เด็กหญิง 13 ปี มีอาการประหลาดไม่หาย อาการอ่อนเพลีย เรียกนานเป็นชั่วโมงกว่าจะรู้สติ แม่ใจร้อนห่วงลูกสาว เชื่อผีมากระชากวิญญาณ พาลูกไปหาหมอผีอีกครั้ง

ข่าววันนี้สำหรับเรื่องราวสุดลี้ลับ เด็กหญิง 13 ปี มีอาการประหลาดไม่หาย แม่เชื่อว่าลูกสาวถูกผีมากวนและกระชากวิญญาณไม่เลิก เนื่องจากลูกสาวมีอาการอ่อนเพลีย ไม่รู้สึกตัว ในแต่ละครั้งที่ลูกสาวมีอาการแบบนี้ แม่และพี่ชายจะช่วยกันปุกลูกสาวและใช้เวลานานเป็นชั่วโมงกว่าเด็กหญิงจะรู้สึกตัว

เด็กหญิง 13 ปี มีอาการประหลาดไม่หาย แม่เชื่อผียังมากระชากวิญญาณลูกอีกครั้ง ล่าสุดลูกมีอาการปวดอวัยวะภายในอย่างรุนแรง ตัดสินใจพาลูกไปหาหมอผีเพื่อรักษา

จากการรายงาน เด็กหญิง 13 ปี มีอาการประหลาดไม่หาย มีอาการประหลาดยากที่จะอธิบาย แม่เชื่อว่าลูกสาวถูกผีกระชากวิญญาณออกจากร่าง แม่เผยแต่ละครั้งที่ลูกสาวมีอาการประหลาด แม่และพี่ชายต้องปลุก เรียกชื่อ เขย่าตัวบ้าง ใช้ทุกวิธีเพื่อให้ลูกตื่นฟื้นขึ้นมาและในแต่ละครั้งที่มีอาการแบบนี้ต้องใช้เวลาในการปลุกเป็นชั่วโมง แม่เชื่อที่ลูกสาวเป็นอาการแบบนี้บ่อยเพราะถูกผีมากระชากวิญญาณ ทั้งนี้ได้บอกอีกว่าลูกเป็นมา 10 ครั้งแล้ว ในระยะ 4 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งแต่ก่อนก็ไม่เคยมีอาการแม่ได้ร้องไปยังหมอปลาให้เข้ามาช่วยเหลือรวมถึงอาจารย์ที่มีวิชาอาคมเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับ เพื่อมาช่วยรักษาอาการของลูกสาวที่เป็นอยู่ให้หาย อาการของเด็กหญิงได้กลายเป็นข่าวดังไปแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน

สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 64 ที่ผ่านมานี้ แม่ของเด็กหญิงได้ออกมาเผยอีกครั้งว่าลูกสาวได้มีอาการประหลาดกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง และเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ลูกสาววัย 13 ปี ได้รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างมาทำให้อวัยวะภายในร่างกาย เกิดการกระตุกอย่างรุนแรง พร้อมกันนั้นก็มีอาการปวดในช่องท้อง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมานี้ลูกสาวบอกมารู้สึก เหมือนที่เล็บมือจากสิ่งที่มองไม่เห็นมาทิ่มบริเวณดวงตาทั้งสองข้าง ลูกสาวเจ็บปวดดวงตาทั้งสองมาก ผู้เป็นแม่เลยนำน้ำมนต์มาให้ลูกสาวได้ดื่มกิน และรีบนำลูกสาวเดินทางไปหาพระที่อยู่แถวหมู่บ้านให้ช่วยทำพิธี และอาการเด็กหญิงก็ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผู้เป็นแม่ก็ยังเชื่อว่าสิ่งที่มองไม่เก็นยังมาแฝงตัวอยู่กับลูกสาวไม่ได้หายไปไหน

