บก.ปคม. บุกเข้าจับกุม แม่เล้าร่วมมือหลอกลวง เด็กค้าประเวณี

ข่าววันนี้ เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุด เจ้าหน้าที่บุกจับแม่เล้าร่วมเป็นกระบวนการลวง เด็กค้าประเวณี ตั้งกลุ่มหาลูกค้าทางออนไลน์ มีแอดมินจัดการติดต่อและส่งต่อข้อมูล ให้ลูกค้าต่อรองราคา

เด็กค้าประเวณี วัยเพียง 16 ปี ถูกหลอกจากสองแม่เล้า สารภาพผิด อ้างต้องทำเพื่อหาเงินใช้หนี้ หาเงินจ่าค่าแชร์ ทำแบบนี้มาร่วม 2 ปีแล้ว 2,000 บาท/ครั้ง

วิกฤติเศรษฐกิจรุนแรงจนคนไม่แยกแยะผิดถูก ล่าสุด บก.ปคม. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงบุกจับสาวใช้กลลวง เด็กค้าประเวณี โดยแม่เล้า 2 ราย ได้แก่ นางสาวน้ำฝน วัย 41 ปี และ นางสาวรุ่งนภา วัย 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับจากศาลอาญา 701-702/2565 วันที่ 11 เมษายน 2565

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับ 2 แม่เล้า ร่วมมือสบรู้ร่วมคิดทำความผิดเรื่อง “ค้าประเวณี” หรือ ค้ามนุษย์ โดยลวงเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับ นางสาวน้ำฝนได้ที่บริเวณหน้าร้านอาหารปลาเผา ซึ่งตั้งอยู่บนถนนตรอกยายชา ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ส่วนทางด้าน นางสาวรุ่งนภา ผู้ต้องหาอีกคนเจ้าหน้าที่จับได้ขณะที่มาจอดรถที่ลานจอดรถของตลาดของไนท์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ในตำบลบางพลี อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้สืบพบก่อนหน้าว่ามีการลอบค้าประเวณีในกลุ่มของเด็กหญิงเพียง 16 ปี โดยเหยื่อถูกแม่เล้าหลอกล้อลวงมาขายบริการผ่านช่องทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่ปลอบตัวเพื่อล้อซื้อบริการ และสามารถเข้าไปช่วยเหลือเด็กหญิง 16 ปีเอาไว้ได้ งานผิดศีลธรรมนี้แม่เล้านร่วมทำเป็นกลุ่มแก๊งขบววนการ

นางสาวรุ่งนภา ได้ทำหน้าที่เป็นแอดมินของกลุ่ม และยังเป็นคนที่ติดต่อจัดหาลูกค้า ร่วมไปถึงเจรจาตกลงเรื่องราคาการให้บริการ โดยแต่ละครั้งบริการทางเพศเด็กหญิง ราคาตกที่ 2,000 บาท/ครั้ง ต่อมาหลังจากตกลงราคาได้แล้ว หน้าที่ต่อไปเป็นของ นางสาวน้ำฝน คือ เป็นคนนำเด็กหญิงไปส่งให้ลูกค้าเพื่อบริการ 2 แม่เล้า จะหักเขาค่านายหน้าจำนวน 500 บาท/ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมเก็บหลักฐานได้ทั้งหมดแล้ว เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจับกุม

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้ต้องหา แม่เล้าให้การรับสารภาพผิด เล่าว่าจะค่อยหาเด็กหญิงลวงให้มาอยู่ภายในสังกัด ก่อนจะส่งไปขายบริการกับลูกค้าที่สนใจและติดต่อทางออนไลน์ กระบวนการทั้งหมดนี้ดำเนินการมานาน 2 ปี ทั้งหมดที่ทำไปก็เพื่อหาเงินเอามาใช้หนี้ใช้สินที่ยืมกู้นอกระบบมา และเงินที่ได้จากค่านายหน้าก็นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วย เจ้าหน้าที่ได้นำตัวสองผู้ต้องหาไปสอบสวนต่ออย่างละเอียดอีกครั้งตามขั้นตอนทางกฎหมาย