Saturday, 25 May 2024

เมื่อคนหันหลังให้ “ศาสนา” แล้วหันมาให้ความสนใจในศาสาตร์ “มูเตลู” แทน

30 Apr 2023
207

ดูดวง เมื่อคนหันหลังให้ศาสนา แล้วพุ่งเป้าเปลี่ยนประเด็นมาให้ความสนใจเรื่องของการ “ดูดวง” ในศาสาตร์ “มูเตลู” โดยที่ไม่ได้แคร์คำสอนและความเชื่อที่มีมาตั้งแต่โบราณเลย ว่ามันเคยเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้มาก่อน เพื่อให้เป็นที่พึ่งพาทางชีวิตทางจิตใจทั้งในตอนนี้และในอนาคต

สล็อต xo Slotxo

เมื่อคนหันหลังให้ศาสนา แล้วหันมาให้ความสนใจเรื่องของการ “ดูดวง” ให้เป็นความหวัง

เมื่อคนหันหลังให้ศาสนา แล้วหันมาให้ความสนใจเรื่องของการ “ดูดวง” ให้เป็นความหวัง

เมื่อ “การดูดวง” กลายเป็นเรื่องยอดนิยมที่คนทุกยุคทุกสมัยนั้นให้ความสนใจในทางสังคม ที่มีความเชื่อมโยงกันไปถึงหลักธรรมคำสอนทางศาสนา แต่ถ้าว่าแม่หมอมาดามปีได้ทำให้เห็นอีกมุมในยุคสมัยนี้ว่า ศาสนาไม่ได้เป็นที่สิ่งที่ทำให้คนนั้นสงบได้ทุกครั้ง และคนกลุ่มหนึ่งนั้นก็ไม่ลังเเลที่วิ่งเข้าหาหมอดูเพื่อเช็คเพื่อทำนายดวงเอง โดยที่ไม่ได้แคร์ถึงข้อห้ามที่เชีบยบังคับเอาไว้

ถ้าลูกดวงไม่ให้ดู หมอดูก็ดูไม่ได้

ไม่ควรบังคับใครดูดวง คำตอบที่ออกมาด้วยคำยืนยันที่เสียแข็งจาก “แม่หมอมาดามปี” หมอดูชื่อดังที่เชี่ยวชาญเรื่องแบบนี้ นั้นเล่าถึงเหตุผลการดูดวงให้กับสื่อฟังเอาไว้ว่า เพราะความสนใจมากมายหลากหลายแขนงจึงหาเวลาไปค้นคว้าข้อมูลมาเพิ่ม ก่อนจะรู้ว่าเรื่องพวกนี้นั้นไม่เกี่ยวกับการเดาการสุ่ม หรือหมอดูไม่เหมือนกับหมอเดา เพราะการพยากรณ์จะเชื่อมโยงกันกับเรื่องของธรรมชาติ ดวงดาว ที่มีเส้นร้อยเรียงต่อกัน

เมื่อคนหันหลังให้ศาสนา ล้วหันหน้ามาดูดวง

คนหันหลังให้ศาสนาแต่กลับหันหน้าเข้าหาการดูดวง

ไม่ได้เป็นเรื่องโกหกเลยที่ทั้งศาสนาคริสต์ และอิสลาม และศาสนาอื่นๆนั้นสอนให้ประชาชนคนของตัวเองนั้นเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าของตัวเองแค่เพียงพระองค์เดียว และเรื่องของความศรัทธาทางศาสนาจะเยอะจะน้อย นั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องส่วนบุคคล ถ้าใครคิดว่าจะเป็นบาป จะไม่เชื่อจะฟังจะไม่ฟังก็ไม่ผิดอะไร และไม่ควรมีใครไปบังคับ

แต่หมอดูท่านนี้นั้นบอกว่าทุกวันนี้คนที่มาดูดวงกับเธอนั้นไม่ได้มีแค่ศาสนาเดียวเท่านั้น เพราะมีมากมายมาจากทั่วทุกมุมโลก และที่ไม่น่าเชื่อกว่านั้นก็คือ มีคน “ไม่นับถือศาสนา” จำนวนมากอีกด้วย ซึ่งเหตุผลบางข้อนั้นน่าจะมาจากข่าวเสียๆหายๆเรื่องที่ไม่ดีทางด้านศาสนาที่ออกข่าวมาไม่เว้นแต่ละวัน

แน่นอนว่ามันทำให้หลายๆคนนั้นหมดศรัทธาไม่เชื่อ ไม่อยากไปทำบุญ ไม่อยากเข้าวัดเข้าโบถ์ ไม่อยากจะทำทานกับพระกับสงฆ์กับวัดหรือกับศาสนา แต่พวกเขานั้นจะเลือกจะทำบุญกับผู้ยากไร้ หรือสัตว์ที่เป็นสัตว์จรจัดไม่มีเจ้าของที่น่าสงสารมากกว่าจะเข้ากับศาสนา