นางจำปี วัย 38 ปี แม่ของเด็กหญิงวัย 13 ปี ได้ตัดสินใจนำลูกเดินทางไปรักาที่สำนักของอาจารย์อ๊อด หรือ นายอำนาจ โพธิ์นอก วัย 44 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่ 1 บ้านเลขที่ 274 บ้านพุเตย ต.พุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เพราะตนหวังไปพึ่งพาบารมีปู่ใหญ่พ่อแก่ ให้ช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีให้ออกไปจากครอบครัวของตน

เมื่อแม่ของเด็กหญิงเดินทางไปถึงบ้านอาจารย์อ๊อด อาจารย์ก็ได้เริ่มำพิธีด้วยการนำ นางจำปี ลูกสาว และลูกชาย ทำพิธีบูชาครู พร้อมยังให้มีการถอดเครื่องรางต่างๆที่คอคล้อง อาจารย์ได้มการตัดด้ายสายสิญจน์ บ่วงที่ใช้คล้องคอ ที่คล้องแขนทั้งสองข้างของ 3 แม่ลูก และได้ทำการพรมน้ำรพระพุทธมนต์ และได้ทำพิธีตัดเวรตัดกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันสิ่งไม่ดีหรือสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น พอทำพิธีทุกอย่างเสร็จสิ้นลง สีหน้าท่าทางอาการต่างๆของ 3 แม่ลูกก็มีอาการดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และมีอาการผ่อนคลายพร้อมดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

นางจำปี ยังได้เล่าอีกว่า แม้ตนจะพาครอบครัวทำพิธีทุกอย่างไปหมดแล้ว ทุกอย่างดีขึ้นได้สักพักและสิ่งลี้ลับก็กลับมาเกิดขึ้นใหม่อยู่เรื่อยๆ ล่าสุดคนรู้จักก็ได้มาแนะนำเรื่องราวของอาจารย์อ๊อดให้ตนได้รู้จัก ตนจึงได้เดินทางเพื่อมาหวังพึ่งบารมีอาจารย์อ๊อด พออาจารย์อ๊อดทำพิธีเสร็จตนและลูกๆก็รู้สึกดีขึ้นมาก ร่าเริงแจ่มใส แต่ตนก็ยังไม่วางใจต้องรอให้กลับไปอยู่บ้านว่าจะมีอาการประหลาดเกิดขึ้นอีกไหม

ทางด้านอาจารย์อ๊อด วัย 44 ปี ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ครอบครัวของ 3 แม่ลูกได้ถูกผีมาดึงเอาวิญญาณ จึงได้เดินทางมาหาเพื่อหวังพึ่งบารมี หลังจากนั้นก็ได้ทำพิธีกรรมตัดเวรตัดกรรม โดยการตัดเส้นด้ายสายสิญจน์ ที่ใช้ผูกคอและผูกแขน รวมถึงของขลัง ทั้งตะกรุด ให้เอาออกมาจากตัวให้หมดก่อนจะทำพิธีป้องกันตัวให้ อาจารย์อ๊อดได้อธิบายว่า ให้ 3 แม่ลูกเคารพถึงคุณบิดา มารดา และครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องเคารพที่สุดคือ “พระพุทธเจ้า” และยึดถือเคารพใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถ้าปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนาได้ก็จะไม่มีอะไรที่มาทำร้ายได้ แม้แต่สิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น และเมื่อตนได้ทำพิธีทั้งหมดเสร็จสิ้นครบทุกอย่างแล้ว ก็สังเกตเห็นอาการของ 3 แม่ลูกดีขึ้น ร่าเริงแจ่มใส เล่นกันสนุกสนาน ได้อบรมสั่งสอน อะไรที่ควรทำก็ทำ อะไรที่ไม่ควรทำก็อย่างทำ ส่วนของที่ 3 แม่ลูกบูชาอยู่นั้นก้ได้แนะนำให้เขาว่า สิ่งที่เราควรบูชาให้มากๆคือ คุณบิดามารดา ก่อนที่ทั้งสามจะเดินทางกลับไปที่บ้าน อาการก็คงจะดีขึ้นตามลำดับ