แพรรี่ ฟาด ภิกษุณีปลายว่าผ้าเหลืองไม่ได้มีไว้สำหรับเป็นเครื่องหมายทางการค้า ถ้าจะขายของแนะนำให้ออกมา!! หลังเจอดราม่าไลฟ์ “ขายของ” ออนไลน์

ข่าวล่าสุดแพรรี่ฟาดภิกษุณีปลาย ว่าผ้าเหลืองไม่ใช่เครื่องหมายการค้าขายและก็ไม่ได้มีเพื่อทำการค้าขาย และศาสนาก็ไม่ใช่สถานที่สามารถเลี้ยงตัวได้ ถ้าจะขายของแนะนำให้เดินออกมา!! หลังเจอดราม่าไลฟ์ขาย “สบู่น้ำมนต์” ออนไลน์ และอวดอ้างสรรพคุณมากมายที่หลายๆคนนั้นมองว่ามันเกินจริง

แพรรี่ฟาดภิกษุณีปลาย ขายสบู่น้ำมนต์ ชี้ “ศาสนา” ไม่ใช่สถานที่ชุบเลี้ยงตัว แนะนำว่าถ้าจะขายของให้เดินออกมา

“แพรรี่” โพสต์เตือน “ภิกษุณีปลาย” หรือ “หมอพรายกระซิบ” หลังเจอประเด็นร้อนระอุว่า “ขายสบู่น้ำมนต์” พร้อมบอกว่าศาสนาไม่ใช่สถานที่ชุบเลี้ยงตัว และผ้าเหลืองก็ไม่ใช่เครื่องหมายการค้าขายไม่ได้มีเอาไว้ค้าขาย ถ้าหากอยากจะขายของจริงๆของแนะนำให้ออกมา

กลายเป็นประเด็นร้อนระอุขึ้นมาทันทีหลังจากที่ “หมอปลาย พรายกระซิบ” ที่กำลังบวชเป็น “ภิกษุณี” อยู่ได้ถือสบู่พร้อมไลฟ์สดขายของโดยมีการเขียนข้อความอธิบายเอาไว้ว่า “สบู่นี้เหมือนกับได้กับการอาบน้ำมนต์ เพราะมีสรรพคุณมากมาย อาทิ ล้างคุณไสยมนต์ดำได้ สามารถไล่ผีไล่วิญาณที่ไม่ดีได้ แก้ของได้และอื่นๆอีกมากมาย จนมีคนจำนวนมากนั้นเข้ามาถามว่ามันควรหรือไม่อย่างไร พร้อมแนะนำให้ไปสึก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 “แพรรี่” ได้โพสต์ข้อความเขียนเอาไว้ประมาณเธอนั้นขอนุญาติพูดไปถึงเรื่องของภิกษุณีปลาย เพราะมีหลายๆคนนั้นอยากให้เธอออกมาพูดในความคิดเห็นของเธอนั้นเธอคิดว่า ภิกษุณีปลายนั้นคือนักบวชของพุทธศนาแม้ไม่ได้อยู่ในการดูแลของพระสงฆ์ประเทศไทย

ดังนั้นเธอคิดว่าถ้าหากท่านอยากจะทำธุรกิจหรือทำการค้าขายของตามช่องทางต่างๆ โดยอาศัยความเชื่อท่านควรทำอย่างตรงไปตรงมา เธออยากให้ทำในฐานะ “หมอปลาย พลายกระซิบ” หรือจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ในฐานะ “ภิกษุณีปลาย” ที่เป็นนักบวชในพระพุทธศาสนา เธอนั้นเห็นว่าการที่ท่านนั้นตัดสินใจออกบวชก็คือ ท่านนั้นมีศรัทธาต่อพุทธศาสนาอย่างแท้จริง และท่านควรยึดหลักนี้เอาไว้ เพราะศาสนาไม่ได้สถานที่เลี้ยงตัว ผ้าเหลืองไม่ใช่เครื่องหมายค้า หรือนำไปสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้ใดนำไปใช้เป็นอาชีพทำมาหากิน

ตอนนี้ท่านคิดว่าท่านทำถูกหรือทำผิด ทั้งเรื่องขายของทั้งเรื่องทำนายที่อวดอ้างประโยชน์มากมาย เพราะทุกวันนี้มีผู้หญิงจำนวนมากหันไปบวชและปฏิบัติตามกฎ เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่บวชแล้วก็ปฏิบัติได้ดีไม่แพ้กัน และการที่ท่านนั้นเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปมากมายจนได้เป็น “ภิกษุณี” แล้วแต่ดันเอาสิ่งที่ได้รับมามาทำเรื่องที่ไม่สมควรอย่างนี้ คิดว่าเป็นเรื่องและเป็นการกระทำที่น่าเสียดายมากๆ เรียกว่าไม่คุ้มค่าหรือเปล่าประโยชน์ก็ว่าได้ ดังนั้นเธอเลยขออนุญาตแนะนำว่าท่านจะต้องเลือกแล้วลพว่าท่านจะทำอะไร ถ้าท่านอยากจะขายของก็ให้เดินออกมาไม่ควรใช้สถานะ “นักบวช” ไปหาผลประโชน์แต่ถ้าท่านนั้นเลื่อมไสศรัทธาก็ควรปล่อยวางทุกอย่าง อันนี้ขอพูดด้วยความจริงใจในฐานะของน้องสาว คนที่เคยร่วมออกรายการกับท่าน หวังว่าท่านจะรับฟังและไม่โกรธเคือง