เริ่มต้นไม่มีศาสนา แต่ลงท้ายด้วยศาสนาตลอดดเวลา

คนที่เข้ามาดูดวงแทบจะทุกคนนั้นไม่ได้แจ้งส่าตัวเองนั้นนับถือศาสนาอะไร จะมาทราบจะมาบอกก็ตอนที่ให้ตั้งจิตอธิษฐาน หรือตอนที่บอกว่าให้ไปแก้กรรม เพราะทุกคนเชื่อว่าการดูดวงไม่ได้เชื่อมโยงกันกับศาสนา แต่เป็นเรื่องของความอยากรู้ ความไม่สบายใจ การอยากระบายอยากปล่อยสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

เมื่อคนหันหลังให้ศาสนา-2

หมอดูก็กลายเป็นเพื่อน เป็นนักจิตบำบัด ไปแบบกลายๆ

แต่เมื่อหมอดูบอกเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นหรือเรื่องที่มันสามารถเกิดขึ้นได้ กับเรื่องที่เคยเกิดในอดีตของเรา และอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต นั้นมันจะทำให้คนที่ดูดวงนั้นเชื่อแล้วจะตั้งคำถามกลับมาถามว่า จะต้องทำยังไงต่อไป และทางหมอดูนั้นก็จะแนะนำไปในทางศาสนาว่าให้หมั่นทำความดีเรื่อยๆ ทำอะไรแล้วสบายใจก็ให้เริ่มทำสะ

ซึ่งในเวลานั้นคนที่มาดูดวงนั้นก็จะรับรู้ขึ้นมาทันทีว่าตัวเองนั้นนับถือศาสนาอะไร แล้วจะรู้ทันทีว่าแต่ละศาสนานั้นมีเรื่องอะไรที่ห้ามทำ คนที่นับถือศาสนาพุทธก็จะนิยมไปทำบุญ ปล่อยสัตว์ตรมความเชื่อ ซื้อของบริจาคตามสถานที่ต่างๆ เช่น มูลนิธิ ศาสนาของทางมุสลิมหรือคริสเตียน ก็จะกลับไปาโบถ์ไปหา อิหม่าม หรือ บาทหลวง หรือทางที่ทำให้สบายใจได้ตามความเชื่อนั้นๆ

ขอบเขตของหมอดู

ขอบเขตของหมอดู

หมอดูเองนั้นก็จำเป็นต้องมีขีดจำกัดในการทำหน้าที่ของตัวเอง ในมุมของการดูดวงจะมีขีดจำกัดเอาไว้ว่า การดูดวงต้องขึ้นกับคนที่จะเข้ามาดูดวง ว่าเขานั้นจะให้ดูดวงของเขานั้นลึกได้แค่ไหน ถามอะไรก็จะตอบจะบอกแค่นั้น แล้วอยู่ที่เขาเปิดให้เรา และเราเองช่วยได้มากน้อยแค่ไหนด้วย

การดูดวงการเปิดดวงของหมอดูที่คนที่เข้ามาดูดวงได้แต่ละที่นั้น หรือไม่เว้านแม้แต่ละเรื่องแต่ละดวงก็ไม่เหมือนกัน เพราะทางตะวันตกนั้นจะช่วยคนด้วยวิธีการบำบัดพฤติกรรม ไม่จมอยู่กับความเชื่อหรือศาสนา การดูดวงทางของฝั่งตะวันตกตามตำราตามความเชื่อนั้นฝรั่งจะไม่มีคำว่ากรรมจากอดีตชาติหรือเจ้ากรรมนายเวรเลย แต่จะเข้าประเด็นให้คนนั้นแก้ไขตัวเอง

เตือนให้ได้สติเตือนให้คิดได้แนะนำให้แก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่ทางตะวันออกอย่างเช่นที่ประเทษไทยนั้นจะเน้นไปทางสายมูเตลูที่ไม่รู้ว่าจะไปไหว้ที่ไหนบ้าง แล้วต้องไปไหว้ทุกสิ่งที่เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ที่เรานั้นศรัทธาและไม่ศรัทธา และทำทุกอย่างจนหลายเรื่องถูกมองว่างมงายแบบไม่มีเหตุผล

หลายประเทศจากทั่วทุกมุมโลกนั้นมีคำทำนายเป็นของตัวเองอยู่แล้ว โดยที่ศาสตร์ต่างๆนั้นไม่ได้มีจุดเริ่มต้นจากศาสนา แต่เป็นเรื่องของวัฒนธรรม ความเชื่อ ประเพณี แต่เมื่อต้องการให้คนหมู่มากนั้นเข้ามาอยู่ด้วยกันเชื่ออด้วยกันจึงต้องนำความเชื่อ ความศรัทธาของศาสนาเข้ามารวมเข้าด้วยกัน เช่น การดูไพ่ทาโรต์ ที่อาจมีรูปนักบวช เทพ ปีศาจในความเชื่อ ตำนานต่แทรกเข้าไปอยู่ในภาพที่เราเห็น

แต่จุดประสงค์หลักคือ ต้องการให้ทุกคนนั้นเชื่อในความดี เหมือนกันกับทุกศาสนาที่มีจุดประสงค์เหมือนกันทั้งหมด แล้วทุกคนทราบหรือเปล่าว่า TAROT นั้นความเป็นไปเป็นมาแต่เดิมนั้นมาจาก TORAH หรือคัมภีร์โตราห์ ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่เหมือนเป็นอย่างมากกับคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์มากที่สุดของโลก สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่

ติดตามข่าวเมื่อคนหันหลังให้ศาสนาที่นี่