Friday, 22 November 2024

ความเชื่อเรื่องการ “กรวดน้ำ” ที่ว่าถ้าไม่ทำจะไม่ได้บุญมันจริงหรือไม่จริง

18 Nov 2022
282

การกรวดน้ำ ความเชื่อโบราณ ที่ต้องทำทุกครั้งหลังจากการ “ทำบุญ” แล้วมันเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงที่ว่ากันว่าถ้าไม่กรวดน้ำหลังทำบุญจะไม่ได้บุญทั้งคนที่ทำและคนที่เราอุทิศผลบุญกุศลไปให้ ดูดวง บอกเลยใครที่ยังคงสงสัยกับคำถามที่เราเกริ่นมาเมื่อสักครู่ต้องมาดูแล้วคุณจะเข้าใจ

สล็อต xo Slotxo

การกรวดน้ำ ความเชื่อโบราณ ที่ต้องทำทุกครั้งหลังจากการ “ทำบุญ”

การกรวดน้ำ ต้องทำทุกครั้งหลังจากการ “ทำบุญ”

เมื่อพระสงฆ์สวดบท “ยถา…” ขึ้นมาเชื่อว่าคนไทยทุกคนนั้นทราบกันดีอยู่แล้วว่ามันคือบทสวดอะไร เพราะนี่คือบทสวดที่คุ้นหูคุ้นตาประชาชนคนไทยที่เกิดอยู่ที่เมืองไทย และเวลาที่ไปเข้าร่วมงานหรือพิธีต่างๆเราก็จะต้องไปยินบทสวดนนี้เสมอตั้งแต่เกิดมาจนถึงอายุป่านนี้ และมีผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยเลยชอบบอกว่า “ถ้าหากว่าทำบุญแล้วต้องกรวดน้ำด้วย เพราะไม่ทำอย่างนั้นเราจะไม่ได้รับบุญที่เราทำ” หรือหากเป็นการทำบุญให้ผู้ที่ตายจากไปแล้ว ก็จะไม่ได้รับส่วนบุญที่เราทำให้ หากไม่มีการกรวดน้ำ

แล้วทำไมต้อง “กรวดน้ำ” ?

การที่เราตั้งใจอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้คนในครอบครัวที่จากไปอยู่ในอีกพบภูมิ หรือทำให้แก่เทวดาอารักษ์ที่คอยปกปักษ์รักษาตัวเองและรวมไปถึงเจ้ากรรมนายเวรเจ้าบุญนายคุณดวงวิญญาณที่ไม่มีญาติ เรานั้นสามารถอุทิศบุญที่ทำให้พวกเขาทั้งหลายได้ทันทีหลังจากที่ทำบุญเสร็จด้วยการกรวดน้ำ หรือใครที่สะดวกมากรวดน้ำให้ที่บ้านก็สามารถทำได้เช่นกันไม่จำเป็นจะต้องทำหลังทำบุญเสร็จก็ได้ ส่วนใหญ่ที่เขาไม่ค่อยกลับมาทำที่บ้านนั้นเป็นเพราะชอบ “ลืม” ถึงบ้านแล้วก็จบเช้าบ้านพักผ่อน แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นคนที่เราอยากทำบุญให้ก็จะไม่ได้รับผลบุญที่เราตั้งใจทำให้

ส่วนในตอนที่เรานั้นกำลังกรวดน้ำอยู่ในใจของเรานั้นให้นึกถึงคนที่เราตั้งใจอยากส่งบุญส่งกุศลไปให้ ไม่ว่าจะเป็นคนรักญาติสนิทมิตรสหายเจ้ากรรมนายเวรเจ้าบุญนายคุณ เราก็สามารถนึกส่งผลบุญกุศลนี้ไปให้เขาได้ผ่านความคิด ซึ่งเราสามารถกรวดน้ำได้ทั้งเปียกและแห้งแห้งที่ว่านั้นก็คือไม่มีน้ำแต่ให้นึกเอาในใจอย่างเดียว

