เกิดเหตุระทึกขวัญกลางดึก ไฟไหม้ยอดตึกก่อสร้าง “เอสโอเอซิส” 37 ชั้น ซอยวิภาวดี 9 เปลวไฟแดงทั่วยอดตึก สะเก็ดไปตกลงมากระจายทั่วบริเวณด้านล่าง

รายงานข่าวล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. กลางดึกวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา เกิดเหตุระทึก ไฟไหม้ยอดตึกก่อสร้าง “เอสโอเอซิส” 37 ชั้น ซอยวิภาวดี 9 เปลวไฟลุกไหม้ชั้นที่ 36-37 เป็นเหตุให้มีสะเก็ดไฟตกไปท้องถนนและบริเวณโดยรอบตึกด้วย

ไฟไหม้ยอดตึกก่อสร้าง “เอสโอเอซิส” 37 ชั้น ซอยวิภาวดี 9 รถที่สัญจรผ่านไปมาในขณะนั้นไม่พ้นโดนสะเก็ดไฟตกลงมาใส่

เกิดเหตุเพลิงไหม้กลางดึก ไฟไหม้ยอดตึกก่อสร้าง “เอสโอเอซิส” 37 ชั้น โดยชั้นที่เริ่มเกิดเพลิงไหม้นั้นเกิดที่ชั้น 36 จนลามไปถึงชั้นที่ 37 ซึ่งมีความสูงกว่าปกติต่างจากเหตุการณ์ไหม้โรงงานหรือบ้านเรือนเพียงชั้นสองชั้น แม้จะระดมรถดับเพลิงไปที่จุดเกิดเหตุก็ไม่สามารถดำเนินการฉีดน้ำดับได้เลย เพราะฉะนั้นจะต้องมีการใช้เทคโนโลยีที่ดีและสามารถใช้ดับไฟที่ปลายตึกสูงได้

ทั้งนี้ประเทศไทยเรามีรถดับเพลิงที่ดีที่สุดเพียง 4 คันที่จะสามารถดับเพลิงไฟในตึกสูงครั้งนี้ได้ นั้นก็คือ รถกระเชาดับเพลิง และยังนับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ดที่สุดในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำรถจากเขตคลองเตยมาแล้วเพื่อปฏิบัติหน้าที่ แต่กระเชาดับเพลิงที่ว่านั้นสามารถขึ้นไปได้ถึงเพียงชั้นที่ 30 ของอาคารที่มีถึง 37 ชั้น จึงสร้างความยากลำบากให้เจ้าหน้านักดับเพลิงเป็นอย่างมาก เพราะตึกดังกล่าวที่เกิดเพลิงไหม้เกิดในจุดของชั้น 36 และ ชั้นที่ 37

เจ้าหน้าที่เล่าว่าการดับเพลิงไหม้ในครั้งนี้เป็นงานยากเลยทีเดียว เพราะปกติเหตุจะเกิดขึ้นที่ชั้นสองหรือชั้นสามเพียงเท่านนั้นที่เคยผ่านการปฏิบัติงานมา งานนี้เหตุเกิดที่ชั้น 36 จนลามไปถึงชั้นที่ 37 และด้วยเป็นตึกที่กำลังก่อสร้างจึงทำให้มีไม้ที่ค้ำยัน เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ไม้เหล่านั้นจึงจัดว่าเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีไฟที่รุกลามเพิ่มที่ชั้น 37 จึงรุนแรงจนเป็นสีแดงจากเปลวไฟทั่วยอดตึกพร้อมยังมีสะเก็ดจากไฟหล่นลงมาทั่วบริเวณโดยรอบ ๆ อาคาร “เอสโอเอซิส”

ในเวลานั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการสั่งปิดการจราจรฝั่งวิภาวดีขาออก เพราะในที่นั้นคือปากซอยวิภาวดี 9 เจ้าหน้ากลัวว่าสะเก็ดที่ตกลงมาจากอาคารสูง 37 ชั้น ไปโดนรถที่กำลังวิ่งบนท้องถนนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหายได้

ในที่จุดเกิดเหตุโดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ระดมรถดับเพลิงมา 10 คันเพื่อระงับเพลิง แต่ไม่สามารถปฏิบัติงานในตึกที่สูงได้ จึงได้ขอความช่วยเหลือไปยังเขตคลองเตยเพื่อจะใช้รถดับเพลิงกระเชา ซึ่งมีความสูงประมาณ 90 เมตรมาช่วยในการดับเพลิง จนในที่ส่วนเจ้าหน้าสามารถควบคุมเปลวไฟของตึกสูงลงได้ ในเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจได้เดินเท้าต่อจากลิฟต์ที่ขนของพร้อมกับถังดับเพลิง 120 ถังขึ้นไปยังตึกอาคาร “เอสโอเอซิส” เพื่อดับเถ้าถ่านที่ยังไม่สงบ

นายธีรยุทณ ภูมิภักดิ์ รอง ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้กล่าวว่า “เนื่องจากว่าในอาคารไม่มีแหล่งน้ำ ต้องใช้ถังดับเพลิงอย่างเดียวในการดับตั้งแต่ต้นโดยการลำเลียงผ่านลิฟต์ไฟฟ้าขึ้นไป ถังดับเพลิงจำนวน 120 ถัง เรายังสบายใจนิดหนึ่งว่า กรณีการช่วยเหลือ ไม่มีคนหรือสิ่งมีชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นจึงเหลือเพียงทรัพย์สินกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้นที่ต้องจัดการ ทรัพย์สินเราสามารถป้องกันได้ 100% เสียหายเฉพาะนั่งร้านที่เป็นไม้ ”