นอกชายฝั่งอันดามันมีภูเขาไฟ: เพจดังเตือนอาจปะทุ เกิดสึนามิแรงกว่าครั้งใหญ่ปี 2547

นอกชายฝั่งอันดามันมีภูเขาไฟ: เพจดังเตือนอาจปะทุ เป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจและควรจับตามองอย่างใกล้ชิด เมื่อ เพจวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ได้ออกมาให้ความรู้ต่อเนื่องเกี่ยวกับ ภัยธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ ข่าวเด่นออนไลน์ โดยระบุว่า บริเวณ นอกชายฝั่งทะเลอันดามันของไทยยังคงมีภูเขาไฟใต้ทะเลอีกหลายลูก ที่อาจมีศักยภาพในการปะทุ และหากเกิดขึ้นจริง อาจทำให้เกิด คลื่นยักษ์สึนามิ ที่ รุนแรงยิ่งกว่าครั้งประวัติศาสตร์ในปี 2547

ภูเขาไฟใต้ทะเล: เพจดังเตือนอาจปะทุ ภัยเงียบที่อาจปะทุโดยไม่ทันตั้งตัว

จากข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ระบุว่า ใต้พื้นมหาสมุทรในแถบทะเลอันดามัน โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก มีการค้นพบ ภูเขาไฟที่ยังไม่ดับอย่างน้อย 2-3 ลูก ซึ่งแม้จะยังไม่เกิดการปะทุในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ลักษณะภูมิศาสตร์และธรณีวิทยาของพื้นที่นั้น เอื้อต่อการเกิดแรงสั่นสะเทือนใต้เปลือกโลกอย่างมีนัยยะ“ภูเขาไฟใต้ทะเลสามารถปลดปล่อยพลังงานอย่างมหาศาล โดยเฉพาะถ้ามีแรงสั่นสะเทือนมาจากแนวรอยเลื่อนบริเวณใกล้เคียง” – เพจวิชาการระบุ

ข้อกังวลหลัก คือภูเขาไฟใต้ทะเลเหล่านี้อาจ ไม่แสดงสัญญาณเตือนชัดเจน เหมือนภูเขาไฟบนพื้นดิน ทำให้ การเฝ้าระวังเป็นเรื่องท้าทาย ต่อระบบเตือนภัยของไทยในปัจจุบัน

เสี่ยงสึนามิซ้ำ! อาจแรงกว่าปี 2547 หากภูเขาไฟใต้ทะเลเกิดการระเบิด

ปี 2547 ประเทศไทยเคยเผชิญ ภัยพิบัติสึนามิครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ข่าวเด่น โดยมีต้นเหตุมาจากแผ่นดินไหวขนาด 9.1 แมกนิจูดในน่านน้ำอินโดนีเซีย ซึ่งสร้างผลกระทบต่อประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทยที่มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน “แต่หากจุดกำเนิดของคลื่นยักษ์ครั้งใหม่เกิดจากภูเขาไฟใต้ทะเลที่อยู่ใกล้ชายฝั่งมากกว่า ความรุนแรงและโอกาสรอดจะน้อยลง”

ภูเขาไฟใต้น้ำหากปะทุแบบเฉียบพลัน อาจทำให้พื้นทะเลทรุดตัวและปลดปล่อยแรงดันมหาศาล สร้างคลื่นสึนามิที่เดินทางมาถึงชายฝั่งได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้ ไม่มีเวลาสำหรับการอพยพ หรือส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าได้เหมือนเหตุการณ์ในปี 2547

จุดเฝ้าระวังสำคัญริมฝั่งอันดามันของไทย

พื้นที่เสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังในกรณีเกิด การปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเล ได้แก่:

• จังหวัดพังงา (โดยเฉพาะเขาหลักและตะกั่วป่า)
• จังหวัดภูเก็ต (ชายฝั่งตะวันตกทั้งหมด)
• จังหวัดกระบี่ (อ่าวนาง หาดไร่เลย์)
• จังหวัดระนอง และตรัง (ตามแนวชายฝั่งและเกาะใกล้เคียง)

เพจวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา ต่างย้ำว่า ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่เหล่านี้ควรตระหนักถึงสถานการณ์ และไม่มองว่าภัยพิบัติเหล่านี้เป็นเรื่องไกลตัว

แนะวิธี “เตรียมตัวรับมือ” หากเกิดคลื่นสึนามิแบบฉับพลัน

เพื่อความปลอดภัยในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำแนวทางเบื้องต้นในการเอาตัวรอดและเตรียมความพร้อม ดังนี้:

• รู้จักจุดอพยพในพื้นที่: ตรวจสอบป้ายบอกเส้นทางหนีภัย และพิกัดจุดรวมพลตามชายหาดหรือสถานที่ท่องเที่ยว
• สังเกตสิ่งผิดปกติจากธรรมชาติ: เช่น น้ำทะเลลดระดับอย่างรวดเร็ว สัตว์ชายหาดหนีขึ้นฝั่ง หรือเสียงคลื่นเงียบผิดปกติ
• พกกระเป๋าเตรียมพร้อม (Emergency Bag): เช่น ไฟฉาย น้ำดื่ม ยา โทรศัพท์สำรอง และเอกสารจำเป็น
• ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐ: เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา หรือ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (NDWC)

“หากรู้สึกแผ่นดินไหวแรง หรือเห็นน้ำทะเลลดฮวบลงผิดธรรมชาติ ให้รีบวิ่งขึ้นที่สูงทันที อย่ารอคำสั่งหรือป้ายเตือน”

รัฐเร่งเสริมระบบเฝ้าระวัง-เตือนภัยล่วงหน้า

ทางภาครัฐไทย โดยเฉพาะกรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานด้านภัยพิบัติ ข่าวเด่นประจำวัน ได้ออกมายืนยันว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการปรับปรุง ระบบตรวจจับแรงสั่นสะเทือน และติดตั้งอุปกรณ์วัดแรงดันใต้น้ำในทะเลลึก เพื่อให้สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกและ ความเสี่ยงจากภูเขาไฟใต้ทะเลแบบเรียลไทม์นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และอินเดีย ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการเฝ้าระวังแผ่นดินไหวและภูเขาไฟที่อาจกระทบต่อทะเลอันดามัน

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่