มมส ไม่ทน: เดินหน้าเอาผิดเพจ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ออกแถลงการณ์พร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด หลังมีเพจบนโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนข่าวเด่นออนไลน์ กล่าวอ้างว่ามีนิสิตติดเชื้อ HIV พร้อมแนบภาพและข้อความที่ส่อให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างรุนแรง สร้างความตื่นตระหนกให้กับนิสิต ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป จนเกิดเป็นกระแส “ข่าวปลอมมหาลัย” ที่ถูกพูดถึงอย่างหนักในช่วงสัปดาห์นี้
คำชี้แจงจาก มมส: “ไม่เป็นความจริง เดินหน้าเอาผิดเพจ และส่งผลกระทบต่อจิตใจนิสิตโดยตรง”
หลังข่าวไวรัลดังกล่าวถูกเผยแพร่ไม่กี่ชั่วโมง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ออกประกาศผ่านเพจทางการของมหาวิทยาลัย โดยยืนยันว่า ไม่มีนิสิตติดเชื้อ HIV ตามที่มีเพจหนึ่งโพสต์ พร้อมระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการบิดเบือนข้อมูลอย่างร้ายแรง และมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการ แจ้งความดำเนินคดีอาญา กับผู้ดูแลเพจต้นเรื่องทันทีในข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์
เพจดังเงียบ! แต่โลกโซเชียลไม่เงียบ – คนแห่แชร์โพสต์เตือนภัย
แม้เพจต้นเรื่องจะลบโพสต์ไปแล้ว แต่ โลกโซเชียลยังคงร้อนแรง โดยผู้ใช้งานจำนวนมากแชร์โพสต์จากมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นการ “ล้างข่าวเท็จ” พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเอาจริงกับการปล่อยข่าวปลอมเกี่ยวกับ สุขภาพนักศึกษา และสวัสดิภาพของนิสิตในสถาบันการศึกษา เพราะมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อบุคคลจำนวนมาก
หลายคอมเมนต์กล่าวว่า “เล่นกับชีวิตคนมากเกินไป”, “การใส่ร้ายในเรื่องสุขภาพส่วนบุคคลแบบนี้ควรถูกฟ้องให้ถึงที่สุด” ขณะที่บางส่วนขอให้สังคมรู้จักตรวจสอบแหล่งข่าวก่อนแชร์ โดยย้ำว่า “อย่าให้การกดแชร์ ทำลายใครทั้งชีวิต”
นักกฎหมายชี้เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมฯ เจอทั้งโทษปรับ-จำคุก
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายไซเบอร์ข่าวเด่นประจำวันให้ความเห็นว่า กรณีเพจนำข้อมูลเท็จมากล่าวหาบุคคลหรือนิติบุคคล หากทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเสียหาย มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14(1) ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท
กรณีของ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ถูกกล่าวหาเรื่อง “นิสิตติดเชื้อ HIV” โดยไม่มีมูล อาจเข้าข่าย หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ร่วมด้วย เพราะส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กรและละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างชัดเจน
มหาวิทยาลัยประกาศเดินหน้าฟ้อง – ปกป้องศักดิ์ศรีนิสิตและสถาบัน
แหล่งข่าวภายในเผยว่า ทางผู้บริหารของ มมส มีมติเอกฉันท์ให้ ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และแสดงจุดยืนว่ามหาวิทยาลัยจะไม่ยอมให้เกิดการบิดเบือนข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อทั้งนิสิตและชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในภาพรวม
นอกจากนี้ยังจะมีการ ประสานงานกับกระทรวงดิจิทัลฯ และสำนักงานตำรวจไซเบอร์ เพื่อสืบสวนและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมกับเปิดช่องทางให้บุคคลทั่วไปสามารถแจ้งเบาะแสข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับสถาบันได้โดยตรง
สรุป: ข่าวปลอมอาจแค่คลิกเดียว…แต่ผลกระทบจริงอาจทำลายชีวิต
กรณี “ข่าวปลอมนิสิตติด HIV มมส” ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึง อันตรายของการแชร์ข้อมูลเท็จในยุคดิจิทัล แม้จะมีความตั้งใจแค่หยอกเล่นหรือหาไลก์ ข่าวเด่นแต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกลับกระทบต่อชื่อเสียง ศักดิ์ศรี และความรู้สึกของผู้คนจำนวนมาก
ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ในการใช้โซเชียลอย่างมีสติ พร้อมเป็นกำลังใจให้ นิสิต มมส ทุกคนที่ได้รับผลกระทบ และสนับสนุนการใช้สิทธิ์ทางกฎหมายของมหาวิทยาลัยเพื่อสร้างบรรทัดฐานในการรับมือกับ ข่าวปลอมในรั้วมหาวิทยาลัย
สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์ | Gclub | จีคลับ | Sbobet | Sbobet9