ย้อนรอย “คดีฆาตกรรมไทลินอล” ยาพิษที่ขึ้นชื่อว่าคือฆาตกรรมสังหารผู้คนที่รัฐอิลลินอยแห่งสหรัฐอเมริก

ย้อนรอย “คดีฆาตกรรมไทลินอล” ยาพิษในประวัติศาสตร์ที่ขึ้นชื่อว่าคือต้นเหตุที่ทำให้เกิดการฆาตกรรมคนหมู่ครั้งนี้นั้นเกิดขึ้นที่ ณ เขตมหานครชิคาโก รัฐอิลลินอย สหรัฐอเมริกา ในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2525 เชื่อว่าหลายคนนั้นคงเคยได้ยินเรื่องราวของยาพิษชนิดนี้มาบ้างแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่เคยบอกเลยต้องดูห้ามพลาดเด็ดขาด

คดีฆาตกรรมไทลินอล ย้อนรอยคดีฆาตกรรมหมู่ในนครชิคา พ.ศ. 2525

ทุกคนเคยสงสัยไหมว่าบรรจุภัณฑ์ยาที่ทางบริษัทยาผลิตขึ้นมาให้เราซื้อกินเพื่อรักษาอาการป่วยนั้นทำไมถึงมาในรูปแบบแผงที่ต้องแกะกินทีละหนึ่งเม็ด ไม่ว่าจะซื้อหรือจะรับจากที่โรงพยาบาล!?? แม้ว่าความสงสัยที่เรากล่าวมาเมื่อตอนต้นจะเป็นหนึ่งความสงสัยที่มีผู้คนนึกถึงน้อยมาก แต่หารู้ไหมว่านี่มันมีผลมาจาก คดีดังในอดีตที่เป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี 2525 ที่ยังไม่สามารถจับกลุ่มตัวคนร้ายได้ขนาดผ่านมานานหลายสิบปีแล้ว สำหรับวันนี้เราก็จะพาทุกคนนั้นย้อนกลับไปดูคดีฆาตกรรมยาพิษไทลินนอล ที่เกินขึ้นเมื่อปี 2525 ณ เขตมหานครชิคาโก รัฐอิลลินอย สหรัฐอเมริกาในฤดูใบไม้ร่วง เหตุการณ์ในปีนั้นเกิดขึ้นกับคนทั้งหมดจำนวน 4 คน และแต่ละคนนั้นอยู่คนละที่ดังนี้

1.เด็กสาววัย 12 ปีชื่อ แมรี่ เคลเลอร์แมน

• อาศัยอยู่ในแถบชานเมือง

2.อดัม เจนัส พนักงานไปรษณีย์ วัย 27 ปี ที่มีคนในครอบครัวดังนี้

• อาศัยอยู่ที่ อาร์ลิงตันไฮทส์
• สแตนลีย์ เจนัส
• เทเรซ่า เจนัส

ทั้งสี่รายชื่อที่เราได้กล่าวมานั้นได้เสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนาคาดว่ามาจาก “พิษโซยาไนด์” ที่อยู่ในยาพาราเซตามอลที่พงกเขานั้นกินลงไปและยาที่พวกเขากินนั้นก็คือแบรนด์ดังที่เรารู้จักกันดี “ไทลินอล” บริษัทผู้ผลิตนั้นก็คือ “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” ในตอนแรกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้บอกว่าการเสียชีวิตของทั้งสี่คนที่กล่าวมานั้น เกิดขึ้นจากการกินยาพาราโดยตรง แต่พวกเขานั้นคิดว่าทั้งสี่คนนั้นอาจเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นๆอย่างเช่นหัวใจวายที่มีเหตุมาจาการกินยาเกินขนาด

และเมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่วันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับแจ้งเหตุอีกว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีกจำนวนสามคน และทั้งสามคนที่พึ่งเสียชีวิตนั้นต่างก็มียาพาราเซตามอลยี่ห้อเดี่ยวกันกับสี่คนที่แล้วเอาไว้ในครอบครอง หนึ่งสิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่สังเกตได้ว่ามันผิดปกตินั้นก็คือในขวดยาของทุกคนส่วนใหญ่นั้นมีกลิ่นอัลมอนด์ ที่คือเอกลักษณะของไซยาไนด์