ส่วนเปียกที่ว่านั้นก็คือใช้น้ำเปียกๆจริงๆนี้แหละเทลงไปที่พื้นและนึกถึงคนที่เราอยากส่งผลบุญไปให้ “การกรวดน้ำเพื่ออุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรหรือญาติที่จากโลกนี้ไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดพิสดารอะไรสำหรับคนไทย เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนรับทราบและทำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ยังมีความเชื่อเรื่องการ “กรวดน้ำ” ที่หลายคนก็ยังไม่รู้ และเกิดความสงสัยว่าแบบนี้ก็สามารถทำได้ด้วยหรอ

กรวดน้ำให้ตัวเองกับความเชื่อว่า “ทำบุญต้องได้บุญ”

กรวดน้ำให้ตัวเองกับความเชื่อว่า “ทำบุญต้องได้บุญ”

ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดพิสดารอะไรที่คนทำบุญแล้วต้องได้บุญ เพราะไม่ว่าเรานั้นจะทำอะไรเราก็มักจะได้ของสิ่งนั้นกลับมาตอยแทนเสมอ และการกรวดน้ำให้ตัวเองและเทวดาประจำตัว เป็นสิ่งแรกที่มนุษย์ทุกคนนั้นควรทำ เพราะการกรวดน้ำ ให้กับตัวเองคนส่วนมากนั้นลืมเพียงเพราะเข้าใจว่าตนเป็นคนทำบุญตนต้องได้รับบุญอยู่แล้ว เอาจริงๆแล้วการกรวดน้ำให้เทวดาประจำตัวและตัวของเราเองนั้นจำเป็นมากๆ เพราะเป็นการนำทางให้พลังกุศลผลบุญที่เราทำเข้าไปเติมบุญบารมี ช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นให้ผ่านไปได้ง่ายๆ ยิ่งทำบ่อยชีวิตของเรานั้นยิ่งจะดีขึ้นๆไปอีก

คนโบราณเราเชื่อว่าทุกคนจะมีเทวดาประจำตัว ที่คอยช่วยปกปักรักษาคุ้มครองเราให้อยู่เย็นเป็นสุขแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งป่วง เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยได้ยินเรื่องที่คนโบราณเล่าต่อกันมาว่า ถ้าเราไม่สร้างบุญสร้างกุศลากรวดน้ำให้เทวดาที่ดูแลรักษาเราเลย ชีวิตของเราก็จะแย่เทวดาของเรานั้นก็จะหลังบุญน้อยลง คนที่ทำอะไรแล้วไม่ราบรื่นชีวิตมีแต่ปัญหารุมเร้าของแนะนำว่าให้คุณลองทำบุญอุทิศผลกุศลบุญให้กับเทวดาประจำตัวและอุทิศให้กับตังเองดู เพื่อเสริมบารมี การเงิน การงาน และเรื่องต่างๆจะได้ราบรื่นจะได้ไม่ติดขัด

ไม่ชอบใครให้กรวดน้ำ “เปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี”

เคยได้ยินประโยคนี้หรือเปล่าที่บอกว่า “เจ้ากรรมนายเวร” บางครั้งก็มาในรูปแบบของคนรักเก่า เพื่อนรักที่ชอบหักหลัง คนข้างบ้านที่ไม่เคยเป็นมิตรกับเรา หรือแม้แต่คนที่ไม่รู้จักกันเลยแต่พอเห็นหน้ากันครั้งแรกก็ไม่ชอบไม่โดน เห็นแค่หน้าก็ตั้งหน้าตั้งตาไปเป็นศัตรูกันแบบไร้เหตุผล หากจะพูดไปถึงความเกี่ยวข้องกันตามหลักความเชื่อแล้วเราก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า เราและเขานั้นเคยไปสร้างเวรสร้างกรรมอะไรเอาไว้มากมาย เรื่องที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้อาจจะต้องใช้วิจารณญาณในการฟังสักหน่อย เพราะความเชื่อที่บอกว่าการกรวดน้ำสามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป้นเรื่องดีได้นั้นเป็นเรื่องความเชื่อ เชื่อที่ว่าเมื่อทำไปแล้วส่งผลให้รู้สึกสบายใจเหมือนเป็นการเติมบุญ

