคนแนะนำมาให้ตอนที่ไปดื่มเหล้า และในตอนนั้นเธอเองก็เพิ่งจะอกหักก่อนที่จะไปต่อกันแล้วมีอะไรกัน ยอมรับว่าเคยมีอะไรกันแล้วกับว่าที่เจ้าบ่าว

ซึ่งเราทั้งสองคนนั้นได้พูดคุยกันแล้วและว่าที่เจ้าบ่าวนั้นก็เป็นคนพูดออกมาเองวาส เขานั้นจะให้ครอบครัวของเขามาสู่ขอเธอทันที พร้อมกับบอกว่าให้เธอนั้นไปลาออกจากงานสะ แล้วกลับไปอยู่ที่บ้านกับเขาไปช่วยงานที่บ้านของเขาแทน เธอเลยรีบไปลาออกจากงานที่ทำอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งทันที เพื่อที่จะเดินทางย้ายไปอยู่กับว่าที่เจ้าบ่าวเลย เพื่อไปทำงานบ้านที่แม่บ้านทุกคนทำ เช่น ล้างถ้วย ซักผ้า กวดบ้าน ทำแบบที่ผู้หญิงทำเป็นแม่ศรีเรือนและว่าที่ลูกสะใภ้ที่ดี

จากนั้นครอบครัวของเธแก็บอกว่า อยู่ด้วยกันแล้วก็มาสู่ขอแต่งงานตามประเพณีจะดีกว่า และเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2022 ที่ผ่านมาผู้ใหญ่จากสองครอบครัวนั้นก็ได้เดินทางมาพูดคุยกัน โดยตกลงกันว่าจะจัดงานแต่งงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ส่วนเงินค่าแต่งงานที่ตกลงกันเอาไว้ก็คือจำนวน “50,000 บาท” และมีสินสอดอย่างอื่นร่วมด้วยคือสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ในวันนั้นตกลงกันอย่างดิบดีมีการเขียนสัญญาดิบดีทั้งสองฝ่ายตกลงกันเอาไว้ว่าจะวางมัดจำเงินหมั้นหมายเอาไว้ก่อนจำนวนหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าว่าครอบครัวของว่าที่เจ้าบ่าวนั้นกลับวางเงินให้แค่ 2,000 บาท จนทำให้พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ก่อนที่จะแยกย้ายกันกับบ้านไปคนละทาง

ว่าที่เจ้าสาวบอกว่าเธอนั้นเสียใจเป็นอย่างมากที่ครอบครัวของว่าที่สามีในอนาคตของเธอทำแบบบนี้ ปล่อยเธอทิ้งเอาไว้ให้เป็นหมายขันหมาก เพราะเธอนั้นวาดฝันเอาไว้ว่าถ้าแต่งงานกันแล้วเธอจะเก็บเงินแล้วเดินทางไปเมืองนอก เธอหวังว่าจะอยู่กินกับผู้ชายคนนี้ตลอดไป ตอนนี้อยากให้ว่าที่เจ้าบ่าวนั้นกลับมา พร้อมจะแต่งงานด้วยเหมือนเดิม รู้ว่าว่าที่เจ้าบ่าวนั้นถูกครอบครัวบีบบังคับจนต้องหนีไป ส่วนครอบครัวของนางสาวนิ้งนั้นบอกว่าตอนแรกดีใจมากที่ลูกของพวกเขานั้นจะได้มีครอบครัว  เพราะเคยแต่งงานแล้วก็อยู่ได้ไม่นานต้องเลิกรากันไป แล้ววันที่มาตกลงกันนั้นก็มีพยาน วันนั้นตกลงกันว่าจะวางเงินจำนวน 10,000 บาท แต่ฝั่งนั้นเอาให้แค่ 2,000 บาท มันเหมือนเหยียดหยามกันเกินไป หลังจากนั้นครอบครัวของผู้ชายก็ไล่ลูกหนีไปไม่ให้ติดต่อมารับผิดชอบลูกสาว ครอบครัวอายมากเสียใจมาก อยากให้ติดต่อกลับมารับผิดชอบบ้าง