ตรวจพบ 1 ใน 3 ถูกหามส่งโรงพยาบาล เพราะเมากัญชา คือ เด็กเสพกัญชา อายุเพียง 16 ปี เท่านั้น!

ข่าววันนี้ รายงานความคืบหน้า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร “ชัชชาติ” กลับมาทำงานตามปกติ แจ้ง! เด็กเสพกัญชา วัย 16 ปี พบว่าถูกหามส่งโรงพยาบาลพร้อมกับคนเมากัญชา หลังจากมีการปลดล็อกให้ถูกกฎหมาย คนเสพและกินเสรีแม้ถูกกฎหมายและต้องดูแล

“ชัชชาติ” เปิดเป้าโครงการใหม่ “โรงเรียนปลอดกัญชา”  9 มิ.ย. 65  ปลดล็อกกัญชาเสรี ตรวจพบ! เด็กเสพกัญชา เมากัญชาจาก 3 ราย ถูกหามส่งโรงพยาบาล

ล่าสุดวันนี้ที่ 14 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานการกลับมาทำหน้าที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ เปิดเผยว่า เด็กเสพกัญชา เมากัญชาถูกหามส่งโรงพยาบาล แจ้งต่อที่ประชุมคณะบริการกรุงเทพฯ No.8/2565 นับว่าเป็นการประชุมครั้งแรก หลังจากกลับมาจากงานรับปริญญาลูกชายที่อเมริกา ลูกชายอยากให้ไปร่วมงานจนต้องลาราชการไป 4 วัน “น้องแสนดี” หรือ นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ จบการศึกษาระดับปริญญาด้านประวัติศาสตร์ ณ เมือซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา

“ชัชชาติ” ได้กล่าวว่า สำหรับประเด็นการปลดล็อกกัญชาเสรี ความจริงนับว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมาก และมีความกังวลกับเรื่องนี้มาก ทั้งนี้ 3 หน่วยงานของกรุงเทพที่ค่อยดูแลในเรื่องนี้ได้แก่ 1.สน.แพทย์ 2.สน.อนามัย 3.สน.การศึกษา และหน่วยงานจะค่อยเฝ้าดูยอดผู้ป่วยที่เข้ามารักษามากกว่า 4 ราย โดยแยกการรักษาดังนี้ กลุ่มแรกรักษาตัวที่โรงพยาบาลตากสิน จำนวน 2 ราย ซึ่งทั้งสองผู้ป่วยอายุ 25 และ 17 ปี อาการเบื้องต้นใจสั่นที่เกิดจากผลการเสพกัญชา

“ชัชชาติ” ได้เปิดเผยต่อว่า ผู้ป่วยเพศชายรายหนึ่งที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ อายุ 51 ปี หลังจากที่ได้เสพกัญชาส่งผลให้การเต้นของหัวใจล้มเหลว และอีกรายที่ถูกหามส่งโรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ผู้ป่วยเป็นเพศชายอายุเพียง 16 ปี 6 เดือน เสพติดกัญชาอย่างหนัก ทำให้ต้องเข้ารักษาตัวในห้องฉุกเฉิน นี่เป้นตัวเลขที่เกิดขึ้นหลังปลดล็อกกัญชา วันที่ 9 มิถุนายน 2565 สน.แพทย์ยันว่านี่เป็นตัวเลขที่ไม่เคยเจอมาก่อน ตอนนี้เร่งเตรียมให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชา

ผู้ว่าฯกรุงเทพ ได้กล่าวเกี่ยวกับการใช้กัญชาในอาหารกรุงเทพมหานครต้องเฝ้าระวังและให้ความรู้แก่นักเรียนมากกว่านี้  และให้ความรู้ครูด้วย ทั้งนี้เจ้าตัวได้วางแผนว่าจะทำให้โงเรียนปลอดจากกัญชา แต่ต้องตรวจและพิจารณาก่อนว่าจะดำเนินการรูปแบบไหน ยกตัวอย่างเช่น ห้ามนำกัญชามาขายในเขตโรงเรียน หรือ หน้าโรงเรียนในเขตพื้นที่ซึ่งกรุงเทพฯปกครอง  เนื่องจากไม่อยากให้เด็กนักเรียนสัมผัสในเรื่องแบบนี้ แม้กฎหมายออกมาแล้วเราต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นกรุงเทพมหานครก็มีหน้าที่ต้องดูแลเด็กนักเรียนด้วยเช่นกัน