โดยความเชื่อนี้นั้นว่ากันว่า หากมีคนเข้ามาทำให้เรานั้นหนักอกหนักใจ เจอกับครั้งใดก็มีแต่ปัญหามีแต่เรื่องนั้นให้เราลองทำบุญกรวดน้ำพร้อมเอ่ยชื่อนามสกุลของคนที่ทำให้เราเป็นทุกข์ขึ้นมา ให้เขาได้รับบุญที่เราทำให้พร้อมอธิษฐานให้เขาเมตตาเรา คิดดีและเป็นมิตรที่ดีต่อเราไม่นำพาเรื่องราว การกระทำแบบนี้อาจไม่ได้ทำให้เรานั้นเห็นผลในทันทีแต่หากเป็นประจำ คนที่นำความเดือดร้อนมาให้เรา อาจหายไปจากชีวิต หรือกลายเป็นมิตรที่ดีของเราเลยก็ได้

กรวดน้ำคว่ำขัน อย่ามาเจอกันเลยในชาตินี้

กรวดน้ำคว่ำขัน อย่ามาเจอกันเลยในชาตินี้

คำว่า “คว่ำขัน” ถือเป็นการตัดขาดบอกลาความเกี่ยวข้องกันของคนให้จบและสิ้นสุดลงไป เปรียบเสมือนสายน้ำที่ขาดออกจากกัน (อาศัยอาการเทให้หมด ให้มันหมดสิ้นกันไป) ประมาณว่าทำเสร็จก็ให้มันจบกันไปอย่าได้พบได้เจอกันอีกต่อไป ซึ่งการกรวดน้ำคว่ำขันหลายคนอาจทำให้แฟนเก่าเชิงต่อว่า “ขอตัดขาดกรวดน้ำคว่ำขันกันไปแล้ว ขออย่าได้เจอกันอีกเลย” การกรวดน้ำแบบปกติที่เรานั้นทำกันมาตั้งแต่โบราณนั้นคือ เราจะทำโดยเทน้ำพร้อมท่องบทสวดไปพร้อมๆกันอย่างเชื้องช้า

ส่วนการ “คว่ำขัน” คือการกรวดน้ำจนน้ำหมดรวดเดียวแล้วเอาปากขันจิ้มลงดิน คล้ายๆกับการทำประชดประชัน เหมือนการตัดขาด ชนิดที่ว่าน้ำก็จะไม่ให้เหลือสักหยดติดขัน หรือทำตามสำนวนไทยที่บอกตัดบัวไอย่าให้เหลือใย ตามหลักแท้ๆนั้นบอกว่ากรวดน้ำคว่ำขัน ขันจะอยู่ในท่าตะแคงโดยเอาก้นขันตั้งฉากกับพื้นเท่านั้น หรือเทน้ำให้หมดเพียงเท่านั้นก็เสร็จสิ้นแล้ว

การกรวดน้ำ เพื่อทำบุญ

วิธีการกรวดน้ำ

ให้เราค่อยๆ เทรินน้ำลงในภาชนะที่เตรียมเอาไว้ และห้ามเอานิ้วมือเข้าไปวางใต้น้ำที่กรวดเด็ดขาด เพราะเป็นการทานไม่สุด หลังจากกรวดน้ำเสร็จ ให้นำน้ำไปรดลงในโคนต้นไม้ที่มีรากฝังในผืนดิน ห้ามไปเทลงในต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้ในกระถาง เพราะน้ำนั้นจะถูกพระแม่ธรณีเก็บเอาไว้ และท่านจะเป็นทิพยพยานในการสร้างบุญของเรา