หลังจากที่มีเรื่องผิดสังเกตแน่นอนว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตยาพาราเซตามอล “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบขั้นตอนการผลิตอย่างละเอียดแน่นอน และเรียกเก็บผลิตภัณฑ์ที่ถูกจำหน่ายออกไปกลับคืนมาทั้งหมดเพื่อทำการตรวจสอบและป้องกันการเกิดเหตุซ่ำๆ ส่วนการตรวจสอบนั้นออกมาว่าขั้นตอนการผลิตยานั้นไม่ได้ผิดปกติหรือมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหาใดๆเลย ส่วนตัวยาที่ผู้เสียชีวิตทุกคนกินนั้นกลับมีร่องรอยการถูกนำไปเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่น หลังจากที่ซื้อมาจากผู้ผลิตเนื่องจากเหตุการณ์นี้มันเชื่อมโยงกันกับเหตุการณ์ที่เกิดในชิคาโก

ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนนั้นได้ออกมาบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอาจมาจากผู้ที่ไม่ประสงค์ดีแอบหยิบยาออกมาจากชั้นวางขายของ หลังจากนั้นพวกมันอาจทำการฉีด “ซยาไนด์” ลงในแคปซูลเจลแล้วทำการปิดบันจุภัณฑ์เก็บเอาไปคืนไว้ที่เดิมอีกครั้ง และนี่คือการก่อเหตุที่ไม่สามารถจับกุมตัวคนทำได้ เนื่องจากในอดีตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้นั้นไม่สามารถตามตัวผู้ร้ายให้กลับมารับโทษได้ง่ายเพราะเทคโนโลยียังมีไม่มากเหมือนตอนนี้

แม้ว่า “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” เองจะได้รับบจดหมาที่คาดการณ์ว่าน่าจะส่งมาจากผู้ที่ผสมบางอย่างลงในยาของเขา เพื่อขู่เอาเงินแล้วจะหยุดการกระทำดังกล่าวดก็ตาม แต่ถ้าว่าความเป็นจริงแล้วคนที่ส่งจดหมายมานั้นก็ไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายที่แท้จริง เพราะพวกมันนั้นสารภาพว่า พวกมันอาศัยช่วงที่เหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้นส่งจดหมายไปรีดไถเอาเงินแค่นั้นแต่มันไม่ได้ใส่ “ซยาไนด์” ลงไปในยาจริงๆ แต่ถ้าว่าชายคนดังกล่าวก็ไม่รอดพ้นโดนศาลพิพากษาตัดสินจำคุก 20 ปีในข้อหากรรโชกทรัพย์

และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้ขึ้นอีกครั้งในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนและพิสูจน์หลักฐานคดีนี้ ทางบริษัทผู้ผลิตยาทั่วโลกนั้นต่างก็ทำการเปลี่ยนแปลงรูปแบบบันจุภัณฑ์ที่ใส่ตัวยาของตัวเองใหม่ขึ้นมาเช่น

• การบรรจุยาแบบ 3 ชั้นในกล่องปิดกาว
• มีซีลฟอยล์รอบคอขวด
• มีแหวนพลาสติกรอบคอขวด
• ทำออกมาในรูปแบบแผง
• เปลี่ยนจากแบบแคปซูลเป็นเม็ด

ส่วนวิธีการที่ดูแล้วน่าจะดีและน่าจะมีประโยชน์มากที่สุดนั้นน่าจะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบของเม็ดยาแบบที่เป็นแคปซูลให้มาเป็นยาอักเม็ดแล้วบรรนจุลงในแผง นั้นคือว่าโอเคมากที่สุด เพราะนี่คือการป้องกันไม่ให้มีคนมาฉีดสารพิษหรือแกะตัวยาออกมาปรุงผสมเพิ่ม และหลังจากนั้นไม่นานความคิดที่กล่าวมานั้นก็ถูกนำมาใช้จนองค์การอาหารและยาสหรัฐฯนั้นได้ออกมาประกาศ ให้ผู้ผลิตยาทั่วโลกนั้นต้องมีมาตรฐานตามกฎหมายบรรจุภัณฑ์ยาตั้งเอาไว้ แม้คดีดังกล่าวจะไม่สามารถขับกุมตัวคนร้ายให้มารับผิดชอบกับสิ่งที่พวกเขาทำลงไปได้ แต่มันก็คือเหตุการณ์ที่ทำให้วงการผู้ผลิตยานั้นเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก เพื่อป้องกันความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค