เปิดปมฟาดเดือด เหตุเข้าใจผิด..สื่อสารผิดพลาด กรณี เจ้าของร้านด่า Illslick กวีขี้หมา ไม่ทำตามดีล!

ข่าวล่าสุด เจ้าของร้านที่มีการว่าจ้างแร็พเปอร์ดัง ออกมายอมรับก่อนหน้าด่าเสียหายไม่ยั้ง!! เหตุเข้าใจผิดและสื่อสารผิดพลาดกับทาง Illslick จึงด่าฟาดไปว่า “กวีขี้หมา” เพราะในวันแสดงหลังร้องเสร็ตดีลว่าจะมีการแจกลายเซ็นแต่มีการผิดคิวผิดนัดผิดที่ เกิดเรื่องเข้าใจผิดมากมาย จนกระทั่งได้พูดคุยเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย

กรณี เจ้าของร้านด่า Illslick กวีขี้หมา เอาเงินไปซื้อข้าวแจกหมาจรดีกว่า ออกยอมรับเหตุเข้าใจผิด ดีลแจกลายเซ็นไม่เห็น.. ทีมงานถึงกลับร้องไห้ที่เข้าใจกันได้เสียที!

ปมดราม่าเจ้าของร้านสถานบันเทิงแห่งหนึ่งและมีการว่าจ้างศิลปินนักร้องแร็พเปอร์  “อิลสลิก” เจ้าของร้านได้ออกมาด่าแรงว่าเขาเป็น “กวีขี้หมา” โดยมีการฟาดฟันด่าแบบไม่ยั้ง โดยเริ่มจากที่นักร้องหนุ่มได้มีการโพสต์ผ่าน facebook ส่วนตัวเกี่ยวกับราคาค่าตั๋ว ถูก-แพง แล้วเขาบอกว่าไม่ว่าจะราคาไหนเขาก็รักแฟนคลับเท่ากัน แต่ทางเจ้าของร้านรู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่เขาพูด เพราะทางเจ้าของร้านมองว่าเขาอาจจะขาดทุนกับการที่จ้างนักร้องหนุ่มมาแสดงภายในร้าน เพราะดูเหมือนว่าเขากำลังจะทำตัวเป็นศูนย์กลางของจักรวาลแล้ว และยังมีการเดียวงานที่ผิดพลาด นักร้องหนุ่มไม่ยอมให้จะมาแจกลายเซ็นให้แก่แฟนเพลงลูกค้าที่ซื้อตั๋วเข้ามา เหตุนี้ทำให้เจ้าของร้านโมโหและมีการด่าเขาเสียหายด้วยคำหยาบจำนวนมาก แถมยังบอกอีกว่าถ้าเอาเงินที่จ้างเขาไปซื้อข้าวให้หมาจรกินมันอาจจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตามทางเจ้าของร้านคนเดียวกับที่ออกมาด่าแร็ปเปอร์หนุ่มว่าเป็นกวีขี้หมา… ทั้งสองได้พูดคุยและปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ทราบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะความเข้าใจผิด สลับกรณีที่ทางร้านเข้าใจว่าตัวศิลปินไม่ยอมมาแจกลายเซ็นทั้งที่ตกลงงานกันไว้แล้ว ความจริงคือเขาไม่รู้ว่าแฟนคลับรอเอาลายเซ็นอยู่ที่ไหน เพราะคนที่รับเรื่องมาไม่ได้มาแจ้งและอธิบายงานกับเขาโดยตรง มากไปกว่านั้นการแจกลายเซ็นมันไม่ได้อยู่ในข้อสัญญา ศิลปินเองเต็มใจที่จะทำเพื่อความสุขของแฟนเพลง และตามปกติแล้วเวลาเขาขึ้นแสดงร้านไหนก็จะมีแจกลายเซ็นเกือบทุกครั้ง อย่างไรก็ตามคืนนี้แสดงที่ร้านต้นเรื่องมันมีการสื่อสารที่ผิดพลาดจริงๆ และในวันนั้นทางเจ้าของร้านก็ไม่ได้มาพบตัวศิลปิน ทำให้นักร้องหนุ่มเข้าใจว่าคนอื่นคือเจ้าของร้าน จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาร้านได้ปิดลงเขาก็ไม่เจอใครเลย และเข้าใจไปว่าคงไม่มีคนรอ

ในส่วนของโพสต์ facebook ของอิลสลิก เขาได้ออกมาระบุว่าไม่ว่าราคาตั๋วมันจะถูกหรือแพงมันก็ไม่สามารถที่จะวัดคุณค่าของคนฟังได้ สำหรับคนที่มีเงินจำนวนน้อยและจองตั๋วมานั่งที่ด้านหลัง มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รักในตัวศิลปิน ส่วนคนที่มีเงินเยอะแล้วจองตั๋วมานั่งด้านหน้าสุด มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะรู้จักทุกเพลงของศิลปิน ยังไงก็ตามเงินก็ไม่ได้เป็นตัววัดคุณค่าของมนุษย์ ยังไงก็ตามในการที่แร็ปเปอร์หนมได้ออกมาพูดหรือโพสต์เกี่ยวกับราคาตั๋วทั้งนี้ก็เพื่อที่จะปลอบใจแฟนเพลงบางกลุ่มที่ไม่มีเงินไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย เขาเพียงต้องการจะบอกว่าทุกคนมีความเป็นมนุษย์เท่ากัน เขาไม่ได้คิดว่าน่ามันจะเป็นการต่อว่าทางร้าน เนื่องจากตัวเขาเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปยุ่งเกี่ยวในการกำหนดราคาขายตั๋ว ราคาเปิดโต๊ะนั่งของทางร้าน

อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องทั้งหมดกระจ่างแล้วดราม่ากันด่าทอทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดของเจ้าของร้านกับศิลปิน ถ้าเจ้าของร้านได้มีการติดต่อไปหาทีมงาน แล้วทางศิลปินเองก็ไม่ทราบเรื่องว่ามีแฟนคลับมารออยู่ตรงไหน ยังไงก็ตามทั้งตัวศิลปินและเจ้าของร้านก็มีความรู้จักกันและเคารพนับถือกันในประมาณนึงยังไงเสียก็ไม่ได้มีเจตนาทำให้กันเกิดความเสียหาย แร็ปเปอร์ยังจะมีการแก้ไขเกี่ยวกับการประสานงานที่ไม่รวมตัวที่มีการสื่อสารผ่านโบรกเกอร์แต่ไม่ได้เป็นคนที่มาดูแลที่ร้านด้วยตัวเองจนเป็นที่มาให้เกิดความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดนี้

“ลิลลี่” หนึ่งในทีมงานของแร็ปเปอร์ได้ออกมาโพสต์อีกครั้งว่าเธอได้ร้องไห้ไปแล้ว 1 รอบ แต่มันเป็นการร้องไห้ด้วยความดีใจที่สุดท้ายทั้งสองฝ่ายได้ปรับความเข้าใจกันจนลงตัวทุกเรื่อง เธอบอกว่าเหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ เมื่อต่างยืนกันคนละมุมมันย่อมสร้างความเข้าใจผิดต่อกัน เธอรู้สึกดีใจมากที่ทุกเรื่องมันจบลงด้วยดี ส่วนข่าวที่ออกไปและคนมาตามด่าเรื่องนั้นมันไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความเข้าใจกันของศิลปินกับทางร้าน