สลด! เด็กชาย 12 ขวบ ต้องตายอย่างทรมาน เพราะคำว่า “อดทน”

ข่าวเด่นออนไลน์ (23 ธ.ค. 64) มีการรายงานการเสียชีวิต เด็กชาย 12 ขวบ ภายหลังเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพราะอาการปวดท้องอย่างรุนแรง แต่เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้บอกให้นั่งรอและอดทนไว้

เด็กชาย 12 ขวบ ปวดท้องอย่างรุนแรง ไปหาหมอแต่ถูกบอกให้ “อดทน” ไลน์หาพ่อก่อนไส้ติ่งแตกเสียชีวิต

กรณี เด็กชาย 12 ขวบ เสียชีวิตเพราะไส้ติ่งแตก เนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบอกให้เขาอดทนจนเขาปวดท้องมากขณะนั้นไส้ติ่งในท้องก็เกิดแตก ทว่าเมื่อหมอได้มาเจาะเลือดของเขาไปตรวจก็พบว่าเขามีการติดเชื้อแล้วคิดเป็นร้อยละ 72% และหมอก็แจ้งต่อว่าไม่รู้ว่าอาการติเชื้อเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร

นายชัยเดช วัย 41 ปี ผู้เป็นพ่อ และ นางสาวกุสุมา วัย 33 ปี ผู้เป็นแม่ของ เด็กชาย 12 ขวบ ทั้งสองได้ออกมาร้องทุกข์ของความยุติธรรมให้กับลูกชาย พร้อมได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. ลูกชายของตนได้มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ก่อนที่จะพาไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการปวด

เวลาผ่านไปได้สักพักลูกชายได้แชทมาหาผู้เป็นพ่อ ปวดท้องมากจนจะทนไม่ไหวแล้ว ผู้เป็นพ่อเลยบอกให้ลูกชายบอกอาการกับหมอ แต่ลูกชายก็ได้ตอบกลับพ่อไปว่าตนได้บอกหมอไปแล้ว แต่หมอบอกให้อดทนไว้ก่อน เวลาผ่านมาวันที่ 22 ธันวาคม ในช่วงเที่ยงวัน ลูกชายที่มีอาการปวดท้องก็ได้ช็อกแล้วหัวใจเขาก็หยุดเต้นทันทีและชีพจรลดต่ำลงเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่พยาบาลได้รีบเข้ามาช่วยกันปั๊มหัวใจร่วม 2 ครั้ง ประมาณ 30 นาที สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยเหลือชีวิตเด็กชายเอาไว้ได้

ในส่วนของสาเหตุการเสียชีวิตแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งนี้ ได้เขียนระบุว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะมีการติดเชื้อภายในกระแสเลือด แต่ทางครอบครัวและญาติก็ไม่สามารถที่จะเชื้อตามที่หมอระบุได้ เพราะไม่เคยคิดว่าเป็นไปได้เหรอที่เด็กชายวัย 12 ต้องมาตายเนื่องจากปวดท้อง จากนั้นทางครอบครัวได้นำศพลูกชายส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจจนได้รู้ว่า ลูกชายเสียชีวิตเพราะไส้ติ่งแตกในช่องท้องอันเป็นสาเหตุทำให้ลูกชายมีการติดเชื้อ แต่ทำไม่โรงพยาบาลแห่งนั้นถึงระบุแบบนั้นและไม่แสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้เลยและปฏิเสธการติดต่อ

ครอบครัวของเด็กชายได้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่สูญเสียลูกชาย ไม่คิดว่าลูกชายเพียงคนเดียวจะจากไปแบบนี้ โรงพยาบาลมีการวินิจฉัยที่ผิดพลาด ลูกปวดท้องหนักแต่หมอบอกให้ “อดทนเอา” สุดท้ายลูกตายเพราะไส้ติ่งแตก แต่ทางโรงพยาบาลยังไม่คิดจะรับผิดชอบและยังระบุสาเหตุการตายของลูกไม่ครบหรือเพื่อปัดความรับผิดชอบกันแน่ ผู้เป็นพ่อกล่าวด้วยควาอดสูต้องพยายามจัดพิธีงานศพลูกผ่านไปได้ก่อนแล้วค่อยหาทางเอาผิดต่อโรงพยาบาล และยังได้เผยว่าหลังจากลูกตายโรงพยาบาลดังกล่าวไม่ได้มีการติดต่อมาแต่ส่งแค่พวงหรีดมาร่วมงานเท่านั้น