ใบสั่งมาได้ไง!? หนุ่มขาหัก ไม่ได้ขับรถมาพักใหญ่ แต่ได้ใบเรียกค่าปรับ

ข่าวล่าสุด หนุ่มใหญ่ขาหักโวยวายสนั่น รันเจ้าหน้าที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียด ใบสั่งมาได้ไง!? ส่งถึงบ้าน เปิดดูก็รู้รถเบนซ์คนละสี เจ้าหน้าที่รีบออกมาแก้ต่าง รถไม่ได้สวมทะเบียนเพียงแค่คีย์ตัวเลขผิดเท่านั้น

ใบสั่งมาได้ไง!? หนุ่มขาหัก ขับรถไม่ได้ เอกสารส่งถึงบ้านเรียกค่าปรับ แถมรถคนละสี!

วันที่ 2 มีนาคม 2566 หนุ่มใหญ่วัย 57 ปี หรือ นายเพจวิทย์ รณรงค์ไพรีดล สภ.เสม็ด จังหวัดชลบุรี ภายหลังจากที่ได้รับ “ใบสั่ง“ ซึ่งเป็นใบสั่งเกี่ยวกับการจับความเร็วของการวิ่งรถบนถนน รายละเอียดในเอกสารระบุว่าเป็น รถเบนซ์ GLC 250 คันสีดำ หมายเลขทะเบียน 6 กผ 5454 กรุงเทพมหานคร วิ่งรถด้วยความเร็วบนถนนทางหลวง 24 กิโลเมตรที่ 174 ตำบลตานี อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์  ความเร็วที่รถวิ่งบนถนนมีความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ว่า 1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งรถยนต์ดังกล่าวได้วิ่งความเร็วอยู่ที่ 111 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทำให้เขาได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด ให้ช่วยดำเนินการประสานตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดกับเจ้าหน้าที่ทางหลวง พร้อมกับให้ตรวจเช็คเลขทะเบียนให้แน่ชัด และขณะเดียวกันก็มาในสภาพที่ตัวเองเกิดอุบัติเหตุขาหัก ซึ่งเหตุผลมันขัดแย้งกันมากเขาได้ออกมากล่าวว่า หลังจากที่ได้รับใบสั่งเขาก็รู้สึกตกใจ ซึ่งใบสั่งนี้เป็นใบสั่งที่มาจากช่วงวันปีใหม่ รถก็คนละสี แถมคนละรุ่นอีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลไม่ละเอียดและออกใบสั่งมาแบบนี้ได้ยังไง

หนุ่มใหญ่รู้สึกไม่พอใจมากเนื่องจากเขาไม่สามารถเดินทางได้มาสักพักแล้วเพราะขาหัก แต่ทุกข์ออกใบสั่งมาแบบนี้ นั่นหมายความว่าเจ้าหน้าที่ทำงานโดยไม่ตรวจสอบข้อมูล ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็กลัวที่จะถูกสวมทะเบียนรถเพื่อเอาไปก่อเหตุในด้านอื่นๆอีกด้วย และตอนนี้รถของเขาออกมาและผ่อนใช้งวดจนหมดสิ้นแล้ว อยากฝากให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถที่ออกใหม่สั่งออกมาโดยละเอียด ถ้าไม่มีความละเอียดในการทำงานก็จะทำให้ประชาชนเดือดร้อนทั้งที่ไม่ได้ทำความผิด

อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นก็ออกมาแจ้งว่าในกรณีนี้ไม่ได้มีการสวมทะเบียนแต่อย่างไร พร้อมกลับด้านมีการประสานงานติดต่อกับเจ้าหน้าที่ทางหลวงเรื่องการออกใบสั่งที่ผิดพลาด ด้วยความเป็นจริงแล้วรถเบนซ์ที่ขับรถด้วยความเร็วนั้นเป็นสีขาว ส่วนหมายเลขทะเบียนก็คือ 8 กผ 5454 กรุงเทพมหานคร ส่วนข้อมูลที่เจ้าหน้าที่คีย์เข้าไปมันผิดเพียงตัวเลข เพราะคีย์ข้อมูลไปผิดคือ 6 กผ 5454 กรุงเทพมหานคร รถเบนซ์คันสีดำซึ่งเป็นของผู้เสียหาย

และในกรณีนี้เจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวงก็ได้มีการยกเลิกใบสั่งเป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามผู้เสียหายก็ยังคงลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานเช่นเดียวกัน พร้อมกับให้การยืนยันว่าไม่รู้จักและไม่เกี่ยวข้องกับรถยนต์คันที่เกิดเหตุขับรถเร็วบนถนนทางหลวง